วันนี้(23 มี.ค.) ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี สะดวกจัดงานเปิดตัวปิกอัพ “เรนเจอร์ ไมเนอร์เชนจ์” ในวันแรกของงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2015 (รอบวีไอพี) ซึ่งเป็นการเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก แต่ยังไม่เปิดเผยราคาและช่วงเวลาการขาย ส่วนเอเวอเรสต์ ใหม่จะเปิดตัววันพรุ่งนี้พร้อมเปิดราคาและรับจอง
สำหรับเรนเจอร์ ใหม่ พยายามสื่อสารการออกแบบที่ทรงพลัง ด้วยเส้นสายกระโปรงหน้าดูดุดัน เข้ากับกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ขณะที่ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่เสริมให้ตัวรถดูแข็งแกร่ง
ส่วนห้องโดยสารสร้างบรรยากาศเหมือนรถยนต์นั่ง ดูโอ่อ่า กว้างขวาง โดดเด่นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว กลางแผงคอนโซล ส่วนแผงหน้าปัดควบคุมแบบหน้าจอคู่ ทีเอฟที (Dual TFT) แสดงข้อมูลของตัวรถและสถานะของฟังก์ชันต่างๆ อย่างครบครัน ทั้งระบบความบันเทิง ระบบนำทาง และระบบปรับอากาศ
ฟอร์ดยังชูว่า เรนเจอร์ เป็นหนึ่งในสุดยอดรถกระบะพันธุ์แกร่งในตลาด โดยสามารถลุยน้ำได้ที่ความลึกถึง 800 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าลึกที่สุดในรถประเภทนี้ ส่วนพื้นรถสูง 230 มิลลิเมตร ออกแบบมาเพื่อรับมือกับเส้นทางวิบากด้วยมุมตัดที่ 28 องศาและ มุมจากที่ 25 องศา
ขณะที่ระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อที่ควบคุมแบบระบบอิเล็กทรอนิกส์ใน ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ สามารถเลือกโหมดทำงานได้ทั้งแบบขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อเกียร์สูงได้ด้วยการหมุนปุ่มที่คอนโซลกลาง ส่วนในสถานการณ์ที่ต้องใช้แรงบิดสูงที่ความเร็วต่ำ หรือกรณีที่ต้องเบรกขณะลงเขา ผู้ขับขี่ก็สามารถปรับไปใช้งานโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อเกียร์ต่ำได้ ส่วนชุดเฟืองท้ายแบบอิเล็กทรอนิกล็อค เสริมให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นในสภาวะการขับขี่ที่ยากลำบาก
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่สามารถลากจูงน้ำหนักได้สูงสุด 3,500 กิโลกรัม และรับน้ำหนักบรรทุกสูงถึง 1,175 กิโลกรัม
ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ 5 สูบ ขนาด 3.2 กำลังสูงสุด 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร 150 แรงม้า รวมถึงเครื่องยนต์เบนซิน ดูราเทค ขนาด 2.5 ลิตร ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร
อย่างไรก็ตามฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังติดตั้งระบบสตาร์ทและดับเครื่องอัตโนมัติ (Automatic Start/Stop) ซึ่งจะดับเครื่องขณะที่รถหยุดนิ่งอยู่กับที่ เช่น ขณะที่รอสัญญาณไฟเขียว ช่วยประหยัดน้ำมันสูงถึง 3.5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอัตราทดเฟืองท้ายได้รับการปรับแต่งยาวขึ้น ช่วยให้ประหยัดน้ำมันดียิ่งขึ้นเมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูง
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง ซิงค์ 2 ระบบเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารภายในตัวรถรุ่นล่าสุด ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมระบบต่างๆ ของตัวรถได้อย่างชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยระบบการรับคำสั่งผ่านเสียง โดยผู้ขับขี่สามารถพูดคำสั่งภาษาอังกฤษเช่น “Temperature 20 degrees” “play AC/DC” หรือ “I’m hungry” เพื่อควบคุมระบบปรับอากาศ ระบบความบันเทิง หรือระบบนำทางของรถได้ทันที ส่วนจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และคำสั่งแบบแยกสี ช่วยให้การเลือกใช้งานเมนูต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งยังติดตั้งช่องชาร์จไฟแบบ 240 โวลต์ ซึ่งสามารถใช้ชาร์จไฟคอมพิวเตอร์โน๊ตบุคได้
เทคโนโลยีอัจฉริยะในฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่
- ระบบช่วยเตือนการขับขี่ในช่องทาง (Lane Keeping Alert) และระบบรักษาช่องทางขับขี่ (Lane Keeping Aid) โดยระบบทั้งสองจะทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่เบนตัวรถออกจากช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ในขณะที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง โดยหากกล้องด้านหน้ารถมองเห็นว่ารถกำลังเบนหัวออกจากช่องทางขับขี่ ระบบจะทำการแจ้งเตือนโดยจะทำการสั่นพวงมาลัยเพื่อเตือนผู้ขับขี่ และหากผู้ขับขี่ไม่หันหัวรถกลับเข้าสู่ช่องทางเดิม ระบบรักษาช่องทางขับขี่ก็จะใช้แรงบิดจากพวงมาลัยเพื่อเบนรถให้กลับสู่เลนที่ถูกต้อง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า (Adaptive Cruise Control) ใช้อุปกรณ์เรดาร์ช่วยรักษาความเร็วตามที่ตั้งค่าไว้ และช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอีกด้วย เมื่อระบบตรวจพบว่ามีรถยนต์คันอื่นอยู่ข้างหน้า จะทำการลดความเร็วเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ก่อนจะเร่งกลับมาที่ความเร็วที่ตั้งไว้เมื่อถนนโล่ง ส่วนฟังก์ชั่นจำกัดความเร็วแบบตั้งค่าได้ ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่เร่งความเร็วเกินกว่าที่กำหนดไว้โดยไม่ตั้งใจ
- ระบบเตือนป้องกันการชนรถคันหน้า (Forward Alert) ทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า เพื่อส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ด้วยสัญญาณไฟและเสียง หากตัวรถเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป ระบบจะเริ่มควบคุมการเบรกเพื่อให้สามารถหยุดรถได้ทันท่วงทีหากจำเป็น
- สัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง (Front and Rear Park Assist) ใช้อุปกรณ์เซนเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางขณะจอดรถ และส่งสัญญาณเสียงเตือนหากรถเข้าใกล้สิ่งกีดขวางดังกล่าวที่ความเร็วต่ำ ส่วนกล้องมองหลังช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นด้านท้ายรถอย่างชัดเจน สามารถจอดรถหรือเตรียมการพ่วงรถได้อย่างมั่นใจ
- ระบบตรวจสอบวัดและแจ้งเตือนลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) เสริมความปลอดภัยและช่วยประหยัดน้ำมันด้วยการเตือนผู้ขับขี่ หากความดันยางต่ำเกินไป
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program) พร้อมระบบป้องกันการพลิกคว่ำและลดอาการส่ายขณะลากจูงเทรลเลอร์ ช่วยให้รถอยู่ในการควบคุมได้เสมอ แม้ในสภาวะการขับขี่ที่ยากลำบาก
- ระบบตรวจสอบผู้ขับขี่ (Driver Impairment Monitor) ใช้กล้องหน้าและเซนเซอร์ตรวจจับผู้ขับขี่ว่ามีอาการง่วงหรือหลับในหรือไม่ โดยหากพบว่ารถเริ่มวิ่งออกจากเส้นทางหรือมีการกระตุกพวงมาลัยบ่อยครั้ง ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือนผู้ขับขี่ โดยใช้ระดับเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะกลับสู่สภาวะปกติ
- ในบางประเทศ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะมาพร้อมกับระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณบลูทูธเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยระบบจะแจ้งรายละเอียดและตำแหน่งของตัวรถโดยอัตโนมัติ ก่อนจะเปิดสายให้ผู้ขับขี่สนทนากับเจ้าหน้าที่ต่อไป
- เทคโนโลยีอัจฉริยะอื่นๆ ในฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่รวมถึง ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ขับบนทางลาดชันได้อย่างมั่นใจไม่ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) ที่ช่วยควบคุมการขับลงเขาที่เสริมแรงเบรกในความเร็วที่ต่อเนื่อง ระบบควบคุมการบรรทุก (Adaptive Load Control) ช่วยรักษาระบบควบคุมการทรงตัวขึ้นอยู่กับน้ำหนักของสัมภาระ และระบบเบรกฉุกเฉิน (Emergency Brake Assistance) ซึ่งจะส่งน้ำหนักไปที่ระบบเบรกเพื่อเพิ่มพลังในการเบรกเมื่อผู้ขับขี่เบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน
สำหรับการเปิดตัวฟอร์ดเรนเจอร์ ใหม่ในวันนี้เป็นการจัดงานแบบ "โกลบอล ลอนซ์" ที่ประเทศไทย ส่วนความเคลื่อนไหวในการทำตลาดทางผู้บริหารไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใดๆ
สำหรับเรนเจอร์ ใหม่ พยายามสื่อสารการออกแบบที่ทรงพลัง ด้วยเส้นสายกระโปรงหน้าดูดุดัน เข้ากับกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ขณะที่ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่เสริมให้ตัวรถดูแข็งแกร่ง
ส่วนห้องโดยสารสร้างบรรยากาศเหมือนรถยนต์นั่ง ดูโอ่อ่า กว้างขวาง โดดเด่นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว กลางแผงคอนโซล ส่วนแผงหน้าปัดควบคุมแบบหน้าจอคู่ ทีเอฟที (Dual TFT) แสดงข้อมูลของตัวรถและสถานะของฟังก์ชันต่างๆ อย่างครบครัน ทั้งระบบความบันเทิง ระบบนำทาง และระบบปรับอากาศ
ฟอร์ดยังชูว่า เรนเจอร์ เป็นหนึ่งในสุดยอดรถกระบะพันธุ์แกร่งในตลาด โดยสามารถลุยน้ำได้ที่ความลึกถึง 800 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าลึกที่สุดในรถประเภทนี้ ส่วนพื้นรถสูง 230 มิลลิเมตร ออกแบบมาเพื่อรับมือกับเส้นทางวิบากด้วยมุมตัดที่ 28 องศาและ มุมจากที่ 25 องศา
ขณะที่ระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อที่ควบคุมแบบระบบอิเล็กทรอนิกส์ใน ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ สามารถเลือกโหมดทำงานได้ทั้งแบบขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อเกียร์สูงได้ด้วยการหมุนปุ่มที่คอนโซลกลาง ส่วนในสถานการณ์ที่ต้องใช้แรงบิดสูงที่ความเร็วต่ำ หรือกรณีที่ต้องเบรกขณะลงเขา ผู้ขับขี่ก็สามารถปรับไปใช้งานโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อเกียร์ต่ำได้ ส่วนชุดเฟืองท้ายแบบอิเล็กทรอนิกล็อค เสริมให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นในสภาวะการขับขี่ที่ยากลำบาก
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่สามารถลากจูงน้ำหนักได้สูงสุด 3,500 กิโลกรัม และรับน้ำหนักบรรทุกสูงถึง 1,175 กิโลกรัม
ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ 5 สูบ ขนาด 3.2 กำลังสูงสุด 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร 150 แรงม้า รวมถึงเครื่องยนต์เบนซิน ดูราเทค ขนาด 2.5 ลิตร ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร
อย่างไรก็ตามฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังติดตั้งระบบสตาร์ทและดับเครื่องอัตโนมัติ (Automatic Start/Stop) ซึ่งจะดับเครื่องขณะที่รถหยุดนิ่งอยู่กับที่ เช่น ขณะที่รอสัญญาณไฟเขียว ช่วยประหยัดน้ำมันสูงถึง 3.5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอัตราทดเฟืองท้ายได้รับการปรับแต่งยาวขึ้น ช่วยให้ประหยัดน้ำมันดียิ่งขึ้นเมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูง
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง ซิงค์ 2 ระบบเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารภายในตัวรถรุ่นล่าสุด ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมระบบต่างๆ ของตัวรถได้อย่างชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยระบบการรับคำสั่งผ่านเสียง โดยผู้ขับขี่สามารถพูดคำสั่งภาษาอังกฤษเช่น “Temperature 20 degrees” “play AC/DC” หรือ “I’m hungry” เพื่อควบคุมระบบปรับอากาศ ระบบความบันเทิง หรือระบบนำทางของรถได้ทันที ส่วนจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และคำสั่งแบบแยกสี ช่วยให้การเลือกใช้งานเมนูต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งยังติดตั้งช่องชาร์จไฟแบบ 240 โวลต์ ซึ่งสามารถใช้ชาร์จไฟคอมพิวเตอร์โน๊ตบุคได้
เทคโนโลยีอัจฉริยะในฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่
- ระบบช่วยเตือนการขับขี่ในช่องทาง (Lane Keeping Alert) และระบบรักษาช่องทางขับขี่ (Lane Keeping Aid) โดยระบบทั้งสองจะทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่เบนตัวรถออกจากช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ในขณะที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง โดยหากกล้องด้านหน้ารถมองเห็นว่ารถกำลังเบนหัวออกจากช่องทางขับขี่ ระบบจะทำการแจ้งเตือนโดยจะทำการสั่นพวงมาลัยเพื่อเตือนผู้ขับขี่ และหากผู้ขับขี่ไม่หันหัวรถกลับเข้าสู่ช่องทางเดิม ระบบรักษาช่องทางขับขี่ก็จะใช้แรงบิดจากพวงมาลัยเพื่อเบนรถให้กลับสู่เลนที่ถูกต้อง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า (Adaptive Cruise Control) ใช้อุปกรณ์เรดาร์ช่วยรักษาความเร็วตามที่ตั้งค่าไว้ และช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอีกด้วย เมื่อระบบตรวจพบว่ามีรถยนต์คันอื่นอยู่ข้างหน้า จะทำการลดความเร็วเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ก่อนจะเร่งกลับมาที่ความเร็วที่ตั้งไว้เมื่อถนนโล่ง ส่วนฟังก์ชั่นจำกัดความเร็วแบบตั้งค่าได้ ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่เร่งความเร็วเกินกว่าที่กำหนดไว้โดยไม่ตั้งใจ
- ระบบเตือนป้องกันการชนรถคันหน้า (Forward Alert) ทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า เพื่อส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ด้วยสัญญาณไฟและเสียง หากตัวรถเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป ระบบจะเริ่มควบคุมการเบรกเพื่อให้สามารถหยุดรถได้ทันท่วงทีหากจำเป็น
- สัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง (Front and Rear Park Assist) ใช้อุปกรณ์เซนเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางขณะจอดรถ และส่งสัญญาณเสียงเตือนหากรถเข้าใกล้สิ่งกีดขวางดังกล่าวที่ความเร็วต่ำ ส่วนกล้องมองหลังช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นด้านท้ายรถอย่างชัดเจน สามารถจอดรถหรือเตรียมการพ่วงรถได้อย่างมั่นใจ
- ระบบตรวจสอบวัดและแจ้งเตือนลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) เสริมความปลอดภัยและช่วยประหยัดน้ำมันด้วยการเตือนผู้ขับขี่ หากความดันยางต่ำเกินไป
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program) พร้อมระบบป้องกันการพลิกคว่ำและลดอาการส่ายขณะลากจูงเทรลเลอร์ ช่วยให้รถอยู่ในการควบคุมได้เสมอ แม้ในสภาวะการขับขี่ที่ยากลำบาก
- ระบบตรวจสอบผู้ขับขี่ (Driver Impairment Monitor) ใช้กล้องหน้าและเซนเซอร์ตรวจจับผู้ขับขี่ว่ามีอาการง่วงหรือหลับในหรือไม่ โดยหากพบว่ารถเริ่มวิ่งออกจากเส้นทางหรือมีการกระตุกพวงมาลัยบ่อยครั้ง ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือนผู้ขับขี่ โดยใช้ระดับเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะกลับสู่สภาวะปกติ
- ในบางประเทศ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะมาพร้อมกับระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณบลูทูธเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยระบบจะแจ้งรายละเอียดและตำแหน่งของตัวรถโดยอัตโนมัติ ก่อนจะเปิดสายให้ผู้ขับขี่สนทนากับเจ้าหน้าที่ต่อไป
- เทคโนโลยีอัจฉริยะอื่นๆ ในฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่รวมถึง ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ขับบนทางลาดชันได้อย่างมั่นใจไม่ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) ที่ช่วยควบคุมการขับลงเขาที่เสริมแรงเบรกในความเร็วที่ต่อเนื่อง ระบบควบคุมการบรรทุก (Adaptive Load Control) ช่วยรักษาระบบควบคุมการทรงตัวขึ้นอยู่กับน้ำหนักของสัมภาระ และระบบเบรกฉุกเฉิน (Emergency Brake Assistance) ซึ่งจะส่งน้ำหนักไปที่ระบบเบรกเพื่อเพิ่มพลังในการเบรกเมื่อผู้ขับขี่เบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน
สำหรับการเปิดตัวฟอร์ดเรนเจอร์ ใหม่ในวันนี้เป็นการจัดงานแบบ "โกลบอล ลอนซ์" ที่ประเทศไทย ส่วนความเคลื่อนไหวในการทำตลาดทางผู้บริหารไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใดๆ