แอลจี มั่นใจขึ้นเป็น 1 ใน 2 ผู้นำตลาดจอดิจิตอลเชิงพาณิชย์สำหรับธุรกิจ (Digital Signage) ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 30% จากมูลค่าตลาดรวม 1 พันล้านบาท ชูจุดเด่นนวัตกรรมขอบจอภาพบางที่สุด และจอแบบ IPS ที่เป็นจอแข็งความละเอียดสูงระดับ 4K ขนาดใหญ่สุด 98 นิ้ว
นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงตลาดรวมจอดิจิตอลเชิงพาณิชย์ว่า จากปีที่ผ่านมากลุ่มตลาดนี้ถือเป็น 1 ใน 2 ตลาดมีเดียที่มีการเติบโตสูงที่สุด และคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้
'ปีที่ผ่านมาตลาดจอดิจิตอลเชิงพาณิชย์มีมูลค่ารวมราว 800 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% หรือเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท ซึ่งทางแอลจีตั้งเป้าไว้ว่าจะมีส่วนแบ่งในตลาดนี้เพิ่มขึ้นเป็น 30% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 25% โดยคิดในแง่ของรายได้เป็น 300 ล้านบาท จากเดิม 200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 50%'
โดยจุดแข็งของแอลจี ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดนี้ คือ เรื่องของนวัตกรรมจอภาพต่างๆ ที่มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น จอภาพขนาดใหญ่ที่ปีนี้จะเพิ่มขนาดเป็น 98 นิ้ว ให้ความละเอียดแบบ UltraHD ที่มีฟังก์ชันอัปสเกลจาก Full HD ถัดมาคือ VDO Wall ที่มีขอบจอบางที่สุดในโลก หน้าจอแบบโปร่งแสง (Transparent Display) จอกระจกที่สามารถโต้ตอบได้ (Mirror Signage) และ ไวท์บอร์ด (Interactive White Board หรือ IWB)
นายวิญญู กล่อมเกล้า ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์อินฟอร์เมชั่น ดิสเพลย์ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า การทำตลาดจอดิจิตอลเชิงพาณิชย์ จะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการแสดงข้อมูลสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นภาคการขนส่ง กลุ่มธุรกิจ QSR (Quick Service Restaurant) หรือตามร้านอาหารสะดวกซื้อ รวมไปถึงกลุ่มภาครัฐ ธุรกิจรีเทล และอุตสาหกรรมสื่อ
โดย เทรนด์การใช้งานในปีนี้จะเน้นไปที่ความอินเทอร์แอ็กทีฟมากขึ้น โดยหนึ่งในนวัตกรรมหลักของแอลจีในปีนี้คือ จอข้อมูลดิจิตอลแบบโปร่งแสง (Digital Transparent Display) ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยแอลจีเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมหน้าจอแสดงผลเชิงพาณิชย์ รวมกับการเพิ่มความหลากหลายของขนาดหน้าจอให้สอดรับกับความต้องการของตลาด
ส่วนกลยุทธ์ทางการตลาด แอลจี จะให้ความสำคัญกับพาร์ทเนอร์ ที่เป็นSystem Integrator ในการพัฒนาโซลูชัน ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และคอนเทนต์ ซึ่งปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์ที่ครอบคลุมในหลายอุตสาหกรรม ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่นบลู มีเดีย คอมมิวนิเคชั่นส์,คิง เพาเวอร์,เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และเอสเอฟ ซีเนม่า รวมๆแล้วเกือบ 40 ราย
ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้ร่วมมือกับเทสโก้ โลตัส ติดตั้งVideo Wall แบบTouch Screenในไฮเปอร์มาร์เก็ต 30 สาขาทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล และจะขยายไปทั่วประเทศภายในปีนี้ ขณะเดียวกันยังวางแผนขยายตลาดไปยัง ภาคการศึกษา อย่างโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ที่นำ IWB ไปใช้ในการเรียนการสอน
Company Relate Link :
LG