xs
xsm
sm
md
lg

โช้คอัพ‘วายเอสเอส’เปิดผลิตภัณฑ์-รุกสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง-ตั้งรง.ใหม่รับเติบโต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“วายเอสเอส” (YSS) โช้คอัพมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ มั่นใจปีนี้เติบโตต่อเนื่อง จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลากหลายรุ่น พร้อมชูกลยุทธ์มอเตอร์ สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง เจาะลูกค้ากลาง-บน สอดรับบิ๊กไบค์ และตลาดเพอร์ฟอร์มานส์เติบโต ประกาศลงทุน 150 ล้านบาท ตั้งโรงงานใหม่บุกตลาดส่งออก

ภิญโญ พานิชเกษม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วาย.เอส.เอส. (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายโช้คอัพจักรยานยนต์ และรถยนต์รายใหญ่ของไทย ภายใต้แบรนด์ “วายเอสเอส” และ “วายเอสเอส ออโต้” เปิดเผยว่า ผลประกอบการปีที่แล้ว วายเอสเอสกินส่วนแบ่งตลาดโช้คอัพ 60 % ของมูลค่าตลาดโดยรวมประมาณ 500 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 10 %

“ในปีนี้ยังคงตั้งเป้าการเติบโตในอัตราเดียวกัน โดยเฉพาะตลาดรถมอเตอร์ไซค์มีทิศทางเติบโตเป็นกราฟขาขึ้น ทำให้มีการวางแผนงานเพื่อสอดรับการขยายตลาดในส่วนนี้ ทั้งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ต่อเนื่อง และสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง โดยหนึ่งในนั้นคือการเปิดตัวทีมแข่งรถภายใต้สังกัด YSS TS Racing Team โดยมีนายอนุชา นาคเจริญศรี เจ้าของแชมป์ซุปเปอร์ไบค์ ประเทศไทย 2 สมัย และได้สิทธิ์ที่จะลงแข่งขันในรายการระดับโลก World Super Bike สนามที่ 2 ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อปลายเดือนมีนาคมนี้”

ทั้งนี้ในฐานะผู้นำตลาดโช้คอัพรถมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ในไทย การเปิดตัวสนับสนุนทีมแข่งรถภายใต้สังกัด YSS TS Racing Team โดยดึงฮีโร่ 2 สมัย คือ คุณอนุชา นาคเจริญศรี เจ้าของแชมป์ซุปเปอร์ไบค์ ประเทศไทยถึง 2 สมัย และได้สิทธิ์ที่จะลงแข่งสนามระดับโลกเร็วๆนี้ นับเป็นบทพิสูจน์ศักยภาพสินค้าของคนไทย และความภาคภูมิใจอย่างมากของเราในเวทีการแข่งขันระดับโลก

ภิญโญเปิดเผยว่า สำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะทำตลาดในปีนี้ ประกอบด้วยโช้คอัพตัวใหม่ภายใต้รหัส 456 สำหรับรถ Big bike โดยเฉพาะ จุดเด่น คือ มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นเดิมถึง 20 % ซึ่งจะได้พิสูจน์สมรรถนะในการแข่งขัน World Super Bike โดยการติดตั้งให้กับรถแข่งใน YSS TS racing Team ในครั้งนี้อีกด้วย และโช้คหน้า (Front Fork) เทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่รายแรกของโลก ที่สามารถปรับช่วงยุบแบบ Hi – Low Speed ได้ พร้อมประสานการทำงานกับระบบ Close cartridge gas fork ที่สามารถปรับแต่งตามความต้องการของผู้ใช้ รวมถึงกันสะบัด (Steering Damper) จุดเด่น น้ำหนักเบา สามารถควบคุมการขับขี่ได้เป็นอย่างดี

ส่วนแนวทางการทำตลาดในปีนี้ เน้นการทำ Below the line โดยเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยตรง ทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัด ในลักษณะการอบรมให้ความรู้ หรือแนะนำเทคนิคต่างๆในการใช้โช้คอัพ ทั้งนี้เพื่อมุ่งเจาะขยายฐานกลุ่มลูกค้าระดับตลาดระดับกลาง-บนให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการสอดรับทิศทางการเติบโตของกลุ่มลูกค้าประเภทบิ๊กไบค์และกลุ่มตลาดเพอร์ฟอร์มานส์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

“นอกจากนี้เพื่อรองรับการเติบโต จึงมีแผนการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต โดยการสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ย่านเทพารักษ์ มูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท บนพื้นที่ 4.5 ไร่ในบริเวณตรงข้ามโรงงานแห่งแรก โดยโรงงานแห่งใหม่จะผลิตชิ้นส่วนใหม่ สปริง กันสะบัด และโช้ครถยนต์ เพื่อตลาดส่งออก โดยจะเริ่มก่อสร้างประมาณเดือนเมษายน และคาดว่าจะแล้วเสร็จและเดินเครื่องผลิตได้ในต้นปีหน้า” ภิญโญกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น