Review: Dying Light ฅนลิงวิ่งสู้ผี

ระบบ PS4, XboxOne, PC
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

ผลงานแก้มือตัวใหม่จากทีมผู้สร้างเดดไอส์แลนด์ ที่ขอฉีกตำราทุกกฏเกณฑ์ของเกมแนวซอมบี้ด้วยเทคนิคลีลาฟรีรันนิ่งสุดผาดโผน จนเกิดเป็นความสดใหม่ที่เกมเมอร์ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

หลังจากที่ทำเละจนเสียซีรีย์รักที่ตนปั้นมากับมือไปให้ทีมงานน้องใหม่จากเยอรมันรับช่วงต่อแทน ล่าสุดสตูดิโอ Techland จึงประกาศเรียกศักดิ์ศรีกลับคืนมาอีกครั้งด้วยเกมไตเติ้ลใหม่แกะกล่องนาม "Dying Light" ผลงานเกมแนวแอ็คชั่นแอดเวนเจอร์เอาชีวิตรอด ที่ยังคงยึดตามแนวคอนเซปต์เดิมหนีไม่พ้นมหันตภัยวันสิ้นโลกที่ทุกย่างก้าวของผู้เล่นรายล้อมเต็มไปด้วยเหล่าซอมบี้ติดเชื้อ เพียงแต่หันมาถ่ายทอดใหม่ผ่านมุมมองของนักวิ่งจำเป็นผู้มีสเต็ปเท้าเป็นอาวุธ

หากใครที่ชอบดูหนังซอมบี้อาจจะรู้สึกเอียนกับพล็อตเรื่องแบบเดิมๆที่เกมนี้ยกมานำเสนอ ซึ่งบอกเล่าเหตุการณ์ของเมือง Harran ที่ถูกปิดกั้นให้เป็นพื้นที่กักกันโรคจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสร้าย ที่เปลี่ยนประชากรส่วนใหญ่ให้กลายเป็นซอมบี้กระหายเลือด โดยทางรัฐบาลให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ภายในเมืองได้เพียงแค่ส่งเสบียงอาหารและยาลงมาทางอากาศเท่านั้น ซึ่งเราจะได้สวมบทหนุ่มสายสืบคนนอก "ไคล์ เครน" ผู้แฝงตัวเข้ามาเพื่อสืบหาไฟล์ลับที่ถูกขโมยไป และต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ภารกิจสำเร็จลุล่วง ภายในเมืองซอมบี้ที่การวิ่งคือหนทางเดียวในการอยู่รอด

อย่างที่เกริ่นไป เกมนี้จะเป็นแนวซอมบี้ฟรีรันนิ่งมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ที่ผู้เล่นจะได้งัดทักษะการเคลื่อนที่พริ้วไหวสไตล์ปากัวร์มาใช้เพื่อเอาตัวรอดจากฝูงผีดิบที่เดินกันยั้วเยี้ยตามท้องถนน โดยตึกทุกหลัง เสาทุกต้น ระเบียงทุกแง่งในเกม เราสามารถปีนป่ายขึ้นไปได้หมด ไม่เว้นแม้กระทั่งหัวของซอมบี้ที่สามารถนำมาใช้เป็นแท่นสปริงกระโดดขึ้นหลังคาบ้าน โดยเราจะได้เรียนรู้เริ่มตั้งแต่เบสิคการวิ่งข้ามสิ่งกีดขวางธรรมดา ไปจนถึงขั้นสไลด์ตัวลอด หรือวิ่งไต่กำแพงดั่งนินจา ลองนึกภาพตามว่าเรากำลังเล่นเกม Mirror's Edge แล้วใส่ซอมบี้ลงไป

เครื่องประดับติดตัวที่นักวิ่งอย่างเราขาดไม่ได้ และต้องคอยหมั่นเช็คอยู่ตลอดนั่นคือ นาฬิกา เพราะเวลาถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเอาตัวรอดภายในเกม แม้ช่วงเวลากลางวันจะเหมือนสนามเด็กเล่นให้เราหยอกล้อกับเหล่าฝูงซอมบี้ที่แสนเชื่องช้าเดินใส่เกียร์เต่าได้อย่างสบายใจ แต่พอสิ้นแสงตะวันฝันร้ายจะมาเยือนด้วยซอมบี้ชนิดพิเศษที่เจอทีต้องใส่ตีนผีเผ่นกันป่าราบ ซึ่งด้วยระบบหมุนเวียนเวลาแบบเรียลไทม์นี้ บีบให้ผู้เล่นต้องตั้งเป้าหมายในแต่ละวันให้ดี พอตกดึกก็ต้องนอนพักเอาแรงฟ้าสางค่อยว่ากันต่อ ซึ่งถึงแม้ว่าความมืดในเกมจะดูน่ากลัว แต่ทีมผู้พัฒนาก็ได้คิดระบบที่ดึงดูดชวนให้ผู้เล่นกล้าเสี่ยงหันมาลองของ ด้วยค่าประสบการณ์ยามวิกาลที่ถูกเพิ่มทวีคูณเป็นเท่าตัว ให้อารมณ์เหมือนคนกลัวผีแต่อยากดูหนังผีอะไรทำนองนั้น

ระบบอัพเลเวลตัวละครของเกมนี้ดูแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เนื่องจากสกิลทั้ง 3 สายจะถูกแบ่งแยกตัดขาดออกจากกันโดยสิ้นเชิง ต่างจากเกมอื่นๆที่เวลาตัวละครเลเวลอัพ ผู้เล่นจะต้องมานั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเลือกว่าจะนำแต้มไปอัพเกรดสกิลสายไหนก่อนดี ทว่าในเกมนี้สกิลแต่ละสายจะถูกอัพเลเวลตามการกระทำของผู้เล่น พูดง่ายๆคือหากไม่วิ่งสกิลปีนป่ายก็ไม่เพิ่ม หรือหากไม่ฆ่าทักษะการต่อสู้ก็หยุดนิ่งอยู่เท่าเดิม ซึ่งถ้าอยากเห็นเทพเจ้าลงมาจุติในเกม ก็คงต้องพยายามออกแอ็คชั่นโน่นนิดนี่หน่อยให้สมดุลครบถ้วนทุกด้าน เพื่อปลดล็อคสกิลเจ๋งๆมาใช้

ฟีเจอร์ปรับแต่งอาวุธ ที่ถูกใช้เป็นจุดขายประจำมาตั้งแต่เดดไอส์แลนด์ ก็ยังคงปรากฏให้เห็นกันในผลงานล่าสุดนี้ แต่จะมีการปรับเปลี่ยนใหม่ให้ผู้เล่นใช้งานได้สะดวกทันใจยิ่งขึ้น ไม่มีความจำเป็นต้องไปวิ่งหาโต๊ะ Workbench เพื่อซ่อมแซมหรือดัดแปลงอาวุธอีกต่อไป เพราะสามารถสร้างเองได้ผ่านหน้าจอเมนูขอเพียงแค่มีวัสดุครบ ซึ่งการหาวัสดุในเกมไม่ได้เป็นเรื่องยากเย็นอะไรเลยหากกดใช้ Survival Sense ระบบใหม่คล้ายโซนาร์ที่จะไฮไลท์วัตถุสิ่งของสำคัญต่างๆภายในฉากไม่ต้องเสียเวลาเดินสำรวจ แต่เรื่องน่าหงุดหงิดจะมาอยู่ตรงที่อาวุธทุกชิ้นจะมีการจำกัดจำนวนครั้งในการซ่อม หากเกินโควตาต้องโยนทิ้งสถานเดียว ซึ่งคงน้ำตาตกหากเกิดกับอาวุธหายาก (จนกลายเป็นที่มาของบัคปั๊มอาวุธ)

คอนเซปต์ของเกมยังเน้นทุบฟันซอมบี้เหมือนเดดไอส์แลนด์ ซึ่งเหล่านักแม่นปืนทั้งหลาย คงต้องอดทนเล่นผ่านไปให้ถึงช่วงครึ่งหลังของเกมถึงจะมีอาวุธปืนและกระสุนมาให้เลือกเก็บเลือกซื้อกันเกลื่อนกลาด แต่สำหรับใครที่ไม่อยากรอนานมันก็มีทริคตามยูทูปที่ช่วยให้เราสามารถหาปืนมาใช้ได้ตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งแนะนำว่าในช่วงแรกๆอย่าเพิ่งหันไปจับปืนหากสกิลเอาตัวรอดของเรายังไม่พร้อม เพราะเสียงของมันจะยิ่งดึงดูดให้เหล่าฝูงซอมบี้แห่กันมามากกว่าเดิม

ขึ้นชื่อว่าโอเพ่นเวิลด์ แน่นอนว่าต้องมีเควสต์รองที่นอกเหนือจากเนื้อเรื่องหลักมาให้ทำเพียบ ซึ่งเกมนี้ก็ไม่ต่างกันเผลอๆอาจสนุกกว่าเควสต์หลักเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากมีการสร้างสตอรี่อิงตามหลักเหตุผลและใส่ดราม่าเข้าไป ทำให้การหาของหาคนกลายเป็นเรื่องที่ชวนน่าติดตาม แถมยังสามารถเลือกลำดับเควสต์ก่อนหลังได้ตามสะดวก ใกล้อันไหนก็ทำอันนั้น ส่วนเรื่องกราฟิกถือว่าหายห่วงด้วย Chrome Engine 6 ที่ทำให้ภาพออกมางามหยดไร้อาการกระตุกใดๆ โดยเฉพาะเอฟเฟกต์แสงไฟ แสงอาทิตย์สาดส่องอันโดดเด่น รวมถึงฉากสภาพแวดล้อมทั้งสองแม็พในเกมก็ทำออกแบบมาได้ดี แม้ว่าเกมนี้มันจะไม่มีระบบ Fast Travel แต่ด้วยความคล่องแคล่วว่องไวของตัวละครที่วิ่งอยู่ตลอด บวกกับแกดเจ็ทตะขอเกี่ยวราวกับใยของไอ้แมงมุม จึงรู้สึกเหมือนว่าระบบดังกล่าวมันไม่จำเป็น

สิ่งสุดท้ายที่ต้องพูดถึงคือ โหมดมัลติเพลย์เยอร์ ที่ให้ผู้เล่นสามารถชวนเพื่อนๆมาออกตะลุยท่องเมืองซอมบี้ไปพร้อมกันได้สูงสุดถึง 4 คน และไม่ต้องกลัวว่าชุดที่สวมใส่จะซ้ำแยกกันไม่ออก เพราะในเกมเราสามารถเลือกเปลี่ยนชุดได้ แถมชุดที่สวมใส่ยังเป็นการบ่งบอกให้รู้ถึงระดับเลเวลของผู้เล่นแต่ละคนกลายๆ ส่วนคนที่เล่นมานานแล้วอยากเกรียน ตัวเกมก็เปิดช่องทางให้เราสวมบทเล่นเป็น Hunter ซอมบี้พิเศษสุดโหดแอบโกงนิดๆ เข้าไปแทรกแซงเกมของผู้เล่นคนอื่นๆได้ และที่สำคัญทุกคนสามารถเล่นสนุกร่วมกันได้โดยไม่ต้องเป็นสมาชิกเพลย์สเตชันพลัส

ในอดีตที่ผ่านมาเกมซอมบี้ส่วนใหญ่ มักจะถูกแบ่งแยกออกเป็นสองประเภทอย่างชัดเจน ถ้าไม่เน้นบู๊ฟาดฟันไล่ยิงสนุกสนาน ก็ต้องเน้นเซอร์ไววอลน่ากลัวเอาตัวรอดไปเลย แต่สำหรับ "ดายอิ่ง ไลท์" นั้นกลับแหกคอกฉีกทุกกฎเกณฑ์เพราะมีทุกอารมณ์ที่ผู้เล่นต้องการจากเกมซอมบี้ผสมรวมอยู่ในเกมเดียว และด้วยบทเรียนจากเดดไอส์แลนด์ที่ช่วยขัดเกลาให้ตัวเกมสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น จึงสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่านี่แหละคือ "เกมซอมบี้ที่เฝ้ารอมานาน"

เกมการเล่น	9
กราฟิก	9
เสียง	8
ความคิดสร้างสรรค์	10
ภาพรวม	9

ข้อดี : ภาพสวยสมยุค, เกมเพลย์ฟรีรันนิ่งอันสดใหม่ลื่นไหล, ของซ่อนเยอะ, ระบบสกิลสุดเทพ, ไซด์เควสต์ที่น่าติดตาม, โหมด Co-op มัลติเพลย์ และเป็นเกมซอมบี้ที่บู๊สนุกแต่ก็แฝงความน่ากลัว
ข้อเสีย : จำกัดครั้งในการซ่อมอาวุธ และตัวละครเหนื่อยง่ายเวลาต่อสู้ทั้งๆที่วิ่งพล่านได้ทั่วเมือง

ปู่ชิน
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท นิวอีร่า อินเตอร์แอคทีฟ มีเดีย จำกัดNew Era Games