วันนี้(17 มี.ค.) บริษัทเอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัทเอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ “เอ็มจี” ในประเทศไทย จัดงานเปิดตัว“เอ็มจี 3” ทั้งรุ่นแฮทช์แบ็คและครอส หวังเพิ่มสีสันบนท้องถนนเน้นเอาใจคนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ความสนุก (FUN) เปิดราคา 4.79 - 5.95 แสนบาท
สำหรับเอ็มจี 3 ได้รับการออกแบบ และพัฒนาตามแนวคิด Brit Dynamic (บริท ไดนามิก) มาตรฐานใหม่ในการขับขี่ เอ็มจี 3 ได้รับการออกแบบที่ศูนย์ออกแบบรถยนต์ Birmingham Design Centre ของ MG ในประเทศอังกฤษโดยทีมวิศวกรและ นักออกแบบกว่า 360 คน ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ให้เป็นรถยนต์ที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์
เอ็มจี 3 มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่รุ่นแฮทช์แบ็ค (Hatchback) 5 ประตู และรุ่นครอส (Xross) ที่ออกแบบให้มีความโดดเด่นแบบรถเอสยูวี (SUV) แตกต่างด้วยกันชนหน้า-หลังแบบสปอร์ต พร้อมชุดแต่งรอบคันและราวหลังคา
ขณะที่สีภายนอกมีให้เลือกแบบทูโทน หากลูกค้าที่ต้องการความเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ด้วยตัวถังสีเหลืองหลังคาสีดำ (Tudor Yellow – Black Top) ตัวถังสีแดงหลังคาสีขาว (Regal Red – White Top) และตัวถังสีฟ้าหลังคาสีขาว (Thames Blue – White Top)
นอกจากนี้เอ็มจี 3 ยังให้อิสระแก่ลูกค้าในการตกแต่งภายนอกของรถยนต์ให้ตรงกับสไตล์ที่เป็นตัวของตัวเอง อาทิ สติกเกอร์ตกแต่งหลังคา 5 สไตล์ ได้แก่ Scottish Kilt , Brit Pop, MOD, Union Jack และ London Tube รวมทั้งฝาครอบกระจกมองข้าง 4 สี
ออปชันเด่นๆมีทั้ง หลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้า ที่ปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (LED Daytime Running Light – DRL) ที่ติดตั้งในรุ่น D และ X ที่ให้ทั้งความสวยงาม และโดดเด่นไม่เหมือนใคร
เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTi-TECH 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 135 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด SeleMatic (เซเลเมติก) พร้อมระบบปรับโหมดการขับขี่แบบสปอร์ตและแบบแมนวล (Manual) ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์เองได้ รองรับน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ E85
ด้านระบบความปลอดภัย ได้แก่ ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง (CBC - Curve Brake Control) ช่วยควบคุมรถให้มีเสถียรภาพในขณะเข้าโค้งให้ความปลอดภัย และความมั่นใจอย่างสูงแก่ผู้ขับขี่ ระบบการช่วยการ ออกตัวบนทางลาดชัน (HAS - Hill-Start Assist System) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน (ABS - Anti-Lock Braking System) พร้อมระบบช่วยกระจายแรงเบรก (EBD - Electronic Brake – Force Distribution) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล (TCS - Traction Control System) ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (MSR - Motor Control Slide Retainer) ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC - Electronic Stability Control) โครงสร้างตัวถังเพื่อความปลอดภัย (USD - Ultimate Stiffness Design) และ ระบบเสริมแรงเบรก (BA - Brake Assist)
สำหรับแผนการตลาดเอ็มจีได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อกลางแจ้งและสื่อออนไลน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Hello FUN ที่สื่อถึงความสนุกแบบไม่จำกัด เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ในวัยเริ่มต้นทำงานและผู้ที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยได้มาชมหรือสัมผัสและทดสอบสมรรถนะของเอ็มจี 3
โดยราคาเอ็มจี 3 แบ่งเป็น รุ่นแฮทช์แบ็ค (Hatchback) 5 ประตู ได้แก่ รุ่น C ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ 479,000 บาท รุ่น (กลาง) D 509,000 บาท และรุ่นท็อป X พร้อมติดตั้งหลังคาซันรูฟที่ 559,000 บาท และสำหรับรุ่นครอส (Xross) จะมีเพียงรุ่นเดียว คือ รุ่น X พร้อมหลังคาซันรูฟราคา 595,000 บาท
คลิกอ่านบททดสอบ MG3 ก่อนงานเปิดตัว
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
สำหรับเอ็มจี 3 ได้รับการออกแบบ และพัฒนาตามแนวคิด Brit Dynamic (บริท ไดนามิก) มาตรฐานใหม่ในการขับขี่ เอ็มจี 3 ได้รับการออกแบบที่ศูนย์ออกแบบรถยนต์ Birmingham Design Centre ของ MG ในประเทศอังกฤษโดยทีมวิศวกรและ นักออกแบบกว่า 360 คน ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ให้เป็นรถยนต์ที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์
เอ็มจี 3 มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่รุ่นแฮทช์แบ็ค (Hatchback) 5 ประตู และรุ่นครอส (Xross) ที่ออกแบบให้มีความโดดเด่นแบบรถเอสยูวี (SUV) แตกต่างด้วยกันชนหน้า-หลังแบบสปอร์ต พร้อมชุดแต่งรอบคันและราวหลังคา
ขณะที่สีภายนอกมีให้เลือกแบบทูโทน หากลูกค้าที่ต้องการความเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ด้วยตัวถังสีเหลืองหลังคาสีดำ (Tudor Yellow – Black Top) ตัวถังสีแดงหลังคาสีขาว (Regal Red – White Top) และตัวถังสีฟ้าหลังคาสีขาว (Thames Blue – White Top)
นอกจากนี้เอ็มจี 3 ยังให้อิสระแก่ลูกค้าในการตกแต่งภายนอกของรถยนต์ให้ตรงกับสไตล์ที่เป็นตัวของตัวเอง อาทิ สติกเกอร์ตกแต่งหลังคา 5 สไตล์ ได้แก่ Scottish Kilt , Brit Pop, MOD, Union Jack และ London Tube รวมทั้งฝาครอบกระจกมองข้าง 4 สี
ออปชันเด่นๆมีทั้ง หลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้า ที่ปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (LED Daytime Running Light – DRL) ที่ติดตั้งในรุ่น D และ X ที่ให้ทั้งความสวยงาม และโดดเด่นไม่เหมือนใคร
เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTi-TECH 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 135 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด SeleMatic (เซเลเมติก) พร้อมระบบปรับโหมดการขับขี่แบบสปอร์ตและแบบแมนวล (Manual) ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์เองได้ รองรับน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ E85
ด้านระบบความปลอดภัย ได้แก่ ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง (CBC - Curve Brake Control) ช่วยควบคุมรถให้มีเสถียรภาพในขณะเข้าโค้งให้ความปลอดภัย และความมั่นใจอย่างสูงแก่ผู้ขับขี่ ระบบการช่วยการ ออกตัวบนทางลาดชัน (HAS - Hill-Start Assist System) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน (ABS - Anti-Lock Braking System) พร้อมระบบช่วยกระจายแรงเบรก (EBD - Electronic Brake – Force Distribution) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล (TCS - Traction Control System) ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (MSR - Motor Control Slide Retainer) ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC - Electronic Stability Control) โครงสร้างตัวถังเพื่อความปลอดภัย (USD - Ultimate Stiffness Design) และ ระบบเสริมแรงเบรก (BA - Brake Assist)
สำหรับแผนการตลาดเอ็มจีได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อกลางแจ้งและสื่อออนไลน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Hello FUN ที่สื่อถึงความสนุกแบบไม่จำกัด เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ในวัยเริ่มต้นทำงานและผู้ที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยได้มาชมหรือสัมผัสและทดสอบสมรรถนะของเอ็มจี 3
โดยราคาเอ็มจี 3 แบ่งเป็น รุ่นแฮทช์แบ็ค (Hatchback) 5 ประตู ได้แก่ รุ่น C ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ 479,000 บาท รุ่น (กลาง) D 509,000 บาท และรุ่นท็อป X พร้อมติดตั้งหลังคาซันรูฟที่ 559,000 บาท และสำหรับรุ่นครอส (Xross) จะมีเพียงรุ่นเดียว คือ รุ่น X พร้อมหลังคาซันรูฟราคา 595,000 บาท
คลิกอ่านบททดสอบ MG3 ก่อนงานเปิดตัว
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring