xs
xsm
sm
md
lg

“มอเตอร์โชว์ 2015” เก๋งเล็กแลกหมัด รถหรู-อเนกประสงค์ใหม่คึกคัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กลับมาเป็นประจำทุกต้นปี “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” งานแสดงรถยนต์ในไทยที่มีมายาวนานจนถึงครั้งที่ 36 แล้ว โดยปีนี้ยังคงยึดเวทีอาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ให้ผู้ชื่นชอบนวัตกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง ได้มาชมและเลือกซื้อเลือกถอยรถตามใจชอบ แน่นอนไฮไลต์ที่ผู้มาชมงานสนใจย่อมเป็นรถรุ่นใหม่เพิ่งแนะนำสู่ตลาด ที่ในงานครั้งนี้มีทั้งรถตลาดราคาไม่กี่แสนบาท ไปจนถึงรถหรูระดับเกือบ 60 ล้านบาท!!!
มาสด้า2
เก๋งเล็กฝ่าตลาดอืดส่งรถรุ่นใหม่แลกหมัด

รถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือเก๋งที่มีเครื่องยนต์ระดับ 1,200-1,500 ซีซี. เป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเป็นรถที่มีราคาไม่สูงเกินเอื้อมถึงของผู้คนส่วนใหญ่ แม้ว่าในปีที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงปีนี้ ตลาดรถกลุ่มนี้จะชะลอตัวอย่างมาก จากการถูกดึงกำลังซื้อไปจากโครงการรถคันแรก และสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้กำลังซื้อของลูกค้ากลุ่มนี้หดหายไปเยอะ

อย่างไรก็ตาม ในเวทีบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2015 นอกจากมีการแต่งหน้าทาปากของรถรุ่นที่มีในตลาด ยังมีเก๋งขนาดเล็กรุ่นใหม่แนะนำสู่ตลาดพร้อมๆ กันหลายรุ่น เริ่มจาก “มาสด้า2 Skyactiv G 1.3” ที่ถูกส่งมาเสริมทัพรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล หรือ Skyactiv D 1.5 ลิตร ที่เพิ่งวางขายอย่างเป็นทางการไปเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา

มาสด้า2 Skyactiv G 1.3 หรือรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1,300 ซีซี. 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตัน-เมตร มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 23.3 กม./ลิตร จะมาเป็นรุ่นธงของรถในตระกูลมาสด้า2 ด้วยความคุ้นเคยกับเครื่องยนต์เบนซินในเก๋งเล็กของคนไทย บวกกับราคาที่ต่ำกว่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซลกว่าแสนบาท หรือราคาประมาณ 5.50-6.65 แสนบาท (ราคาเป็นทางการจะเปิดเผยในงาน) แม้หากเทียบกับอีโคคาร์ในตลาดปัจจุบันจะสูงกว่า จากต้นทุนของเทคโนโลยีที่พัฒนาบนเงื่อนไขการปล่อยมลพิษ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มกว่า ภายใต้โครงการอีโคคาร์ ระยะที่ 2 (Phase2) แต่มาสด้าเชื่อมั่นเทคโนโลยีและสมรรถนะที่เหนือกว่าคู่แข่ง ที่สำคัญความคุ้มค่าของรถเหมาะสมกับราคา จึงมั่นใจลูกค้าจะให้การตอบรับมาสด้า2 Skyactiv G 1.3 อย่างแน่นอน
ซูซูกิ เซียส
ถึงอย่างนั้นมาสด้า2 ใหม่ คงต้อเจอศึกหนักกับเก๋งเล็กโมเดลใหม่ “ซูซูกิ เซียส” (Suzuki Ciaz) อีโคคาร์รุ่นที่ 3 จากไลน์ผลิตในไทย ภายใต้โครงการอีโคคาร์1 หลังจากซูซูกิประสบความสำเร็จกับรุ่นแรก “สวิฟท์” และมาแป๊กกับรุ่นสอง “ซูซูกิ เซเลริโอ” เนื่องจากคนไทยยังไม่ยอมรับเครื่องยนต์ระดับ 1,000 ซีซี. ประกอบกับการวางราคาไม่โดนใจอย่างที่คาดหวังไว้ แต่ในรุ่นเซียสอีโคคาร์ตัวถังซีดานรุ่นแรก ซูซูกิมีความคาดหวังมากที่จะกลับมาผงาดในตลาดเก๋งเล็กอีกครั้ง

จุดเด่นของซูซูกิ เซียส อยู่ที่การออกแบบรูปลักษณ์ใหม่ ที่มาพร้อมกับตัวถังแบบซีดานขนาดใหญ่ ระดับน้องๆ เก๋งคอมแพ็กต์ กับมิติความยาว 4,490 มม. กว้าง 1,730 มม. สูง 1,485 มม. และระยะฐานล้อที่ 2,650 มม. จึงเป็นอีโคคาร์ซีดานที่หรูหราและใหญ่ที่สุดในคลาส ทำให้ “นิสสัน อัลเมร่า” ชิดซ้ายไปเลย ขณะที่เครื่องยนต์คุ้นเคยกันดีกับบล็อกรหัส K12B ขนาด 1.25 ลิตร 91 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับสวิฟท์นั่นเอง ทั้งหมดจึงไม่แปลกที่ซูซูกิจะหวังกับรถรุ่นนี้เป็นอย่างมาก เพียงแต่ในงานจะยังไม่เคาะราคาวางจำหน่าย เพราะกำหนดเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพฤษภาคม แต่ในงานจะเปิดให้กับลูกค้าที่สนใจจริงๆ จองคิวได้
เอ็มจี3
เก๋งเล็กใหม่อีกรุ่นที่จะเปิดศึกท้าชิงยอดขาย ในเวทีบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2015 เป็นรถน้องใหม่ “เอ็มจี” ที่ล่าสุดได้เปิดตัวรถรุ่นที่2 ในไทย “เอ็มจี3” (MG3) เก๋งซับคอมแพ็กต์ขนาดเครื่องยนต์ 1,500 ลิตร 106 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 135 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ SeleMatic (เซเลเมติก) รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85

สิ่งที่น่าสนใจของเอ็มจี3 เห็นจะเป็นการวางราคารุ่นแฮตช์แบ็ก (Hatchback) 5 ประตู เริ่มต้นที่ 479,000 -559,000 บาท และสำหรับรุ่นครอส (Xross) พร้อมหลังคาซันรูฟราคา 595,000 บาท ถือเป็นการเปิดราคาลงมาชนกับอีโคคาร์ ขณะที่โดดเด่นกว่าในเรื่องเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ต่างๆ ค่อนข้างจัดมาให้แบบเต็มที่ แต่รถยนต์สัญชาติอังกฤษที่ไปอยู่ภายใต้เงากลุ่มทุนจีน จะได้รับความไว้วางใจจากคนไทยหรือไม่? ต้องติดตามกันต่อไป...
ฟอร์ด เรนเจอร์
ปิกอัพ/พีพีวียกเวทีให้ฟอร์ด ไร้เงาโตโยต้า

ตลาดที่ได้รับความนิยมจากคนไทย ในส่วนของรถยนต์นั่งอีกกลุ่มเป็นเก๋งคอมแพ็กต์ แต่เวทีนี้ไม่มีรถรุ่นใหม่ หรือที่ปรับโฉมโดดเด่นนัก จึงขอขยับสายตาไปยังปิกอัพ 1 ตัน ที่ไทยเป็นตลาดใหญ่สุดในโลก ก่อนหน้านี้มีกระแสการเปิดตัวโฉมใหม่ของปิกอัพยอดนิยม “โตโยต้า ไฮลักซ์” และทางผู้จัดงานก็พยายามเจรจาให้โตโยต้านำมาโชว์ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ แต่ที่สุดโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ยังคงยืนยันแผนเปิดตัวช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้เช่นเดิม

ขณะที่ปิกอัพใหม่ของค่ายอื่นๆ ต่างปล่อยทีเด็ดออกมาหมดแล้ว ที่เป็นไฮไลต์ของปิกอัพจึงมีเพียง “ฟอร์ด เรนเจอร์” ใหม่ แม้จะเป็นเพียงการไมเนอร์เชนจ์ แต่มีการปรับรูปลักษณ์หน้าตาค่อนข้างเยอะทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นภายนอกและภายใน ซึ่งเป็นการปรับให้สอดคล้องกับรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี “ฟอร์ด เอเวอเรสต์” โฉมใหม่ ที่ใช้พื้นฐานตัวถังและเครื่องยนต์บล็อกเดียวกับปิกอัพเรนเจอร์ และกำหนดเปิดตัวจะมีขึ้นในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2015 โดยเป็นไฮไลต์ของกลุ่มรถพีพีวีเลยทีเดียว
ฟอร์ด เอเวอเรสต์
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาในสไตล์รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่ผสมผสานความสมบุกสมบันแบบออฟโรดเข้ากับการขับขี่ที่คล่องตัว และมีการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นระบบปรับอัตราทดตามสภาพถนน (Terrain Management System), หลังคามูนรูฟขนาดใหญ่ (Panoramic moonroof), เบาะแถวที่ 3 ปรับไฟฟ้า และประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า (Third-row Power Fold seats and Power Tailgate), ระบบช่วยจอด (Active Park Assist), และระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System - BLIS) เป็นต้น

ส่วนคู่แข่งพีพีวีรุ่นอื่นๆ ที่เฝ้ารออย่าง “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์” และ “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” โฉมใหม่ คงต้องรอต่อไปจนถึงช่วงกลางปี แต่เวทีนี้ยังมีรถตรวจการณ์คล้ายรถทหารของค่ายไทยรุ่ง ยูเนียคาร์ ในชื่อรุ่น “ทีอาร์ ทรานฟอร์เมอร์ แม็กซ์” (TR TRANSFORMER MAX) ที่ต่อยอดยอดมาจากรุ่นทีอาร์ ทรานฟอร์เมอร์ โดยเพิ่มเบาะเป็นแบบ 11 ที่นั่ง จากเดิม 7 ที่นั่ง ส่วนเครื่องยนต์และโครงสร้างตัวถังพัฒนาจากปิกอัพ “โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้” ราคาอยู่ที่ 1.5 - 1.6 ล้านบาท
ซังยอง ACTYON Sports Camping
ไม่เพียงเท่านี้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความต่าง และไม่สนใจกระแสหรือตลาดหลักแล้ว เวทีนี้ยังมีตัวเลือกใหม่ “ซังยอง ACTYON Sports Camping” ที่มาในรูปลักษณ์ของปิกอัพเพื่อการท่องเที่ยว วางเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2,000 ซีซี. 155 แรงม้า แรงบิดที่ 360 นิวตันเมตร เปิดราคาจำหน่ายภายในงาน 2.3 ล้านบาท
โตโยต้า คัมรี
รถหรู-สปอร์ต-อเนกประสงค์พรีเมียมพรึบ

ขยับความหรูมาดูกลุ่มรถยนต์นั่ง เริ่มจากเก๋งขนาดกลาง หรือ D-Car Segment แม้จะไม่มีโมเดลใหม่แต่การไมเนอร์เชนจ์ของ “โตโยต้า คัมรี” ใหม่สร้างคึกคักไม่น้อย เพราะที่ไม่เพียงปรับรูปลักษณ์ด้านหน้าใหม่ และใส่อุปกรณ์เทคโนใลยีความทันสมัยแบบจัดเต็ม ยังมากับเครื่องยนต์ใหม่ 6AR-FSE 2,000 ซีซี. VVT-iW 167 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Sequential Shift ขณะที่รุ่น 2,500 ซีซี. และรุ่นไฮบริดยังคงวางบล็อกเดิม ตั้งราคาที่ 1.319-1.899 ล้านบาท
โตโยต้า อัลฟาร์ด
ขณะเดียวกันโตโยต้ายังลุยชนกับผู้นำเข้าอิสระหรือเกรย์มาร์เก็ต เปิดตัว “โตโยต้า อัลฟาร์ด” (Toyota Alphard)โฉมใหม่ หรือเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของเอ็มพีวีหรูคันโปรดของเหล่าผู้บริหาร เวอร์ชั่นที่ทำตลาดเป็นรุ่นไฮบริด เป็นการทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน 2,500 ซีซี. 155 แรงม้า ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำล้งด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ราคา3,549,000 บาท และรุ่นเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3,500 ซีซี. 271 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ Super ECT 6 สปีด ราคา 4,649,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกกับรุ่น “โตโยต้า เวลไฟร์” (Toyota Vellfire) ที่ใช้พื้นฐานเดียวกัน แต่ออกแบบรูปลักษณ์ดูดุดันสปอร์ตกว่า ทำตลาดกับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2,500 ซีซี. 16 วาล์ว Dual VVT-i 180 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด จำหน่ายในราค 3,399,000 บาท
โตโยต้า เวลไฟร์
มิตซูบิชิ เดลิกา
อีกไฮไลต์ที่น่าสนใจของกลุ่มรถอเนกประสงค์ คงเป็นการเปิดตัวโมเดลใหม่ในไทยของ “มิตซูบิชิ เดลิกา” (Mitsubishi Delica) เอ็มพีวีหรู 7 ที่นั่ง ที่มีการออกแบบรูปลักษณ์ค่อนข้างดุดันกว่ารถประเภทเดียวกันในตลาด โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งเบนซิน 2,000 และ 2,400 ซีซี. แต่รุ่นหลังจะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เช่นเดียวกับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2,300 ซีซี. ทั้งหมดส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT 6 สปีด INVEC III และยังมีโหมดสปอร์ตด้วย ซึ่งในไทยคาดว่าจะนำรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2,000 ซีซี 150 แรงม้า มาทำตลาด ในราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท

ภายในงานยังมีสปอร์ตแวกอน “วอลโว่ วี60” ที่เสริมทัพใหม่กับรุ่น V60 T5 Drive-E Powertrain ซึ่งวางขุมพลังตระกูล Drive-E Powertrain 2,000 ซีซี. 4 สูบไดเร็กอินเจ็กชั่น พร้อมเทอร์โบชาร์จ 220 แรงม้า และระบบส่งกำลังใหม่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เพื่อตอบสนองการขับขี่แบบสปอร์ต เร้าใจ แต่นุ่มนวลและประหยัดเชื้อเพลิง วิ่งเฉลี่ยในและนอกเมือง 16.1 ก.ม./ลิตร มีราคาจำหน่ายที่ 2.549 ล้านบาท
วอลโว่ วี60
ซูบารุ เอาต์แบ็ค
หันมาฟากรถอเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์ เริ่มเบาๆ กับราคา 2.59 ล้านบาท ของ “ซูบารุ เอาต์แบ็ค” (Subaru Outback) เครื่องยนต์ใหม่ 4 สูบนอน Boxer ตระกูล FB Series ขนาด 2,500 ซีซี. 175 แรงม้า แรงบิด 235 นิวตัน-เมตร ทำงานเงียบขึ้นและประหยัดเชื้อเพลิงกว่ารุ่นก่อน จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT โดยระบบการขับขี่ 4 ล้อ เป็นแบบสมมาตร(Symmetrical All-Wheel Drive )

แต่ถ้าแบบเริ่ดหรูต้องมาบูธ “ปอร์เช่” เพราะมีการเปิดผ้าคลุมรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันแรกของโลก ในคลาสรถสปอร์ตเอสยูวีระดับหรู “คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด” (Cayenne S E-Hybrid) ใหม่ โดยใช้เครื่องยนต์รูปแบบ Parallel full hybrid พร้อมด้วยเทคโนโลยีแบบ Plug-in, Turbocharged เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3,000 ซีซี. ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ผลิตพละกำลังรวมสูงสุด 416 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Tiptronic S และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Permanent all-wheel drive อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง 3.4 ลิตร/ 100 กม. วางขายราคาที่ 7.99 ล้านบาท
ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด
เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี คูเป้
สำหรับใครที่ต้องการรถหรูขวัญใจมหา(เศรษฐี)ชน ต้องมาที่บูธ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” และ “บีเอ็มดับเบิลยู” โดยค่ายตราดาวยกทัพรถใหม่มาเปิดตัวถึง 5 รุ่นหลากสไตล์ เริ่มตั้งแต่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส” ใหม่ เวอร์ชั่นประกอบในไทย(CKD) ของเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริด C-Class BlueTEC HYBRID ราคาเริ่ม 2.840-3.090 ล้านบาท ตามด้วยรถที่เจาะคนรุ่นใหม่ “ซีแอลเอ-คลาส” คราวนี้เสริมทัพตัวถัง Shooting Brake หรือแบบแวกอน แต่หากชอบแปลกๆ ยังมีเอสยูวีสไตล์คูเป้ “จีแอลอี คูเป้” (GLE Coupé) คู่แข่งของบีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์6 (BMW X6) และถ้าชอบใหญ่ๆ นี่เลยรถตู้อเนกประสงค์ 6 ที่นั่ง “วี-คลาส” โฉมใหม่

อย่างไรก็ตาม รถรุ่นเด่นสุดของบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ ต้องเป็นรถสปอร์ตโมเดลใหม่ “เมอร์เดส-เบนซ์ เอเอ็มจี จีที เอส” (AMG GT S) ที่รีดกำลังได้มากถึง 510 แรงม้า จากขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4,000 ซีซี. เทอร์โบคู่ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด (AMG SPEEDSHIFT DCT 7-speed sports transmission) สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 310 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาแค่ 3.8 วินาที วางราคาขายที่ 14.9 ล้านบาท
เมอร์เดส-เบนซ์ เอเอ็มจี จีที เอส
บีเอ็มดับเบิลยู ไอ3
ส่วนคู่แข่ง “บีเอ็มดับเบิลยู” มีไฮไลต์เป็นรุ่น “ไอ3” (i3) รถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ สามารถขับเคลื่อนในชีวิตประจำวันไปได้ไกล 130-160 กม. และยังเป็นยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกของโลก ที่วางเครื่องยนต์เบนซิน 2 สูบ 650 ซีซี. 34 แรงม้า เพื่อสร้างพลังงานไฟฟ้าเพิ่มระยะขับเคลื่อนสูงสุดต่อวันได้ถึง 300 กม. ความเร็วสูงสุดที่ 150 กม./ชม. และอีกรุ่นเป็นรถคอมแพ็กต์ “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์2” ในรูปแบบอเนกประสงค์ หรือ Active Tourer เพื่อเสริมทัพในรุ่นคูเป้ ในรุ่น 218i Active Tourer M Sport เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1,500 ซีซี. 136 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
โรลส์-รอยซ์ Phantom Drophead Coupe “Waterspeed Collection”
ทั้งหมดยังแค่จิ๊บๆ เพราะมียนตรกรรมหรูจากค่าย “โรลส์-รอยซ์” กับคอลเลคชั่นพิเศษของ Phantom Drophead Coupe ในชื่อ “Waterspeed Collection” ที่โดดเด่นกับสีฟ้าครามเฉด Maggiore Blue ซึ่งพิเศษตรงที่การพ่นเลเยอร์สีมากถึงเก้าชั้น พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งเป็นเอกลักษณ์ รุ่นพิเศษนี้ทั่วโลกผลิตจำกัดเพียง 39 คันเท่านั้น วางขายในไทย 59 ล้านบาท

นี่เป็นไฮไลต์รถใหม่ของแต่ละค่ายรถ ที่เข้าร่วมในสังเวียนงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2015 ส่วนตัวจริงจะโดนใจแค่ไหน? เชิญไปชมกันได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม - 5 เมษายนนี้ ที่อาคารชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี...

แจกบัตร "มอเตอร์โชว์ "คนละ 2ใบ มารับได้ที่ บ้านพระอาทิตย์ เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 8.30-18.00น. ติดต่อรับได้ที่โอเปอเรเตอร์ เบอร์ 02-6294488

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring

กำลังโหลดความคิดเห็น