ไพโอเนียร์ อิเล็กโทรนิคส์ ประเทศไทย ปรับโครงสร้างธุรกิจตามบริษัทแม่ในญี่ปุ่น ปล่อยเครื่องเสียงบ้านให้กับกลุ่มซีเอ็มจีขาย มุ่งโฟกัสเฉพาะผลิตภัณฑ์ติดรถยนต์และอุปกรณ์ พร้อมรุกตลาดออกจากโรงงานประกอบรถมากขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนเป็น 55% และปีนี้ลุยเปิดผลิตภัณฑ์ใหม่ 19 รุ่น มั่นใจเติบโต 5-10% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ร่วม 1,000 ล้านบาท
นายฮิเดอากิ อิชิอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย อีเล็กโทรนิคส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางบริษัทแม่ไพโอเนียร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ ด้วยการแยกธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่ม คือเครื่องเสียงบ้านที่จะแยกเป็นบริษัทไพโอเนียร์-ออนเกียว(Pioneer-Onkyo), กลุ่มสินค้าดีเจที่ร่วมกับพันธมิตรเพิ่มความแข็งแกร่ง และสุดท้ายเป็นกลุ่มเครื่องเสียงติดรถยนต์ไพโอเนียร์
“การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้ในไทยต้องปรับโครงสร้างธุรกิจตาม โดยในส่วนของเครื่องเสียงบ้านได้มีการแต่งตั้งเซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป หรือ CMG เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และ 2 กลุ่มที่เหลือยังเป็นไพโอเนียร์ อิเล็กโทรนิคส์ ประเทศไทยดูแลต่อไป”
โดยไพโอเนียร์ อีเล็กโทรนิคส์ จะมุ่งโฟกัสกลุ่มเครื่องเสียงและจอทีวีติดตั้ง รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ เกี่ยวกับความบันเทิงในรถยนต์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางธุรกิจครั้งนี้ จะทำให้เกิดการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการพัฒนาสินค้า เครื่อข่ายการขาย และการเพิ่มผลกำไรอย่างแข็งแกร่ง
นายอิชิอิเปิดเผยว่า ปีนี้ไพโอเนียร์ในประเทศไทย จะมีการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2015 ได้มีการเปิดตัวเครื่องเล่นดีวีดีพร้อมจอติดรถยนต์รุ่น AVH-X8750BT และแนะนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตกระจกมองหลัง Smart Mirror ซึ่งจะทยอยเปิดตัวในช่วงกลางปี รวมถึงปลายปีจนครบ 19 รุ่นในปีนี้
“ไทยเป็นฐานอุตสาหกรรมรถยนต์ระดับโลก ทำให้ไพโอเนียร์มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงติดรถยนต์และระบบรองรับ โดยจะมีการรุกตลาดเครื่องเสียงติดจากโรงงานประกอบรถยนต์(OEM) มากขึ้น คาดว่าจะทำให้สัดส่วนการขายในกลุ่มโออีเอ็มเพิ่มเป็น 55% และที่เหลือตลาดเครื่องเสียงติดรถยนต์ตามร้านทั่วไป (REM) ซึ่งเดิมจะมีสัดส่วนเท่ากันที่ 50:50 และปีนี้ไพโอเนียร์ตั้งเป้าเติบโต 5-10% จากผลประกอบการในปีที่ผ่านมาที่ทำได้เกือบ 1,000 ล้านบาท”
สำหรับเครื่องเล่นดีวีดีพร้อมจอติดรถยนต์รุ่น AVH-X8750BT มีขนาดหน้าจอกว้างถึง 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อมีขนาดหน้าจอกว้างถึง 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นจากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ อาทิ iPhone6 และสมาร์ทโฟนในระบบ Android รวมกว่า 40 รุ่นจากแบรนด์ดัง สามารถรองรับไฟล์มีเดียได้หลากหลาย พร้อมความสามารถในการรองรับไฟล์ Flac และ FLV รวมถึงไฟล์ที่มีความคมชัดสูงอย่าง Full HD 1080i ที่เครื่องเล่นทั่วไปไม่สามรถรองรับ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นในตัวเครื่องมากกว่า 30 แอพพลิเคชั่น เช่น แอพเนวิเกชั่น AIS Guide&Go ผู้ช่วยในการนำทางที่จะเติมเต็มให้ไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่สนุกและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ในส่วนของเทคโนโลยีแห่งอนาคต “Pioneer Revolution Drive Mirror Agent: Smart Mirror” โดยผู้เชี่ยวชาญจากไพโอเนียร์ได้พัฒนาเทคโนโลยีกระจกมองหลังรถ สามารถใส่ซิมการ์ดและรองรับเครือข่าย 4G LTE ในการส่งข้อมูลการขับขี่จากกล้องบันทึกด้านหน้าไปยัง Cloud Service เอกสิทธิ์เฉพาะจากไพโอเนียร์ ทำให้ข้อมูลการขับขี่ของผู้ใช้ถูกบันทึกอยู่ในที่ปลอดภัย แม้ในสถานการณ์ฉุกเฉินก็สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นนำทางต่างๆ มาช่วยให้ถึงที่หมายได้อย่างสะดวกและปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถส่งสัญญาณเตือน เมื่อรถยนต์ขับออกนอกเลนหรือขับในระยะกระชั้นชิดกับคันหน้ามากเกินไป อีกทั้งยังสามารถปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ให้ผู้ร่วมทางใช้งานไปพร้อมๆ กัน
นายฮิเดอากิ อิชิอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย อีเล็กโทรนิคส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางบริษัทแม่ไพโอเนียร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ ด้วยการแยกธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่ม คือเครื่องเสียงบ้านที่จะแยกเป็นบริษัทไพโอเนียร์-ออนเกียว(Pioneer-Onkyo), กลุ่มสินค้าดีเจที่ร่วมกับพันธมิตรเพิ่มความแข็งแกร่ง และสุดท้ายเป็นกลุ่มเครื่องเสียงติดรถยนต์ไพโอเนียร์
“การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้ในไทยต้องปรับโครงสร้างธุรกิจตาม โดยในส่วนของเครื่องเสียงบ้านได้มีการแต่งตั้งเซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป หรือ CMG เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และ 2 กลุ่มที่เหลือยังเป็นไพโอเนียร์ อิเล็กโทรนิคส์ ประเทศไทยดูแลต่อไป”
โดยไพโอเนียร์ อีเล็กโทรนิคส์ จะมุ่งโฟกัสกลุ่มเครื่องเสียงและจอทีวีติดตั้ง รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ เกี่ยวกับความบันเทิงในรถยนต์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางธุรกิจครั้งนี้ จะทำให้เกิดการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการพัฒนาสินค้า เครื่อข่ายการขาย และการเพิ่มผลกำไรอย่างแข็งแกร่ง
นายอิชิอิเปิดเผยว่า ปีนี้ไพโอเนียร์ในประเทศไทย จะมีการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2015 ได้มีการเปิดตัวเครื่องเล่นดีวีดีพร้อมจอติดรถยนต์รุ่น AVH-X8750BT และแนะนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตกระจกมองหลัง Smart Mirror ซึ่งจะทยอยเปิดตัวในช่วงกลางปี รวมถึงปลายปีจนครบ 19 รุ่นในปีนี้
“ไทยเป็นฐานอุตสาหกรรมรถยนต์ระดับโลก ทำให้ไพโอเนียร์มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงติดรถยนต์และระบบรองรับ โดยจะมีการรุกตลาดเครื่องเสียงติดจากโรงงานประกอบรถยนต์(OEM) มากขึ้น คาดว่าจะทำให้สัดส่วนการขายในกลุ่มโออีเอ็มเพิ่มเป็น 55% และที่เหลือตลาดเครื่องเสียงติดรถยนต์ตามร้านทั่วไป (REM) ซึ่งเดิมจะมีสัดส่วนเท่ากันที่ 50:50 และปีนี้ไพโอเนียร์ตั้งเป้าเติบโต 5-10% จากผลประกอบการในปีที่ผ่านมาที่ทำได้เกือบ 1,000 ล้านบาท”
สำหรับเครื่องเล่นดีวีดีพร้อมจอติดรถยนต์รุ่น AVH-X8750BT มีขนาดหน้าจอกว้างถึง 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อมีขนาดหน้าจอกว้างถึง 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นจากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ อาทิ iPhone6 และสมาร์ทโฟนในระบบ Android รวมกว่า 40 รุ่นจากแบรนด์ดัง สามารถรองรับไฟล์มีเดียได้หลากหลาย พร้อมความสามารถในการรองรับไฟล์ Flac และ FLV รวมถึงไฟล์ที่มีความคมชัดสูงอย่าง Full HD 1080i ที่เครื่องเล่นทั่วไปไม่สามรถรองรับ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นในตัวเครื่องมากกว่า 30 แอพพลิเคชั่น เช่น แอพเนวิเกชั่น AIS Guide&Go ผู้ช่วยในการนำทางที่จะเติมเต็มให้ไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่สนุกและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ในส่วนของเทคโนโลยีแห่งอนาคต “Pioneer Revolution Drive Mirror Agent: Smart Mirror” โดยผู้เชี่ยวชาญจากไพโอเนียร์ได้พัฒนาเทคโนโลยีกระจกมองหลังรถ สามารถใส่ซิมการ์ดและรองรับเครือข่าย 4G LTE ในการส่งข้อมูลการขับขี่จากกล้องบันทึกด้านหน้าไปยัง Cloud Service เอกสิทธิ์เฉพาะจากไพโอเนียร์ ทำให้ข้อมูลการขับขี่ของผู้ใช้ถูกบันทึกอยู่ในที่ปลอดภัย แม้ในสถานการณ์ฉุกเฉินก็สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นนำทางต่างๆ มาช่วยให้ถึงที่หมายได้อย่างสะดวกและปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถส่งสัญญาณเตือน เมื่อรถยนต์ขับออกนอกเลนหรือขับในระยะกระชั้นชิดกับคันหน้ามากเกินไป อีกทั้งยังสามารถปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ให้ผู้ร่วมทางใช้งานไปพร้อมๆ กัน