ข่าวในประเทศ - ประธานใหม่นิสสัน ประกาศเดินหน้าลุยตลาดเต็มสูบ รับเป็นความท้าทายในช่วงที่ความต้องการซื้อรถยนต์ในประเทศลดลง แต่ยังตั้งเป้าขาย 60,000 คัน และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 7% พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตรวมทะลุ 2 แสนคันต่อปี ย้ำโรงงานแห่งที่2 จะผลิตปิกอัพ “นาวารา ใหม่” เต็มกำลัง เพื่อรองรับการส่งออกไปทั่วโลก
คะซุทาเกะ นัมบุ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังเข้ามารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมาว่า ประเทศไทยถือเป็นฐานทางธุรกิจที่สำคัญของนิสสัน ทั้ง การผลิต การบริหาร และศูนย์วิจัยพัฒนา ขณะเดียวกันตลาดในประเทศยังมีความท้าท้ายเพราะตนเองเข้ามารับตำแหน่งในช่วงที่สถานการณ์การขายไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
“ช่วงนี้ความต้องการซื้อรถยนต์ของผู้บริโภคชาวไทยลดลง นิสสันและค่ายรถยนต์อื่นๆก็ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ดังนั้นทุกบริษัทต่างต้องผลักดันแผนต่างๆเพื่อสร้างยอดขายอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ตลาดเกิดการแข่งขันที่สูงมาก อย่างไรก็ตามด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของนิสสัน และความร่วมมือของเครือข่ายผู้จำหน่าย ปีนี้เราเตรียมรุกตลาดอย่างเต็มที่ มุ่งสร้างแบรนด์และสร้างความพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับมาตรฐานของโชว์รูม ศูนย์บริการ พัฒนาคุณภาพคนในด้านงานขายและบริการหลังการขาย ทั้งนี้เรายังมีแผนเพิ่มโชว์รูมศูนย์บริการให้ครบ 220 แห่งทั่วประเทศอีกด้วย”
ด้านนายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์เมืองไทยในช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์การขายน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก ส่วนหนึ่งเพราะผู้บริโภคต้องพยายามซื้อรถใหม่ก่อนที่โครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่จะเริ่มใช้ 1 มกราคม 2559 ส่งผลให้รถยนต์หลายรุ่นต้องปรับราคาขึ้น 3% หรือ 5%
ดังนั้นภาพรวมของตลาดรถยนต์เมืองไทยปีนี้ ถ้านับตามปีปฏิทิน (ม.ค.- ธ.ค. 2558) คาดว่าจะทำได้ประมาณ 8 แสนคันต้นๆ ในส่วนของนิสสันที่นับการขายเป็นปีงบประมาณ (เม.ย.2558-มี.ค. 2559) ตั้งเป้าหมายไว้กว่า 60,000 คัน เติบโตประมาณ 6% (ปีงบประมาณ 2557 ขายได้ 56,604 คัน) พร้อมครองส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 6.6% เป็น 7%
ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตจาก 1.8 แสนคัน เป็นกว่า 2 แสนคันในปีงบประมาณ 2558 นี้ โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออกและทำตลาดในประเทศสัดส่วน 70/30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งยอดการผลิตเพื่อส่งออกที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากปิกอัพนิสสันนาวารา
“โรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรกสามารถทำได้เต็มที่ 2.2 แสนคันต่อปี แน่นอนว่าจากสถานการณ์ปัจจุบันเรายังไปไม่ถึงจุดนั้น ทว่าโรงงานใหม่แห่งที่สองที่ผลิตปิกอัพ นาวารา ปีนี้จะเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต 7.5 หมื่นคัน (ในอนาคตสามารถขยายกำลังเพิ่มได้ถึง 1.5 แสนคัน) เพื่อรองรับตลาดในประเทศ และเริ่มแผนการส่งออกไปทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2558 เป็นต้นไป”นายประพัฒน์ กล่าว
คะซุทาเกะ นัมบุ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังเข้ามารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมาว่า ประเทศไทยถือเป็นฐานทางธุรกิจที่สำคัญของนิสสัน ทั้ง การผลิต การบริหาร และศูนย์วิจัยพัฒนา ขณะเดียวกันตลาดในประเทศยังมีความท้าท้ายเพราะตนเองเข้ามารับตำแหน่งในช่วงที่สถานการณ์การขายไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
“ช่วงนี้ความต้องการซื้อรถยนต์ของผู้บริโภคชาวไทยลดลง นิสสันและค่ายรถยนต์อื่นๆก็ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ดังนั้นทุกบริษัทต่างต้องผลักดันแผนต่างๆเพื่อสร้างยอดขายอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ตลาดเกิดการแข่งขันที่สูงมาก อย่างไรก็ตามด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของนิสสัน และความร่วมมือของเครือข่ายผู้จำหน่าย ปีนี้เราเตรียมรุกตลาดอย่างเต็มที่ มุ่งสร้างแบรนด์และสร้างความพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับมาตรฐานของโชว์รูม ศูนย์บริการ พัฒนาคุณภาพคนในด้านงานขายและบริการหลังการขาย ทั้งนี้เรายังมีแผนเพิ่มโชว์รูมศูนย์บริการให้ครบ 220 แห่งทั่วประเทศอีกด้วย”
ด้านนายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์เมืองไทยในช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์การขายน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก ส่วนหนึ่งเพราะผู้บริโภคต้องพยายามซื้อรถใหม่ก่อนที่โครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่จะเริ่มใช้ 1 มกราคม 2559 ส่งผลให้รถยนต์หลายรุ่นต้องปรับราคาขึ้น 3% หรือ 5%
ดังนั้นภาพรวมของตลาดรถยนต์เมืองไทยปีนี้ ถ้านับตามปีปฏิทิน (ม.ค.- ธ.ค. 2558) คาดว่าจะทำได้ประมาณ 8 แสนคันต้นๆ ในส่วนของนิสสันที่นับการขายเป็นปีงบประมาณ (เม.ย.2558-มี.ค. 2559) ตั้งเป้าหมายไว้กว่า 60,000 คัน เติบโตประมาณ 6% (ปีงบประมาณ 2557 ขายได้ 56,604 คัน) พร้อมครองส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 6.6% เป็น 7%
ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตจาก 1.8 แสนคัน เป็นกว่า 2 แสนคันในปีงบประมาณ 2558 นี้ โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออกและทำตลาดในประเทศสัดส่วน 70/30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งยอดการผลิตเพื่อส่งออกที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากปิกอัพนิสสันนาวารา
“โรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรกสามารถทำได้เต็มที่ 2.2 แสนคันต่อปี แน่นอนว่าจากสถานการณ์ปัจจุบันเรายังไปไม่ถึงจุดนั้น ทว่าโรงงานใหม่แห่งที่สองที่ผลิตปิกอัพ นาวารา ปีนี้จะเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต 7.5 หมื่นคัน (ในอนาคตสามารถขยายกำลังเพิ่มได้ถึง 1.5 แสนคัน) เพื่อรองรับตลาดในประเทศ และเริ่มแผนการส่งออกไปทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2558 เป็นต้นไป”นายประพัฒน์ กล่าว