บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีของผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 47 ในกรุงเทพฯ โดย ฟินบาร์ โอคอนเนอร์ กรรมการผู้จัดการ แถลงผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของกู๊ดเยียร์ ประเทศไทยในปี 2557 พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า บริษัทฯ จะยังคงมียอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2558
การเติบโตของกู๊ดเยียร์ ประเทศไทยในปี 2557 สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทมีทั้งความชำนาญการและมากด้วยประสบการณ์ ในการมอบการบริการและสินค้าต่างๆ ที่มีคุณภาพให้กับลูกค้าทุกคน อาทิ ศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ ออโต้แคร์ ซึ่งให้การบริการแบบ “One Stop Shop” ที่ผู้ซื้อยางทุกคนจะมั่นใจได้ว่าพวกเขาได้ซื้อยางที่มีคุณภาพ มาตรฐานสูง และมีสมรรถนะชั้นเยี่ยมเหนือระดับ พร้อมการบริการต่างๆ ด้านการดูแลรักษายานยนต์
“ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่สำคัญแห่งหนึ่งของกู๊ดเยียร์ และเรารู้สึกภูมิใจที่ผลิตภัณฑ์ พนักงานและเครือข่ายการจัดจำหน่ายของกู๊ดเยียร์มีประสิทธิภาพอันดีเยี่ยม ส่งผลให้ธุรกิจของเราประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี” โอคอนเนอร์ กล่าวและว่า
“เราสามารถเพิ่มยอดขายได้เป็นที่น่าพอใจในปี 2557 และในปี 2558 เรายังตั้งเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไปอีก เราจะส่งเสริมให้มีกิจกรรมต่างๆ ที่กระตุ้นการมีส่วนร่วมของพนักงาน และมุ่งมั่นที่จะขยายศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ ออโต้แคร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศให้จงได้ภายในสิ้นปี ทั้งนี้ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ลูกค้าทุกท่านของกู๊ดเยียร์ ให้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของเราได้ง่ายยิ่งขึ้น และได้รับการบริการทั้งด้านการดูแลรักษายานยนต์ และยางรถยนต์ให้ดีที่สุด”
ในปี 2554 กู๊ดเยียร์มีศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ออโต้แคร์ 16 แห่งในประเทศไทย ปัจจุบัน กู๊ดเยียร์ขยายสาขาได้ถึง 55 แห่งทั่วประเทศ พร้อมกับมีแผนการขยายสาขาต่อไปเรื่อยๆ ในปี 2558 ทั้งนี้ ศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ ออโต้แคร์ทั้งหมดล้วนดำเนินการภายใต้เจ้าของซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์และยางรถยนต์ โดยได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากกู๊ดเยียร์ ประเทศไทย ในด้านสินค้า และราคาในรูปแบบเฉพาะของกู๊ดเยียร์ ออโต้แคร์ รวมถึงกลยุทธ์ในการบริหารสินค้าคงเหลือและการตลาด คำแนะนำด้านการบริการ การฝึกอบรมพนักงาน และคำชี้แนะด้านการจัดการธุรกิจ เป็นต้น
โอคอนเนอร์ กล่าวว่า “นับจากนี้ไป เรามีเป้าหมายในระยะยาว ในการรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยียางรถยนต์ที่ล้ำหน้า และเรายังตั้งเป้าที่จะเติบโตในตลาดที่สำคัญของเรา เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดจำหน่าย และสร้างคุณค่าทางธุรกิจแบบยั่งยืนไว้ และพร้อมเดินหน้าสร้างความโดดเด่นที่แตกต่างต่อไป ด้วยการนำเสนอยางที่ครอบคลุมทุกประเภท ที่ล้วนมีสมรรถนะสูง คุณภาพเป็นเลิศ และล้ำสมัย ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ตรงตามความต้องการต่างๆ ของผู้ขับขี่คนไทย และเพื่อธุรกิจด้านการบินที่กำลังเติบโตของเราอีกด้วย”
สำหรับธุรกิจด้านการบินของกู๊ดเยียร์ ประเทศไทย นับเป็นแรงสนับสนุนหลักที่สำคัญอย่างหนึ่งต่อความสำเร็จทางธุรกิจโดยรวมของกู๊ดเยียร์ในปี 2557
“โรงงานผลิตของเราในประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในสองโรงงานผลิตยางเครื่องบินของกู๊ดเยียร์ และเป็นหนึ่งในห้าของโรงงานหล่อดอกยางเครื่องบินของกู๊ดเยียร์ ซึ่งทำให้เราสามารถให้บริการอย่างครบวงจรในธุรกิจนี้ และรับใช้ลูกค้าที่ทำธุรกิจด้านการบินทั้งหลาย ที่มีอยู่ทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก” โอคอนเนอร์ กล่าวสรุป
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
การเติบโตของกู๊ดเยียร์ ประเทศไทยในปี 2557 สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทมีทั้งความชำนาญการและมากด้วยประสบการณ์ ในการมอบการบริการและสินค้าต่างๆ ที่มีคุณภาพให้กับลูกค้าทุกคน อาทิ ศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ ออโต้แคร์ ซึ่งให้การบริการแบบ “One Stop Shop” ที่ผู้ซื้อยางทุกคนจะมั่นใจได้ว่าพวกเขาได้ซื้อยางที่มีคุณภาพ มาตรฐานสูง และมีสมรรถนะชั้นเยี่ยมเหนือระดับ พร้อมการบริการต่างๆ ด้านการดูแลรักษายานยนต์
“ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่สำคัญแห่งหนึ่งของกู๊ดเยียร์ และเรารู้สึกภูมิใจที่ผลิตภัณฑ์ พนักงานและเครือข่ายการจัดจำหน่ายของกู๊ดเยียร์มีประสิทธิภาพอันดีเยี่ยม ส่งผลให้ธุรกิจของเราประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี” โอคอนเนอร์ กล่าวและว่า
“เราสามารถเพิ่มยอดขายได้เป็นที่น่าพอใจในปี 2557 และในปี 2558 เรายังตั้งเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไปอีก เราจะส่งเสริมให้มีกิจกรรมต่างๆ ที่กระตุ้นการมีส่วนร่วมของพนักงาน และมุ่งมั่นที่จะขยายศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ ออโต้แคร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศให้จงได้ภายในสิ้นปี ทั้งนี้ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ลูกค้าทุกท่านของกู๊ดเยียร์ ให้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของเราได้ง่ายยิ่งขึ้น และได้รับการบริการทั้งด้านการดูแลรักษายานยนต์ และยางรถยนต์ให้ดีที่สุด”
ในปี 2554 กู๊ดเยียร์มีศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ออโต้แคร์ 16 แห่งในประเทศไทย ปัจจุบัน กู๊ดเยียร์ขยายสาขาได้ถึง 55 แห่งทั่วประเทศ พร้อมกับมีแผนการขยายสาขาต่อไปเรื่อยๆ ในปี 2558 ทั้งนี้ ศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ ออโต้แคร์ทั้งหมดล้วนดำเนินการภายใต้เจ้าของซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์และยางรถยนต์ โดยได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากกู๊ดเยียร์ ประเทศไทย ในด้านสินค้า และราคาในรูปแบบเฉพาะของกู๊ดเยียร์ ออโต้แคร์ รวมถึงกลยุทธ์ในการบริหารสินค้าคงเหลือและการตลาด คำแนะนำด้านการบริการ การฝึกอบรมพนักงาน และคำชี้แนะด้านการจัดการธุรกิจ เป็นต้น
โอคอนเนอร์ กล่าวว่า “นับจากนี้ไป เรามีเป้าหมายในระยะยาว ในการรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยียางรถยนต์ที่ล้ำหน้า และเรายังตั้งเป้าที่จะเติบโตในตลาดที่สำคัญของเรา เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดจำหน่าย และสร้างคุณค่าทางธุรกิจแบบยั่งยืนไว้ และพร้อมเดินหน้าสร้างความโดดเด่นที่แตกต่างต่อไป ด้วยการนำเสนอยางที่ครอบคลุมทุกประเภท ที่ล้วนมีสมรรถนะสูง คุณภาพเป็นเลิศ และล้ำสมัย ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ตรงตามความต้องการต่างๆ ของผู้ขับขี่คนไทย และเพื่อธุรกิจด้านการบินที่กำลังเติบโตของเราอีกด้วย”
สำหรับธุรกิจด้านการบินของกู๊ดเยียร์ ประเทศไทย นับเป็นแรงสนับสนุนหลักที่สำคัญอย่างหนึ่งต่อความสำเร็จทางธุรกิจโดยรวมของกู๊ดเยียร์ในปี 2557
“โรงงานผลิตของเราในประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในสองโรงงานผลิตยางเครื่องบินของกู๊ดเยียร์ และเป็นหนึ่งในห้าของโรงงานหล่อดอกยางเครื่องบินของกู๊ดเยียร์ ซึ่งทำให้เราสามารถให้บริการอย่างครบวงจรในธุรกิจนี้ และรับใช้ลูกค้าที่ทำธุรกิจด้านการบินทั้งหลาย ที่มีอยู่ทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก” โอคอนเนอร์ กล่าวสรุป
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
