xs
xsm
sm
md
lg

“ล็อกซเล่ย์” เปิดตลาดรถไฟฟ้า นำเข้ารถโดยสารและรถยนต์นั่ง ตั้งเป้ารวม 400 คัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

บมจ. ล็อกซเล่ย์ ผนึก บีวายดี ออโต้ อินดัสตรี้ ประเทศจีน “เปิดตัวรถโดยสาร และรถยนต์นั่งไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์” ครั้งแรกใประเทศไทย ชูจุดเด่นขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ไร้มลพิษและประหยัดพลังงาน เผยโฉมพร้อมกัน 2 รุ่น คือ รถโดยสารไฟฟ้า รุ่น K9 ที่มีความยาว 12 ม. ด้วยขุมพลัง 250 แรงม้า ชาร์ตไฟ 5 ช.ม. วิ่งได้ 250 ก.ม. และรถยนต์นั่งไฟฟ้า รุ่น E6 ขนาด 5 ที่นั่ง 121 แรงม้า ชาร์ตไฟ 2 ช.ม. วิ่งได้ 300 ก.ม. มั่นใจแบรนด์ BYD มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงการยานยนต์ไฟฟ้า เด่นด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่คุณภาพสูง เมื่อครบอายุการใช้งาน ไม่น้อยกว่า 15 ปี สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ตั้งเป้าปีแรกทั้ง 2 รุ่นไว้ 400 คัน เจาะกลุ่มเป้าหมาย องค์กรภาครัฐ และเอกชน อนาคตเล็งตั้งฐานการผลิตรถโดยสารไฟฟ้าแห่งแรกในไทย

ดร.โกศล สุรโกมล ที่ปรึกษา บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ล็อกซเล่ย์” เป็นผู้นำด้านธุรกิจการค้าและเทคโนโลยีของประเทศไทย ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 76 ปี ด้วยตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสภาวะโลกร้อน บริษัทฯ จึงได้ให้ความสำคัญด้านพลังงานทดแทนมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานเชื้อเพลิงจากสาหร่าย และพลังงานจากขยะ กับความคิดที่จะต่อยอดทางด้านยานยนตร์พลังงานทางเลือกใหม่ชนิดขับเคลื่อนจากพลังงานไฟฟ้า จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสตรี้ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านการผลิตแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน “เปิดตัวรถโดยสาร และรถยนต์นั่งไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยนำเข้ามาประเดิมตลาดก่อน 2 รุ่น ได้แก่ รถโดยสารไฟฟ้า รุ่น K9 และรถยนต์นั่งไฟฟ้า รุ่น E6

“บริษัทฯ ได้ศึกษาเรื่องการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้ามาระยะหนึ่งแล้ว จนกระทั่งมั่นใจว่าตลาดในประเทศไทยพร้อมแล้วสำหรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า บริษัทฯจึงเลือกรถโดยสารและรถยนต์นั่งไฟฟ้าของบีวายดี เข้ามาบุกตลาดเป็น 2 รุ่นแรก เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพ สมรรถนะและความปลอดภัยสูงของยานยนต์ไฟฟ้าบีวายดี อีกทั้งไม่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศ และยังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ มีค่าซ่อมบำรุงรักษาต่ำกว่ารถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป ที่สำคัญแบตเตอรี่รถยนต์ หลังจากครบอายุการใช้งาน ไม่น้อยกว่า 15 ปี สามารถกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น ใช้เป็นแบตเตอรี่สำรองต่างๆ ดังนั้นจึงไม่เป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน”
ดร.โกศล สุรโกมล
สำหรับ รถโดยสารไฟฟ้า รุ่น K9 มาพร้อมกับขนาดความยาวถึง 12 เมตร เป็นรถโดยสารไฟฟ้าชานต่ำที่มีตัวถังรถทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์มีน้ำหนักเบา และไม่เป็นสนิม พร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 180 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 250 แรงม้า ช่วงล่างมีระบบกันสะเทือนแบบถุงลม ใช้แบตเตอรี่ชนิด Lithium Fe มีความจุขนาด 324 กิโลวัตต์ชั่วโมง ใช้เวลาในการประจุไฟฟ้าประมาณ 5 ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางมากกว่า 250 กิโลเมตรต่อการประจุไฟฟ้าเต็ม 1 ครั้ง ทำให้มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยราว 1.2 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อกิโลเมตร หรือประมาณ 4 บาทต่อกิโลเมตร และให้ความเร็วสูงสุดที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รถยนต์นั่งไฟฟ้า รุ่น E6 มีขนาด 5 ที่นั่ง ขนาดความยาว/กว้าง/สูง 4.560/1.822/1.645 เมตร มีระยะห่างช่วงล้อ 2.830 เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 90 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 121 แรงม้า ใช้แบตเตอรี่ชนิด Lithium Fe ที่ความจุ 61.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ใช้เวลาในการประจุไฟฟ้าประมาณ 2 ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางมากกว่า 300 กิโลเมตรต่อการประจุไฟฟ้าเต็ม 1 ครั้ง ทำให้มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.13 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อกิโลเมตร หรือประมาณ 0.5 บาทต่อกิโลเมตร และให้ความเร็วสูงสุดที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ดร.โกศล กล่าวต่อไปว่า กลยุทธ์การทำตลาด จะนำเสนอในลักษณะโซลูชั่นที่ครอบคลุมตั้งแต่การจัดหารถโดยสารและรถยนต์นั่งไฟฟ้า การสนับสนุนด้านการบริหารการเงิน การบริการหลังการขาย การจัดหาอะไหล่สำรองต่างๆทั้งในระยะเวลารับประกันและหลังรับประกัน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้รับการดูแลตลอดอายุการใช้งาน สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ในระยะแรกจะเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าที่เป็นหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยกลุ่มลูกค้ารถโดยสารไฟฟ้าจะเป็นหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ โรงเรียน มหาวิทยาลัย เป็นต้น ส่วนกลุ่มลูกค้ารถยนต์นั่งไฟฟ้าจะเป็นหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ บริษัทรถเช่า แท็กซี่มิเตอร์ โรงแรม เป็นต้น

ในส่วนของศูนย์บริการ ในระยะแรก บริษัทฯ จะร่วมมือกับพันธมิตรจัดตั้งศูนย์บริการกลาง และศูนย์บริการย่อย รวม 5 แห่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จากนั้นจะขยายศูนย์บริการเพิ่มเติมในระยะต่อมา ขณะที่ สถานีประจุไฟฟ้าจะมีการติดตั้งในเขตพื้นที่ของผู้ประกอบการ หรือผู้ให้บริการนั้นๆ และมีแผนจะขยายสถานีประจุไฟฟ้าสำหรับส่วนกลางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้มีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการแน่นอน


ดร.โกศล กล่าวต่อไปอีกว่า ในช่วงแรก บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรถโดยสารไฟฟ้าไว้ประมาณ 200 คัน และรถยนต์นั่งไฟฟ้าอีกประมาณ 200 คัน ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่า จากนโยบายสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลในขณะนี้ จะช่วยกระตุ้นยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีนี้ โดยเฉพาะในส่วนของรถโดยสารไฟฟ้าคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี จึงมีความเป็นไปได้ที่จะนำรถรุ่นอื่นๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น รวมถึงในอนาคตบริษัทมีแผนจะลงทุนก่อตั้งโรงงานประกอบรถโดยสารไฟฟ้าขึ้นภายในประเทศเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด
นายหลิว ฉือ เลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป
ทางด้าน นายหลิว ฉือ เลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายยานยนต์ ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสตรี้ จำกัด เปิดเผยว่า “บีวายดี ออโต้ อินดัสตรี้” เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ และยานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ปัจจุบันมีการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าไปแล้วทั่วโลก อาทิเช่น สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย บราซิล อินเดีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ล่าสุด บริษัท บีวายดีฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสนำเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้ามาให้คนไทยได้สัมผัส โดยร่วมมือกับ “ล็อกซเล่ย์” ที่มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจตลาดเมืองไทยเป็นอย่างดี ซึ่งบริษัท บีวายดีฯ พร้อมสนับสนุนทั้งทางด้านเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่เทคนิค ตลอดจนการจัดส่งรถยนต์ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

แจกบัตร "มอเตอร์โชว์ "คนละ 2ใบ มารับได้ที่ บ้านพระอาทิตย์ เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 8.30-18.00น. ติดต่อรับได้ที่โอเปอเรเตอร์ เบอร์ 02-6294488


กำลังโหลดความคิดเห็น