อาจกล่าวได้ว่า ตำนานของรถสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลีที่กลายเป็นไอคอนหนึ่งของโลกไปแล้วอย่าง เวสป้า และพิอาจิโอ เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1946 หรือเมื่อ 68 ปี ที่แล้ว เมื่อสองพี่น้องจากตระกูลคหบดีในอิตาลี อย่างเอนริโก้และอาร์มานโดพิอาจิโอ ได้สานต่อความสำเร็จจากบิดา“รินัลโด้ พิอาจิโอ”ด้วยการขยายกิจการจากอู่ต่อเรือสำราญโรงงานผลิตรถยนต์และโรงงานผลิตเครื่องบิน สู่การสร้างสรรค์รถเวสป้าที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นที่สุดแห่งรถสกู๊ตเตอร์อันดับหนึ่งของโลกในเวลาต่อมา
“เวสป้า” (Vespa) คือต้นแบบแห่งยานพาหนะที่ผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน คำว่าเวสป้าในภาษาอิตาเลี่ยนหมายถึง “แมลงตัวต่อ” โดย “ Vespa 98cc Prima Serie “Bacchetta3v”คือรถรุ่นแรกที่ได้ถูกคิดค้นจากแนวคิดการพัฒนาอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐานที่เน้นความสะดวกสบายในการเดินทางและสามารถขับขี่ได้ง่าย โดยมี คอร์ราดิโนดัสคานิโอ นักออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิศวกรรมการบินเป็นผู้ดีไซน์ โดยเขาออกแบบให้มันมีลักษณะคล้ายกับตัวต่อ และมีตัวถังคงทนแข็งแรง ใช้การประสานเฟืองแทนโซ่เหล็ก ติดก้านเกียร์ไว้บนคันบังคับ เปลี่ยนจากตะเกียบเป็นแขนยึดเหมือนเครื่องบิน และมีตัวถังรถที่ช่วยป้องกันความสกปรกให้แก่ผู้ขับขี่ระหว่างการเดินทาง
หลังจากการออกจำหน่ายได้เพียง 4 ปี เวสป้าก็ได้กลายเป็นรถสกู๊ตเตอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในอิตาลี และได้กลายเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ เนื่องจากมีรูปทรงตัวถังที่ดูโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวก่อนที่จะถูกประกอบขึ้นในเวลาต่อมาอีกหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส และสเปน จนทำให้นิตยสารรีดเดอร์สไดเจสท์ (Reader's Digest) ได้นำเรื่องราวของเวสป้าไปตีพิมพ์เป็นบทความชิ้นยาว และยกย่องว่า เวสป้าคือตัวแทนสัญลักษณ์ของเสรีภาพและการเข้าสังคม จนมีการจัดงาน Italian Vespa Day ขึ้นเป็นครั้งแรกขึ้นในปี ค.ศ. 1951 และมีแฟนๆ เวสป้ากว่า 20,000 คนเข้าร่วมงานในครั้งนั้น
ปี ค.ศ. 1953 เวสป้าได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกี่ยวกับเครื่องยนต์ เป็นครั้งแรก โดยมีการปรับขนาดของกระบอกสูบ, ระยะชัก และเฟืองเพลาลูกเบี้ยว พร้อมเพิ่มกำลังส่งเพิ่มเป็น 5 แรงม้า ในความเร็วสูงสุด 75 กม.ต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตามในปีค.ศ. 1964 รัฐบาลอิตาลีได้ออกกฎหมายบังคับใช้ให้รถจักรยานยนต์ที่มีเครื่องยนต์เกิน 50 ซีซีจำเป็นต้องติดป้ายทะเบียนส่งผลให้ยอดขายรถจักรยานยนต์ตกลงอย่างรวดเร็ว เวสป้าจึงได้ทำการเปิดตัวรุ่น 50cc V5A1T ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะรุ่นแรก และสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 500 กม. อีกทั้งยังเป็นผลงานออกแบบชิ้นสุดท้ายที่คอร์ราดิโนดัสคานิโอได้ฝากเอาไว้ ก่อนที่รถรุ่นดังกล่าวจะได้รับการประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา
ปีค.ศ. 1992เวสป้าได้รับการกล่าวขานไปทั่วโลกอีกครั้งเมื่อ “จิออร์จิโอเบตติเนลลี่”นักเขียนชาวอิตาลีได้สร้างประวัติศาสตร์การเดินทางรอบโลกครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการควบเวสป้าคู่ใจรุ่น PX ออกจากกรุงโรมข้ามไปยังไซ่ง่อนประเทศเวียดนามและจากอลาสก้าไปยังเกาะเทียร์ร่า เดล ฟูเอในทวีปอเมริกาใต้และจากเมลเบิร์นไปยังเคปทาวน์ เมืองหลวงของแอฟริกาใต้ ก่อนจะปิดทริปจากประเทศชิลีสู่ทัสมาเนีย รัฐทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลียรวมตลอดระยะเวลาการเดินทางทั้งสิ้น3 ปี 8 เดือนระยะทางกว่า 250,000 กม.ผ่านทั้งหมด 90 ประเทศ
สำหรับประเทศไทย เวสป้าได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาไม่ต่ำกว่า 50 ปี เนื่องจากมีรูปทรงตัวถังที่แข็งแรง คงทนและสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ดีทำให้ในอดีตผู้ใช้งานส่วนใหญ่ มักจะนำเวสป้าไปใช้เพื่อการขนส่งสินค้า ซึ่งสามารถพบเห็นได้ตามย่านการค้าที่สำคัญๆ ของกรุงเทพมหานครหรือหัวเมืองสำคัญๆ
อย่างไรก็ตามกระแสเวสป้าในเมืองไทยได้เงียบหายไปช่วงระยะหนึ่ง เนื่องจากไม่มีตัวแทนผู้นำเข้ามาจัดจำหน่ายอย่างจริงจัง จนกระทั่งปีค.ศ.2010 บริษัท เวสปิอาริโอ(ประเทศไทย) จำกัดโดยคุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยและได้เริ่มนำเวสป้ากลับเข้ามาสร้างความครึกครื้นในตลาดภายในประเทศอีกครั้งและเพียงภายในระยะเวลา5 ปี เวสป้าก็มียอดจำหน่ายสะสมรวมกันไม่ต่ำกว่า 25,000 คันและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
ล่าสุดในปี ค.ศ. 2014บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดตัวแคมเปญใหญ่ฉลองครบรอบ68ปีของเวสป้าพร้อมกับเปิดตัวรถเวสป้ารุ่น“68thAnniversary Limited Edition” สีกรีน มัสซิโอที่ผลิตขึ้นพิเศษเพียง400คันทั่วโลกและมีจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเพียงประเทศเดียว