ไฟร์วิคเตอร์ เดินหน้าเปิดเกมรุก กลยุทธ์การตลาด ผนึกพาร์ตเนอร์ต่างประเทศ หวังเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า ด้านอุปกรณ์ดับเพลิงเพิ่ม พร้อมดึงโปรดักส์ใหม่เข้ามาจำหน่ายในประเทศ อย่างน้อย 2-3 รายการ มั่นใจดันรายได้ปี 58 โต 15-20% ผู้บริหารสั่ง เร่งเปิดสาขาที่ระยอง ไตรมาส 3 ปีนี้
นายวิรัฐ สุขชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์วิคเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ FIRE เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2558 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าการเปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดระยอง ซึ่งปัจจุบันได้วางแผนเพิ่มจำนวนพนักงานทั้งส่วนวิศวกรขาย และทีมงานเข้ามาเพิ่มเติมแล้ว และคาดว่าสาขาดังกล่าวจะเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการได้ในไตรมาส 3/2558 แน่นอน โดยบริษัทฯเน้นในกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม และปิโตรเคมี ตลอดจนงานบริการในพื้นที่ประเภทอุตสาหกรรมมากขึ้น นอกจากนั้น บริษัทฯ ก็จะมองหาช่องทางในการลงทุนด้านอื่นๆ เพิ่มเติม เนื่องจากมีความพร้อมในด้านการเงินที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันมีหนี้สิน/ทุน ลดลงเหลือเพียง 0.24 เท่า
พร้อมทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายช่องทางในการเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับลูกค้าในต่างประเทศมากขึ้น โดยในกลางปีนี้มีแผนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อเจรจากับพาร์ตเนอร์ ในการเพิ่มสินค้าตัวใหม่ เข้ามาขยายช่องทางในประเทศ โดยในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเพิ่มสินค้าใหม่ๆ อีก 2-3 รายการ ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น
นายวิรัฐ กล่าวว่า จากแผนการขยายธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ คาดการณ์อัตราการเติบโตของรายได้รวมในปี 2558 ไว้ที่ระดับ 15-20% เมื่อเทียบจากปี 2557 ที่มีรายได้ 572 ล้านบาท จากการเน้นทำการตลาดเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนการจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์ดับเพลิง ให้กับพาร์ตเนอร์จากประเทศสเปน เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าภายในปีนี้บริษัทฯ จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ ประมาณการยอดขายรวมในปีนี้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2557 ที่ผ่านมา
ส่วนผลการดำเนินงานงวดปี 2557 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2557 บริษัทฯ มีรายได้รวม 572 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 518 ล้านบาท จากการเติบโตของยอดขายอุปกรณ์ดับเพลิง และมีกำไรสุทธิ 60.6 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 61.1 ล้านบาท
การที่บริษัทฯ มียอดขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากการภาครัฐมีกฎหมายควบคุมอาคารสูง ด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้อาคารใหม่ และอาคารเก่าที่มีการปรับปรุงใหม่ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง และระบบดับเพลิง เพื่อป้องกันไฟไหม้ในอาคาร ส่วนกำไรสุทธิที่ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้นและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบ และการเพิ่มขึ้นของจำนวนพนักงานเพื่อรองรับแผนการขยายกิจการในอนาคต
“ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาอนุมัติ เพื่อจ่ายเงินปันผลประจำงวดปี 2557 สิ้นสุด 31 ธันวาคม ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันศุกร์ ที่ 22 พฤษภาคม 2558 และกำหนดปิดสมุดทะเบียนเพื่อให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นรับเงินปันผลในวันที่ 8 พฤษภาคม 2558 ”
