xs
xsm
sm
md
lg

“วิทวัส-ลีลา สุนทรวิเนตร์ พ่อลูกที่ห่วงใยกันเสมอ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะพิธีกรรายการโทรทัศน์ที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของไทย สำหรับคุณวิทวัส สุนทรวิเนตร์ ที่ควงคู่มากับคุณป้อน ลีลา สุนทรวิเนตร์ ลูกสาวคนรองที่กำลังไปได้สวยสุดๆ กับการทำงานในวงการบันเทิงเช่นเดียวกับคุณพ่อ แต่ไม่ว่าลูกสาวคนนี้จะเติบโตจนกลายเป็นสาวสวยแถมเก่งอย่างหาตัวจับได้ยากแล้วก็ตาม ก็ยังคงเป็นสาวน้อยในสายตาของคุณพ่อ ซึ่งยังคอยตามเป็นห่วงเป็นใยอยู่ดี

แม้ตารางงานของสองพ่อลูกคู่นี้จะแน่นเอี้ยดก็ตาม แต่ทั้งคู่ก็ยังหาเวลามาแบ่งปันเรื่องราวน่ารักๆ ของทั้งคู่ให้เราได้ฟังกันในวันนี้

“ป้อนเขาเป็นเด็กดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว” คุณวิทวัสพูดพลางทำท่านึกย้อนถึงเมื่อครั้งคุณป้อนยังเด็ก “แค่ได้เห็นว่าลูกโตมาแข็งแรงแบบนี้ผมก็ภูมิใจแล้ว เพราะเมื่อตอนเด็กๆ ป้อนตัวเล็กมาก ทำให้ผมยิ่งรู้สึกว่าต้องคอยปกป้องลูกอยู่ตลอดเวลา แต่พอเขาโตขึ้นเขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาก็แกร่งเหมือนกันนะ แล้วด้วยความที่ป้อนเป็นเด็กหัวดี บุคลิกดี ใครๆ ก็รัก พอลองมองดูลูกโตมาขนาดนี้ เราเองก็นึกนะว่าเวลาผ่านไปเร็วจริงๆ ตอนนี้ป้อนทำงานหาเงินเองแล้ว และถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำงานตรงกับสายที่เรียนมา แต่ผมก็เห็นว่าลูกพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด ได้เห็นความทุ่มเทที่เขามีผมก็ภูมิใจนะ ถือว่าลูกโตแล้ว และดูแลตัวเองได้ดีแล้ว แต่ด้วยความเป็นพ่อ ยังไงเขาก็ยังเป็นเด็กในสายตาของผมเสมอแหละ ผมก็ยังคงเป็นห่วงเขาในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ”

คุณป้อนยิ้มกว้างหลังจากได้ยินคำชมจากคุณพ่อ “คุณพ่อดูแลป้อนดีมากมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ แถมยังเป็นห่วงมากด้วยโดยเฉพาะตอนที่ป้อนยังเป็นเด็ก อย่างตอนหัดขับรถใหม่ คุณพ่อสั่งห้ามเลยทีเดียวว่าหกเดือนแรกห้ามขับคนเดียว ต้องมีพ่อนั่งไปด้วย ซึ่งตอนนั้นก็แอบหงุดหงิดเล็กๆ นะคะ” คุณป้อนเล่าไปหัวเราะไป “แต่พอมองย้อนกลับไป ก็เข้าใจค่ะว่าการปล่อยให้ลูกสาวขับรถคนเดียวเป็นครั้งแรกเนี่ย เป็นเรื่องที่น่ากังวลมากสำหรับคุณพ่อ จำได้ว่าเขาเกร็งมาก พูดย้ำตลอดว่าถ้าถึงปลายทางแล้วให้รีบโทรบอกทันที ซึ่งป้อนรู้สึกขอบคุณมาก ที่เขาคอยดูแลและเป็นห่วงเราในทุกด้านของชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็เข้าใจ และปล่อยให้เราโตอย่างมีอิสระ”

“การได้ก้าวมาทำงานในวงการเดียวกับคุณพ่อก็เป็นเรื่องสนุกดีค่ะ แต่บางทีป้อนก็รู้สึกว่าเรามีความรับผิดชอบมากหน่อยในฐานะลูกสาวของหนึ่งในพิธีกรรายการโทรทัศน์อันดับต้นๆ ของประเทศไทย คือจะทำให้ผู้ชมและผู้ฟังผิดหวังไม่ได้ มันมีความกดดันตรงนี้อยู่เหมือนกัน แต่เพราะมีคุณพ่ออยู่ข้างๆ คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ ป้อนถึงผ่านความกดดันนั้นมาได้ จำได้ว่าวันแรกที่จัดรายการวิทยุในฐานะดีเจ กลับบ้านมาคุณพ่อก็ชมอย่างเดียวเลย เขาจะไม่พูดว่าป้อนจะต้องทำอะไร แต่จะบอกว่าป้อนทำได้ดีแล้วนะ แต่จะดีกว่านี้ถ้าเพิ่มตรงจุดนั้น จุดนี้อีกหน่อย กำลังใจจากคุณพ่อช่วยป้อนได้เยอะมากค่ะ และป้อนก็รู้สึกว่าตัวเองนี่โชคดีนะ ที่มีคุณพ่อที่เข้าใจและเอาใจช่วยเราตลอดเวลา” คุณป้อนกล่าว

“เพราะพ่อรู้จักเราดีไง” คุณวิทวัสพูดพลางหัวเราะ “ป้อนเขาเป็นคนคิดเยอะ ดังนั้นแทนที่จะดุ หรือห้ามทำโน่นทำนี่ ผมมักจะใช้ตัวอย่างในชีวิตประจำวันมาคุยกับเขา บอกเขาว่าอะไรดีไม่ดี ควรไม่ควร ตั้งแต่ป้อนยังเด็ก ผมจะใช้วิธีคุยกับเขาโดยอาศัยช่วงที่ขับรถไปส่งเขาที่โรงเรียนนี่แหละ ฟังข่าวไปด้วยกัน และคุยกับลูกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจะมีผลกระทบอย่างไรต่อใครบ้าง ใครทำอะไร ผลเป็นยังไง ผมเชื่อว่าการสอนแบบนี้จะทำให้เขาค่อยๆ ซึบซับเรื่องของจริยธรรมไปอย่างเป็นธรรมชาติ”

“แต่ป้อนจะจำช่วงที่คุณพ่อมารับหลังเลิกเรียนได้ดีกว่า คือไม่ใช่ว่าแค่เพราะว่าได้เวลากลับบ้านนะ (หัวเราะ) เพราะป้อนรู้ว่าเขาจะมีเรื่องใหม่ๆ มาเล่าให้ฟังอีก และจะดีเป็นพิเศษหากวันไหนคุณพ่อต้องแวะเติมน้ำมันตอนขากลับที่ปั๊มเชลล์ใกล้บ้าน เพราะช่วงก่อนห้าโมงเย็นรถยังไม่ติดมากนัก แบบว่าพอคุณพ่อเปิดไฟเลี้ยวเพื่อเข้าปั๊มเชลล์ปุ๊บเราจะแบบแอบยิ้มในใจ เพราะว่าทุกครั้งที่แวะ จะต้องได้ลงไปซื้อไอศกรีมในร้านซีเล็คท์ทุกที”

“คุณพ่อเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องของความซื่อตรง เขาจะย้ำเรื่องความซื่อสัตย์ในการทำงาน รวมถึงการใช้ชีวิตอยู่เสมอ ป้อนก็เชื่อว่าการสอนแบบคุณพ่อมีผลต่อการใช้ชีวิตของป้อนในปัจจุบันมากเลยนะ และเขามักจะสอนให้ป้อนทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และในขณะเดียวกัน ก็ให้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตด้วย” คุณป้อนกล่าว

“ผมดีใจที่เขาทำตามนะ” คุณวิทวัสกล่าว “พอมาเห็นเขาตอนนี้ ผมเชื่อว่าป้อนจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และจะเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตของเขา ดังนั้นโดยรวมแล้ว ผมก็ไม่ค่อยเป็นกังวลกับเขาเท่าไหร่ เรื่องที่ผมเป็นห่วง จะมีอยู่แค่อย่างเดียวคือความปลอดภัย คือตอนนี้เขาทำงานเยอะ แล้วก็ขับรถคนเดียวตลอด ผมเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนก็เป็นแบบผมเหมือนกัน คือจะอดห่วงไม่ได้ ด้วยความที่เขาใช้เวลาส่วนใหญ่บนท้องถนนคนเดียว ผมจึงอยากมั่นใจว่าลูกจะถึงที่หมายอย่างปลอดภัยในทุกการเดินทาง เรื่องเครื่องยนต์เนี่ยเขาไม่รู้มากนัก และอาจจะไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่ผมรู้ว่าอะไรที่เติมเข้าไปในเครื่องยนต์ของรถเรานั้นเป็นเรื่องสำคัญ คงไม่มีใครอยากให้รถของลูกสาวมีปัญหาระหว่างทาง โดยเฉพาะเวลาที่ขับรถคนเดียว และด้วยความที่ป้อนเองก็ไม่มีความรู้ด้านนี้เท่าไหร่ ผมจึงคิดว่าการดูแลสภาพเครื่องยนต์ให้ดีอยู่ตลอดเวลาน่าจะดีกว่า สำหรับรถคันนี้ผมแนะนำให้ลูกเติม เชลล์ E20 แก๊สโซฮอล์ เพราะตอนนี้เขาโตแล้ว ไม่มีผมคอยขับให้แล้ว ผมก็เลยต้องเลือกสิ่งที่สามารถเข้ามาทำหน้าที่ดูแลเครื่องยนต์แทนผมให้เขาก็แล้วกัน” คุณวิทวัสเหลือบมองลูกสาวพร้อมพูดขึ้นมาว่า “เชื่อพ่อสิ นี่มนุษย์พ่อมาเองเลยนะ” พร้อมกับหันไปขยี้ผมลูกสาวอย่างเอ็นดู

คุณป้อนหัวเราะพลางพูดปิดท้ายว่า “ค่ะ คนนี้สุดยอดมนุษย์พ่อจริงๆ ค่ะ”



(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)

กำลังโหลดความคิดเห็น