นครศรีธรรมราช - ตำรวจนครศรีฯ สกัดจับรถ 2 ผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 300,000 เม็ด มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท ด้านผู้ต้องหาสารภาพเกลี้ยงได้ค่าจ้าง 2 แสนบาท โดยขนมาจากพื้นที่ภาคกลาง เพื่อนำไปจำหน่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เจ้าหน้าที่ขยายผลคาดมีความเชื่อมโยงคดีความมั่นคง
วันนี้ (17 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. สภ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช พล.ต.พีรพล วิริยากุล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เข้าแถลงผลการจับกุม และตรวจยึดยาบ้า จำนวน 3 แสนเม็ด รถยนต์กระบะนิสสันนาวารา ทะเบียน ฏษ 3433 กทม. เบื้องต้นพบว่าเป็นรถในประเทศมาเลเซีย ถูกสวมทะเบียนเป็นรถไทย ส่วนผู้ต้องหาคือ นายอับดุลเลาะ ดือราโอ๊ะ อายุ 24 ปี อยู่ 90/2 หมู่ 2 ตำบลบองอ จังหวัดนครศรีธรรมราช และนายรอสือลี ตาเฮ อายุ 40 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ อยู่ 19/3 หมู่ที่ 3 ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส
พล.ต.ต.เทศา ระบุว่า สำหรับการจับกุมนั้น สืบเนื่องจากมีสายแจ้งว่า รถยนต์กระบะสีดำนิสสันนาวารา กำลังขนยาเสพติดจากภาคกลางลงสู่ภาคใต้ตอนล่าง จึงตั้งด่านสกัดจับกุมจนพบผู้ต้องหาทั้งสองขับเข้าด่านมา และเมื่อเปิดกระจกพบว่า ในรถมีการปอกทุเรียนตั้งไว้ จึงทำการตรวจค้นจนพบยาเสพติดของกลางทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ในตู้ลำโพง จึงทำการจับกุมสอบสวนขยายผล และยังพบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย และเมื่อเข้าทำการตรวจค้นที่บ้านของ นายอับดุลเลาะ พบว่ามียาบ้าอีก 200 เม็ด จึงกับกุมภรรยาของนายอับดุลเลาะ ดำเนินคดีอีกราย ส่วนมูลค่าของยาบ้าทั้งหมดนั้นประมาณ 60 ล้านบาท
ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งสองรายยอมรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างเป็นเงิน จำนวน 2 แสนบาท โดยทุกขั้นตอนจะได้รับการประสานงานผ่านทางโทรศัพท์ทั้งหมด จากนั้นให้เดินทางให้ไปรับยาที่กรุงเทพมหานคร และขับรถยนต์คันนี้ลงมายังพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยที่ผู้ว่าจ้างยังไม่แจ้งว่าให้ส่งที่ใด แต่เมื่อมาถึง อ.จุฬาภรณ์ ได้ถูกจับกุมก่อน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายเข้าทำการสอบสวนขยายผลเชิงลึกเพื่อหาแหล่งที่มาของการว่าจ้าง รวมทั้งขยายผลความเชื่อมโยงกับคดีความมั่นคงใน 3 จังหวัดภาคใต้อย่างเร่งด่วน
