วันนี้(23 มี.ค.) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดงานเปิดตัว “โตโยต้า อัลฟาร์ดและเวลไฟร์” โฉมใหม่ ชูความหรูหราและสะดวกสบาย ภายใต้แนวคิด GRANDELUXE พร้อมปรับขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด 2.5 ใหม่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในตลาดเมืองไทย สนนราคา 3.399-4.649 ล้านบาท
นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นายเคนอิจิ โยชิโอกะ หัวหน้าวิศวกร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และนายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแนะนำที่สุดแห่งเกียรติยศยนตกรรมโตโยต้า อัลฟาร์ด 3.5 อัลฟาร์ด ไฮบริด 2.5 และเวลไฟร์ 2.5 ใหม่
สำหรับโตโยต้า อัลฟาร์ด เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ระดับหรู จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เพื่อเป็นรถยนต์โดยสารสำหรับบุคคลระดับชั้นนำ ด้วยการใส่ใจในการออกแบบทุกรายละเอียด ทั้งภายใน และภายนอก อย่างประณีต หรูหรา โดยโฉมใหม่นี้เป็น Generation ที่ 3 ของโลก ที่มาพร้อมกับความหรูหราเหนือระดับ ทั้งรุ่นอัลฟาร์ด 3.5 และอัลฟาร์ด ไฮบริด 2.5 ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายวิเชียร กล่าวว่า “ในครั้งนี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีความยินดีที่จะได้ แนะนำรถยนต์โตโยต้า เวลไฟร์ นอกเหนือจาก โตโยต้า อัลฟาร์ด ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่มุ่งเน้นถึงความหรูหราผสานกับความสปอร์ต ซึ่งจะนำเข้าอย่างเป็นทางการโดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด”
“รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ ถูกพัฒนาขึ้น ภายใต้แนวคิด GRANDELUXE สะท้อนให้เห็นถึงที่สุดของความหรูหราอย่างมีคุณภาพ ที่โดดเด่นทั้งสมรรถนะการขับขี่ รูปลักษณ์ภายนอกที่หรูหรา มีรสนิยม ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบครัน และได้มีการพัฒนาเพื่อให้เหมาะสม และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบ Hybrid ที่ได้ถูกออกแบบและปรับปรุงใหม่ ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และภูมิอากาศของประเทศไทย”
นายเคนอิจิ โยชิโอกะ กล่าวว่า “รถยนต์โตโยต้าอัลฟาร์ด และเวล์ไฟร์ ได้ถูกออกแบบภายใต้ คอนเซ็ปต์ AVANT - GRAND ที่ผสมผสานความสง่างาม ลุ่มลึก และ ความสร้างสรรค์ คล่องตัว ไว้ด้วยกัน โดยมีจุดเด่น 4 จุดหลัก ได้แก่ 1.รูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว โดดเด่น แต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง 2.สมรรถนะการขับขี่ระดับมาตรฐานของรถยนต์ระดับหรู 3.ความกว้างขวางสะดวกสบายภายในห้องโดยสารและ 4.อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เลิศหรู เหนือระดับ
ทั้งนี้นอกจากดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวโดดเด่นและสง่างาม โตโยต้า อัลฟาร์ด และเวล์ไฟร์ ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งด้วยสมรรถนะในการขับขี่และการทรงตัวที่ดีเยี่ยมตามหลักอากาศพลศาสตร์ รวมถึงห้องโดยสารที่สะดวกสบายเหมาะกับทุกวิถีชีวิต”
นายวุฒิกร กล่าวเสริมว่า “ด้วยความหรูหรา ล้ำสมัย ประกอบกับสมรรถนะที่เหนือชั้นสมบูรณ์แบบ ซึ่งสะท้อนถึงภาพลักษณ์ที่สง่างาม และความภาคภูมิใจของผู้ใช้ จึงเป็นที่มาของการสื่อสารทางการตลาด ภายใต้แนวคิด One Pride, One Dignity ด้วยเป้าหมายการขาย 700 คันต่อปี”
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ อัลฟาร์ด และเวลไฟร์ ใหม่
อัลฟาร์ด รุ่น 3.5 และ อัลฟาร์ด ไฮบริด 2.5ภายนอกหรูหราโดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียม สเกิร์ตรอบคัน พร้อมรีเฟลกเตอร์ที่สเกิร์ตด้านหลัง ไฟหน้าพร้อม Daytime Running Lightsและไฟตัดหมอกด้านหน้าแบบ LED เช่นเดียวกับไฟท้ายและกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED และมูนรูฟคู่
ภายในเบาะนั่งปรับได้หลายสไตล์ เบาะนั่งผู้ขับปรับได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งผู้ขับขี่ เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังแถวที่ 1 ปรับไฟฟ้า แบบ Executive Lounge พร้อมที่รองขา และแถวที่ 2 เบาะปรับ/พับได้
สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในติดตั้งเครื่องเล่น DVD CD และ MP3 พร้อมช่องต่อ USB iPod AUX รองรับการเชื่อมต่อบลูธูทแบบจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วในด้านหน้า พร้อมลำโพงJBL 17 จุดรอบคัน และจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังขนาด 9 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่น Blu-Ray (เฉพาะรุ่น 3.5), ระบบฟอกอากาศแบบ nanoe ให้อากาศภายในห้องโดยสารบริสุทธิ์ ไร้กลิ่น และเชื้อโรค พร้อมปรับแยกอุณหภูมิแบบอัตโนมัติ 3 โซน แยกอิสระ ซ้าย-ขวา สำหรับด้านหน้าและด้านหลัง, ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบซ่อนฝ้า ปรับความสว่างได้ 4 ระดับ เปลี่ยนสีได้ 16 เฉดสี พร้อมไฟอ่านหนังสือส่วนตัว (เฉพาะรุ่น 3.5), จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้วและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control เพิ่มความสะดวกสบายด้วย แผงควบคุมการโทร-รับโทรศัพท์ (เฉพาะ 3.5) และเปิด-ปิด เพลงที่พวงมาลัย, ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry, ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ 2 ภาษา ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมแอพลิเคชันอัจฉริยะ smart G-BOOK และกล้องมองหลัง
ในส่วนของขุมพลัง รุ่น 3.5เครื่องยนต์ 3.5 ลิตร 24 วาล์ว DOHC Dual VVT-iให้กำลังสูงสุด 271 แรงม้า (202 กิโลวัตต์) ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 340 นิวตันเมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Super ECT แบบ Sequential Shift ส่วนรุ่นไฮบริด 2.5 เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 16 วาล์ว DOHC VVT-i ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (112 กิโลวัตต์) ที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร ที่ 4,400 - 4,800 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ ECVT
ความปลอดภัยติดตั้ง ถุงลม 9 จุด, กุญแจอิเล็กทรอนิกส์ Immobilizer, ระบบควบคุมการทรงตัวอัจฉริยะ (VSC) (เฉพาะ 3.5) และในรุ่นไฮบริด 2.5 เป็นระบบ VDIM, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบเสริมแรงเบรก (BA), ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (HAC), ระบบสัญญาณเตือน VPNS (เฉพาะ ไฮบริด 2.5)และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
ขณะที่เวลไฟร์ รุ่น 2.5ภายนอกมาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และกระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ ภายในห้องโดยสารสีดำรับกับลายไม้ดีไซน์หรู พร้อมเบาะที่นั่งปรับได้หลายรูปแบบ ส่วนอุปกรณ์ความบันเทิงติดตั้งเครื่องเล่น CD DVD MP3 WMA และช่องเชื่อมต่อ USB AUX จอ LED ระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับบลูธูท ที่ด้านหน้า และจอ LED ขนาด 10.2 นิ้ว พร้อมลำโพงรอบคัน 8 จุด, ระบบฟอกอากาศแบบ nanoe , ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบซ่อนฝ้าปรับความสว่างได้ 4 ระดับ เปลี่ยนสีได้ 16 เฉดสี, จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้วและระบบความคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control, ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry, ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ สามารถรองรับได้ทั้ง 2 ภาษา ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมรองรับระบบsmart G-BOOK และกล้องมองหลัง
ด้านขุมพลังเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 16 วาล์ว Dual VVT-iให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า (134 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตัน-เมตร ที่ 4,100 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift
ราคาโตโยต้า อัลฟาร์ด และเวลไฟร์ใหม่
เวลไฟร์ รุ่น 2.5 มีให้เลือก 3 สี Burning Black (ใหม่), Silver Metallic และ White Pearl Crystal ราคา 3,399,000 บาท
อัลฟาร์ด มีให้เลือก 3 สี Luxury White Pearl (ใหม่), White Pearl Crystal และBlack รุ่น 2.5 ไฮบริด ราคา 3,549,000 บาท รุ่น 3.5 ราคา 4,649,000 บาท
แจกบัตร "มอเตอร์โชว์ "คนละ 2ใบ มารับได้ที่ บ้านพระอาทิตย์ เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 8.30-18.00น. ติดต่อรับได้ที่โอเปอเรเตอร์ เบอร์ 02-6294488
นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นายเคนอิจิ โยชิโอกะ หัวหน้าวิศวกร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และนายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแนะนำที่สุดแห่งเกียรติยศยนตกรรมโตโยต้า อัลฟาร์ด 3.5 อัลฟาร์ด ไฮบริด 2.5 และเวลไฟร์ 2.5 ใหม่
สำหรับโตโยต้า อัลฟาร์ด เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ระดับหรู จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เพื่อเป็นรถยนต์โดยสารสำหรับบุคคลระดับชั้นนำ ด้วยการใส่ใจในการออกแบบทุกรายละเอียด ทั้งภายใน และภายนอก อย่างประณีต หรูหรา โดยโฉมใหม่นี้เป็น Generation ที่ 3 ของโลก ที่มาพร้อมกับความหรูหราเหนือระดับ ทั้งรุ่นอัลฟาร์ด 3.5 และอัลฟาร์ด ไฮบริด 2.5 ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายวิเชียร กล่าวว่า “ในครั้งนี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีความยินดีที่จะได้ แนะนำรถยนต์โตโยต้า เวลไฟร์ นอกเหนือจาก โตโยต้า อัลฟาร์ด ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่มุ่งเน้นถึงความหรูหราผสานกับความสปอร์ต ซึ่งจะนำเข้าอย่างเป็นทางการโดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด”
“รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ ถูกพัฒนาขึ้น ภายใต้แนวคิด GRANDELUXE สะท้อนให้เห็นถึงที่สุดของความหรูหราอย่างมีคุณภาพ ที่โดดเด่นทั้งสมรรถนะการขับขี่ รูปลักษณ์ภายนอกที่หรูหรา มีรสนิยม ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบครัน และได้มีการพัฒนาเพื่อให้เหมาะสม และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบ Hybrid ที่ได้ถูกออกแบบและปรับปรุงใหม่ ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และภูมิอากาศของประเทศไทย”
นายเคนอิจิ โยชิโอกะ กล่าวว่า “รถยนต์โตโยต้าอัลฟาร์ด และเวล์ไฟร์ ได้ถูกออกแบบภายใต้ คอนเซ็ปต์ AVANT - GRAND ที่ผสมผสานความสง่างาม ลุ่มลึก และ ความสร้างสรรค์ คล่องตัว ไว้ด้วยกัน โดยมีจุดเด่น 4 จุดหลัก ได้แก่ 1.รูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว โดดเด่น แต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง 2.สมรรถนะการขับขี่ระดับมาตรฐานของรถยนต์ระดับหรู 3.ความกว้างขวางสะดวกสบายภายในห้องโดยสารและ 4.อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เลิศหรู เหนือระดับ
ทั้งนี้นอกจากดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวโดดเด่นและสง่างาม โตโยต้า อัลฟาร์ด และเวล์ไฟร์ ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งด้วยสมรรถนะในการขับขี่และการทรงตัวที่ดีเยี่ยมตามหลักอากาศพลศาสตร์ รวมถึงห้องโดยสารที่สะดวกสบายเหมาะกับทุกวิถีชีวิต”
นายวุฒิกร กล่าวเสริมว่า “ด้วยความหรูหรา ล้ำสมัย ประกอบกับสมรรถนะที่เหนือชั้นสมบูรณ์แบบ ซึ่งสะท้อนถึงภาพลักษณ์ที่สง่างาม และความภาคภูมิใจของผู้ใช้ จึงเป็นที่มาของการสื่อสารทางการตลาด ภายใต้แนวคิด One Pride, One Dignity ด้วยเป้าหมายการขาย 700 คันต่อปี”
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ อัลฟาร์ด และเวลไฟร์ ใหม่
อัลฟาร์ด รุ่น 3.5 และ อัลฟาร์ด ไฮบริด 2.5ภายนอกหรูหราโดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียม สเกิร์ตรอบคัน พร้อมรีเฟลกเตอร์ที่สเกิร์ตด้านหลัง ไฟหน้าพร้อม Daytime Running Lightsและไฟตัดหมอกด้านหน้าแบบ LED เช่นเดียวกับไฟท้ายและกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED และมูนรูฟคู่
ภายในเบาะนั่งปรับได้หลายสไตล์ เบาะนั่งผู้ขับปรับได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งผู้ขับขี่ เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังแถวที่ 1 ปรับไฟฟ้า แบบ Executive Lounge พร้อมที่รองขา และแถวที่ 2 เบาะปรับ/พับได้
สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในติดตั้งเครื่องเล่น DVD CD และ MP3 พร้อมช่องต่อ USB iPod AUX รองรับการเชื่อมต่อบลูธูทแบบจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วในด้านหน้า พร้อมลำโพงJBL 17 จุดรอบคัน และจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังขนาด 9 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่น Blu-Ray (เฉพาะรุ่น 3.5), ระบบฟอกอากาศแบบ nanoe ให้อากาศภายในห้องโดยสารบริสุทธิ์ ไร้กลิ่น และเชื้อโรค พร้อมปรับแยกอุณหภูมิแบบอัตโนมัติ 3 โซน แยกอิสระ ซ้าย-ขวา สำหรับด้านหน้าและด้านหลัง, ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบซ่อนฝ้า ปรับความสว่างได้ 4 ระดับ เปลี่ยนสีได้ 16 เฉดสี พร้อมไฟอ่านหนังสือส่วนตัว (เฉพาะรุ่น 3.5), จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้วและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control เพิ่มความสะดวกสบายด้วย แผงควบคุมการโทร-รับโทรศัพท์ (เฉพาะ 3.5) และเปิด-ปิด เพลงที่พวงมาลัย, ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry, ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ 2 ภาษา ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมแอพลิเคชันอัจฉริยะ smart G-BOOK และกล้องมองหลัง
ในส่วนของขุมพลัง รุ่น 3.5เครื่องยนต์ 3.5 ลิตร 24 วาล์ว DOHC Dual VVT-iให้กำลังสูงสุด 271 แรงม้า (202 กิโลวัตต์) ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 340 นิวตันเมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Super ECT แบบ Sequential Shift ส่วนรุ่นไฮบริด 2.5 เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 16 วาล์ว DOHC VVT-i ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (112 กิโลวัตต์) ที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร ที่ 4,400 - 4,800 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ ECVT
ความปลอดภัยติดตั้ง ถุงลม 9 จุด, กุญแจอิเล็กทรอนิกส์ Immobilizer, ระบบควบคุมการทรงตัวอัจฉริยะ (VSC) (เฉพาะ 3.5) และในรุ่นไฮบริด 2.5 เป็นระบบ VDIM, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบเสริมแรงเบรก (BA), ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (HAC), ระบบสัญญาณเตือน VPNS (เฉพาะ ไฮบริด 2.5)และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
ขณะที่เวลไฟร์ รุ่น 2.5ภายนอกมาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และกระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ ภายในห้องโดยสารสีดำรับกับลายไม้ดีไซน์หรู พร้อมเบาะที่นั่งปรับได้หลายรูปแบบ ส่วนอุปกรณ์ความบันเทิงติดตั้งเครื่องเล่น CD DVD MP3 WMA และช่องเชื่อมต่อ USB AUX จอ LED ระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับบลูธูท ที่ด้านหน้า และจอ LED ขนาด 10.2 นิ้ว พร้อมลำโพงรอบคัน 8 จุด, ระบบฟอกอากาศแบบ nanoe , ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบซ่อนฝ้าปรับความสว่างได้ 4 ระดับ เปลี่ยนสีได้ 16 เฉดสี, จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้วและระบบความคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control, ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry, ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ สามารถรองรับได้ทั้ง 2 ภาษา ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมรองรับระบบsmart G-BOOK และกล้องมองหลัง
ด้านขุมพลังเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 16 วาล์ว Dual VVT-iให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า (134 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตัน-เมตร ที่ 4,100 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift
ราคาโตโยต้า อัลฟาร์ด และเวลไฟร์ใหม่
เวลไฟร์ รุ่น 2.5 มีให้เลือก 3 สี Burning Black (ใหม่), Silver Metallic และ White Pearl Crystal ราคา 3,399,000 บาท
อัลฟาร์ด มีให้เลือก 3 สี Luxury White Pearl (ใหม่), White Pearl Crystal และBlack รุ่น 2.5 ไฮบริด ราคา 3,549,000 บาท รุ่น 3.5 ราคา 4,649,000 บาท
แจกบัตร "มอเตอร์โชว์ "คนละ 2ใบ มารับได้ที่ บ้านพระอาทิตย์ เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 8.30-18.00น. ติดต่อรับได้ที่โอเปอเรเตอร์ เบอร์ 02-6294488