MG ปรับทัพรุกตลาดเก๋งในแดนอังกฤษครั้งใหม่ เผยโฉมรุ่นปรับโฉมหรือไมเนอร์เชนจ์ของ MG 6 ออกมาแล้ว โดยมีการปรับปรุงทั้งภายนอก ภายใน และเครื่องยนต์ ขณะที่ราคาปรับลง 3,000 ปอนด์ หรือ 150,000 บาท
จากการเปิดเผยภาพคร่าวๆ ของทาง MG แห่งอังกฤษ จะพบกับความสดใหม่บนหน้าตาของ MG 6 ที่มากับกันชนหน้าทรงสปอร์ตขึ้น และมีไฟแบบ Daytime Running Light แบบ LED ตามสมัยนิยม กระจังหน้า และไฟหน้าก็มีการดีไซน์ใหม่เพื่อความสวยสะดุดตาขึ้น ขณะที่บั้นท้าย ความสดใหม่ อยู่ที่ไฟท้ายและกันชนท้ายใหม่ ซึ่งมีการเสริมแถบทับทิม และแถบดำที่ชายล่าง เช่นเดียวกับการปรับรูปทรงของปลายท่อไอเสียใหม่
ส่วนในห้องโดยสารทาง MG ยืนยันว่ามีการปรับใหม่เยอะหลายจุดเพื่อสร้างสัมผัสถึงความใหม่อย่างแท้จริง และช่วยเพิ่มความสะดวกและความสบายให้กับผู้ขับขี่ โดยจุดหลักๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนคือ แผงมาตรวัด แผงคอนโซลกลาง ซึ่งมีการเพิ่มหน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว และปรับเบรกมือจากเดิมเป็นแบบกลไกให้เป็นแบบไฟฟ้า
ใต้กระใปรงหน้าเป็นขุมพลังที่มีการปรับปรุงใหม่ โดยเฉพาะในรุ่นเทอร์โบดีเซลแบบ 4 สูบ 1,900 ซีซี ซึ่งมีการขยับตัวเลขขึ้นมาเป็น 150 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 35.7 กก.-ม. ใช้เวลา 8.4 วินาทีในการทำอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ดีขึ้นจากเดิม 0.5 วินาที ส่วนทางเลือกอื่นไๆ ยังไม่ได้เผยออกมาว่ามีการปรับอะไรหรือเปล่า แต่คาดว่าน่าจะยังเป็นเครื่องยนต์เดิม
ที่น่าสนใจคือ ราคาของ MG 6 ในอังกฤษมีการปรับลงจากรุ่นเดิม โดยในรุ่นพื้นฐาน S ขายกันที่ 13,995 ปอนด์ (699,000 บาท) หรือลดลง 3,000 ปอนด์ ส่วนรุ่นอื่นๆ ราคาใกล้เคียงของเดิม แต่ได้อุปกรณ์มาตรฐานเยอะขึ้น โดยอยู่ที่ 16,195-17,995 ปอนด์ หรือ 805,000-899,000 บาท
จากการเปิดเผยภาพคร่าวๆ ของทาง MG แห่งอังกฤษ จะพบกับความสดใหม่บนหน้าตาของ MG 6 ที่มากับกันชนหน้าทรงสปอร์ตขึ้น และมีไฟแบบ Daytime Running Light แบบ LED ตามสมัยนิยม กระจังหน้า และไฟหน้าก็มีการดีไซน์ใหม่เพื่อความสวยสะดุดตาขึ้น ขณะที่บั้นท้าย ความสดใหม่ อยู่ที่ไฟท้ายและกันชนท้ายใหม่ ซึ่งมีการเสริมแถบทับทิม และแถบดำที่ชายล่าง เช่นเดียวกับการปรับรูปทรงของปลายท่อไอเสียใหม่
ส่วนในห้องโดยสารทาง MG ยืนยันว่ามีการปรับใหม่เยอะหลายจุดเพื่อสร้างสัมผัสถึงความใหม่อย่างแท้จริง และช่วยเพิ่มความสะดวกและความสบายให้กับผู้ขับขี่ โดยจุดหลักๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนคือ แผงมาตรวัด แผงคอนโซลกลาง ซึ่งมีการเพิ่มหน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว และปรับเบรกมือจากเดิมเป็นแบบกลไกให้เป็นแบบไฟฟ้า
ใต้กระใปรงหน้าเป็นขุมพลังที่มีการปรับปรุงใหม่ โดยเฉพาะในรุ่นเทอร์โบดีเซลแบบ 4 สูบ 1,900 ซีซี ซึ่งมีการขยับตัวเลขขึ้นมาเป็น 150 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 35.7 กก.-ม. ใช้เวลา 8.4 วินาทีในการทำอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ดีขึ้นจากเดิม 0.5 วินาที ส่วนทางเลือกอื่นไๆ ยังไม่ได้เผยออกมาว่ามีการปรับอะไรหรือเปล่า แต่คาดว่าน่าจะยังเป็นเครื่องยนต์เดิม
ที่น่าสนใจคือ ราคาของ MG 6 ในอังกฤษมีการปรับลงจากรุ่นเดิม โดยในรุ่นพื้นฐาน S ขายกันที่ 13,995 ปอนด์ (699,000 บาท) หรือลดลง 3,000 ปอนด์ ส่วนรุ่นอื่นๆ ราคาใกล้เคียงของเดิม แต่ได้อุปกรณ์มาตรฐานเยอะขึ้น โดยอยู่ที่ 16,195-17,995 ปอนด์ หรือ 805,000-899,000 บาท