หลังจากได้มีการเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ กระแสของ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ ดี 1.5” ก็เริ่มซาลง จึงเป็นการบ้านสุดหินที่ต้องทำความเข้าใจกับลูกค้าในไทย ถึงเรื่องของเครื่องยนต์ดีเซลในเก๋งขนาดเล็ก แต่เพื่อเป็นการสร้างกระแสอย่างต่อเนื่อง มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ได้เสริมทัพเปิดตัว “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ จี 1.3” (Mazda2 Skyactiv G 1.3) หรือรุ่นเครื่องยนต์เบนซินตามออกมาติดๆ เพื่อช่วยกันผลักดันยอดขาย และสร้างค่านิยมใหม่ให้กับอีโคคาร์ในอนาคต…
จากรายงานของมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย หลังจากเปิดรับจองรถมาสด้า2 สกายแอคทีฟ ดีเซล 1.5 ลิตร (Mazda2 Skactiv D 1.5) ตั้งแต่ช่วงก่อนสิ้นปีที่ผ่านมา โดยมีลูกค้าจองเข้ามากว่า 3,000 ราย และได้เริ่มส่งมอบรถให้กับลูกค้าไปเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ถึงปัจจุบันส่งมอบรถไปแล้วกว่า 2,000 คัน นับว่าเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง ขณะที่บางส่วนขอชะลอไว้เพื่อดู “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ จี1.3” (Mazda2 Skyactiv G 1.3) หรือรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร
ล่าสุดได้มีการอบรมตัวแทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์ เพื่อเตรียมแนะนำรถมาสด้า2 สกายแอคทีฟ จี 1.3 สู่ตลาดอย่างเป็นทางการ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 และจะมีการแถลงข่าวในสัปดาห์หน้า ทำให้ลูกค้าที่ทราบข่าวกลับมาสอบถามถึงรถรุ่นเครื่องยนต์เบนซินกับตัวแทนจำหน่ายอีกครั้ง
เหตุนี้ในโฆษณาเพื่อรับการเปิดตัวของ มาสด้า2 สกายแอคทีฟ จี 1.3 จึงใช้คำว่า “สิ้นสุดการรอคอย” เพื่อเป็นการบ่งบอกให้ลูกค้ารับทราบ ส่วนสิ่งที่ลูกค้าสนใจสอบถามกับตัวแทนจำหน่าย เมื่อทราบข่าวรถรุ่นนี้จะแนะนำสู่ตลาด เป็นเรื่องของความแตกต่างระหว่างรุ่นเบนซินกับดีเซลและราคาจำหน่าย ซึ่งในรุ่นเบนซินและดีเซลนอกจากเครื่องยนต์ ที่ตัวใหม่ติดตั้งบล็อกเบนซิน Skyactiv G ขนาด 1.3 ลิตร 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตัน-เมตร ในส่วนอื่นๆ แทบจะเหมือนกันหมดกับรุ่นดีเซล Skyactiv D 1.5 ไม่ว่าจะเป็นตัวถังทั้งแบบซีดาน และแฮทช์แบ็ก เรื่องของเทคโนโลยี และออปชั่นต่างๆ
ในส่วนของตัวเลือกรุ่นย่อย จะแยกเป็น 3 รุ่นย่อย คือ รุ่นมาตรฐาน, รุ่น High และรุ่น High Plus คล้ายๆ กับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล แต่จะไม่มีคำว่า XD เพราะนั่นหมายถึงรุ่นดีเซล สำหรับราคายังไม่สรุปอย่างเป็นทางการ แต่จะต่ำกว่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซลประมาณ 1.1-1.2 แสนบาท แล้วแต่รุ่นและออปชั่น หรือรุ่นเริ่มอยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาทต้นๆ โดยมีเฉพาะเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด
โดยสิ่งที่ทางมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำเป็นต้องสร้างความเข้าใจกับลูกค้าอย่างเร่งด่วน คือเรื่องของรถยนต์ภายใต้โครงการอีโคคาร์ เพราะมาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน ได้ขอรับการส่งเสริมการลงทุนในโครงการอีโคคาร์ ระยะที่2 (Eco Car Phase1) และนับเป็นรายแรกที่ผลิตรถภายใต้โครงอีโคคาร์ 2 ซึ่งแตกต่างจากอีโคคาร์รุ่นอื่นๆ ที่ทำตลาดในปัจจุบัน ที่อยู่ภายใต้โครงการอีโคคาร์ 1 ที่มีเงื่อนไขแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเงินลงทุนที่มากกว่า อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ไม่ต่ำกว่า 4.3 ลิตร/ 100 กม. หรือกว่า 23 กม./ลิตร มาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่าเพียง 100 กรัม/กม. (อีโคคาร์ระยะที่ 1 ระดับยูโร 4 หรือปล่อย CO2 ไม่เกิน 120 กรัม/กม.) และมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงกว่า เป็นต้น
ดังนั้นรถยนต์ภายใต้โครงการอีโคคาร์ 2 จึงไม่ใช่รถราคาประหยัดอีกต่อไป แต่เป็นรถที่มีมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย เพียงแต่มาสด้า2 เป็นรุ่นแรกภายใต้โครงการอีโคคาร์ 2 จึงไม่มีรถเปรียบเทียบทำให้อาจจะรู้สึกว่าราคาสูงกว่าอีโคคาร์1 แต่มาสด้าไม่อยากให้แยกเป็นอีโคคาร์ หรือซับคอมแพ็กต์ เพราะในต่างประเทศก็ไม่ได้แยกเช่นกัน อยากให้มองเป็นเก๋งขนาดเล็กที่ลูกค้าสามารถเลือกตามความต้องการใช้งานเป็นหลัก และปกติรถยนต์นั่งเครื่องยนต์ดีเซลจะแพงกว่ารุ่นเบนซินอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ยังระบุถึงความคุ้มค่าหากเปรียบเทียบราคาที่ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะมาสด้า2 สกายแอคทีฟ จี1.3 หรือรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน นับว่ามีความโดดเด่นกว่าอีโคคาร์1 ไม่ว่าจะเป็นอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน มาตรฐานการความปลอดภัย และเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากพิจารณาในส่วนต่างๆ จะเห็นว่ามาสด้า2 สกายแอคทีฟ ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล โดยเฉพาะรุ่นเบนซินที่เป็นแบบเดียวกับอีโคคาร์ในตลาดปัจจุบันทั้งหมด เพราะมาสด้า2 สกายแอคทีฟ จี 1.3 มีขนาดเครื่องยนต์และกำลังสูงสุดมากกว่าอีโคคาร์เฟสแรกทุกรุ่น และมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันดีกว่าที่ 23.3 กม./ลิตร (ดีเซล 26.3 กม./ลิตร) รวมถึงการปล่อยไอเสียที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมล้อม และระบบความปลอดภัยเหนือกว่า
นี่จึงเป็นเด่นของเทคโนโลยีเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ รวมถึงระบบส่งกำลัง Skyactiv-Drive 6 สปีด ขณะที่รายอื่นๆ จะเป็นแบบ 5 สปีด หรือ CVT ยังไม่นับรวมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟอื่นๆ อย่างระบบช่วงล่าง และตัวถัง ตลอดจนระบบปลอดภัย และเทคโนโลยีทันสมัยอย่างระบบ i-ELOOP อุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้า เป็นต้น
ส่วนจุดเด่นอื่นๆ ของมาสด้า2 สกายแอคทีฟ หากเปรียบเทียบกับวัสดุในการนำมาประกอบ จะเห็นว่ามีคุณภาพที่โดดเด่น อย่างพลาสติกพิเศษกันกระแทก ไม่ใช่แบบธรรมดาทั่วไป หรือวัสดุหุ้มหนังในบางจุด และเบาะยังมีการเย็บเช่นเดียวกับรถยุโรปหรู หรือแม้แต่ตัวถังที่มีฐานล้อยาวสุดในอีโคคาร์ปัจจุบัน หรือเหนือกว่าซับคอมแพ็กต์ส่วนใหญ่เสียอีก และอุปกรณ์ที่ติดตั้งเข้ามาไม่ว่าจะเป็น MZD Connect ที่ทำงานผ่านชุดจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อเพื่อฟังอินเทอร์เน็ตเรดิโอ หรือใช้รับส่งสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ได้ และการแสดงข้อมูลบนกระจกแบบเดียวกับรถยุโรป รวมถึงระบบความปลอดภัยที่เป็นอีโคคาร์รุ่นแรก ที่ต้องมีใบรับรองการทดสอบตามมาตรฐานยุโรปด้วย
จากมาตรฐานที่เข้มกว่าของอีโคคาร์ 2 นี่จึงเป็นเหตุผลที่มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ยืนยันถึงภาระต้นทุนที่มากกว่าโครงการแรก และมาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ ยังเสียภาษีสรรพสามิตในอัตรา 17% เท่ากับอีโคคาร์ระยะแรก ไม่ใช่อัตราภาษี 14% ที่จะเริ่มใช้ในปีหน้า แต่เมื่อถึงเวลานั้นมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จะมาพิจารณาดูว่าควรปรับเพิ่มอุปกรณ์ หรือทำอย่างไร? เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด
แน่นอน ณ ปัจจุบันมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เชื่อว่าโฉมใหม่ของมาสด้า2 สกายแอคทีฟ เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร หากเทียบรถในระดับราคาใกล้เคียงกัน หรือคู่แข่งที่เป็นรุ่นขายดีราคาประมาณ 5.5-5.9 แสนบาท นับว่ามีความโดดเด่นกว่ารถในโครงการอีโคคาร์1 หรือสามารถชนกับเก๋งซับคอมแพ็กต์ได้อย่างสบาย?!...
จากรายงานของมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย หลังจากเปิดรับจองรถมาสด้า2 สกายแอคทีฟ ดีเซล 1.5 ลิตร (Mazda2 Skactiv D 1.5) ตั้งแต่ช่วงก่อนสิ้นปีที่ผ่านมา โดยมีลูกค้าจองเข้ามากว่า 3,000 ราย และได้เริ่มส่งมอบรถให้กับลูกค้าไปเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ถึงปัจจุบันส่งมอบรถไปแล้วกว่า 2,000 คัน นับว่าเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง ขณะที่บางส่วนขอชะลอไว้เพื่อดู “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ จี1.3” (Mazda2 Skyactiv G 1.3) หรือรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร
ล่าสุดได้มีการอบรมตัวแทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์ เพื่อเตรียมแนะนำรถมาสด้า2 สกายแอคทีฟ จี 1.3 สู่ตลาดอย่างเป็นทางการ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 และจะมีการแถลงข่าวในสัปดาห์หน้า ทำให้ลูกค้าที่ทราบข่าวกลับมาสอบถามถึงรถรุ่นเครื่องยนต์เบนซินกับตัวแทนจำหน่ายอีกครั้ง
เหตุนี้ในโฆษณาเพื่อรับการเปิดตัวของ มาสด้า2 สกายแอคทีฟ จี 1.3 จึงใช้คำว่า “สิ้นสุดการรอคอย” เพื่อเป็นการบ่งบอกให้ลูกค้ารับทราบ ส่วนสิ่งที่ลูกค้าสนใจสอบถามกับตัวแทนจำหน่าย เมื่อทราบข่าวรถรุ่นนี้จะแนะนำสู่ตลาด เป็นเรื่องของความแตกต่างระหว่างรุ่นเบนซินกับดีเซลและราคาจำหน่าย ซึ่งในรุ่นเบนซินและดีเซลนอกจากเครื่องยนต์ ที่ตัวใหม่ติดตั้งบล็อกเบนซิน Skyactiv G ขนาด 1.3 ลิตร 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตัน-เมตร ในส่วนอื่นๆ แทบจะเหมือนกันหมดกับรุ่นดีเซล Skyactiv D 1.5 ไม่ว่าจะเป็นตัวถังทั้งแบบซีดาน และแฮทช์แบ็ก เรื่องของเทคโนโลยี และออปชั่นต่างๆ
ในส่วนของตัวเลือกรุ่นย่อย จะแยกเป็น 3 รุ่นย่อย คือ รุ่นมาตรฐาน, รุ่น High และรุ่น High Plus คล้ายๆ กับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล แต่จะไม่มีคำว่า XD เพราะนั่นหมายถึงรุ่นดีเซล สำหรับราคายังไม่สรุปอย่างเป็นทางการ แต่จะต่ำกว่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซลประมาณ 1.1-1.2 แสนบาท แล้วแต่รุ่นและออปชั่น หรือรุ่นเริ่มอยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาทต้นๆ โดยมีเฉพาะเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด
โดยสิ่งที่ทางมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำเป็นต้องสร้างความเข้าใจกับลูกค้าอย่างเร่งด่วน คือเรื่องของรถยนต์ภายใต้โครงการอีโคคาร์ เพราะมาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน ได้ขอรับการส่งเสริมการลงทุนในโครงการอีโคคาร์ ระยะที่2 (Eco Car Phase1) และนับเป็นรายแรกที่ผลิตรถภายใต้โครงอีโคคาร์ 2 ซึ่งแตกต่างจากอีโคคาร์รุ่นอื่นๆ ที่ทำตลาดในปัจจุบัน ที่อยู่ภายใต้โครงการอีโคคาร์ 1 ที่มีเงื่อนไขแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเงินลงทุนที่มากกว่า อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ไม่ต่ำกว่า 4.3 ลิตร/ 100 กม. หรือกว่า 23 กม./ลิตร มาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่าเพียง 100 กรัม/กม. (อีโคคาร์ระยะที่ 1 ระดับยูโร 4 หรือปล่อย CO2 ไม่เกิน 120 กรัม/กม.) และมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงกว่า เป็นต้น
ดังนั้นรถยนต์ภายใต้โครงการอีโคคาร์ 2 จึงไม่ใช่รถราคาประหยัดอีกต่อไป แต่เป็นรถที่มีมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย เพียงแต่มาสด้า2 เป็นรุ่นแรกภายใต้โครงการอีโคคาร์ 2 จึงไม่มีรถเปรียบเทียบทำให้อาจจะรู้สึกว่าราคาสูงกว่าอีโคคาร์1 แต่มาสด้าไม่อยากให้แยกเป็นอีโคคาร์ หรือซับคอมแพ็กต์ เพราะในต่างประเทศก็ไม่ได้แยกเช่นกัน อยากให้มองเป็นเก๋งขนาดเล็กที่ลูกค้าสามารถเลือกตามความต้องการใช้งานเป็นหลัก และปกติรถยนต์นั่งเครื่องยนต์ดีเซลจะแพงกว่ารุ่นเบนซินอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ยังระบุถึงความคุ้มค่าหากเปรียบเทียบราคาที่ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะมาสด้า2 สกายแอคทีฟ จี1.3 หรือรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน นับว่ามีความโดดเด่นกว่าอีโคคาร์1 ไม่ว่าจะเป็นอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน มาตรฐานการความปลอดภัย และเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากพิจารณาในส่วนต่างๆ จะเห็นว่ามาสด้า2 สกายแอคทีฟ ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล โดยเฉพาะรุ่นเบนซินที่เป็นแบบเดียวกับอีโคคาร์ในตลาดปัจจุบันทั้งหมด เพราะมาสด้า2 สกายแอคทีฟ จี 1.3 มีขนาดเครื่องยนต์และกำลังสูงสุดมากกว่าอีโคคาร์เฟสแรกทุกรุ่น และมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันดีกว่าที่ 23.3 กม./ลิตร (ดีเซล 26.3 กม./ลิตร) รวมถึงการปล่อยไอเสียที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมล้อม และระบบความปลอดภัยเหนือกว่า
นี่จึงเป็นเด่นของเทคโนโลยีเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ รวมถึงระบบส่งกำลัง Skyactiv-Drive 6 สปีด ขณะที่รายอื่นๆ จะเป็นแบบ 5 สปีด หรือ CVT ยังไม่นับรวมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟอื่นๆ อย่างระบบช่วงล่าง และตัวถัง ตลอดจนระบบปลอดภัย และเทคโนโลยีทันสมัยอย่างระบบ i-ELOOP อุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้า เป็นต้น
ส่วนจุดเด่นอื่นๆ ของมาสด้า2 สกายแอคทีฟ หากเปรียบเทียบกับวัสดุในการนำมาประกอบ จะเห็นว่ามีคุณภาพที่โดดเด่น อย่างพลาสติกพิเศษกันกระแทก ไม่ใช่แบบธรรมดาทั่วไป หรือวัสดุหุ้มหนังในบางจุด และเบาะยังมีการเย็บเช่นเดียวกับรถยุโรปหรู หรือแม้แต่ตัวถังที่มีฐานล้อยาวสุดในอีโคคาร์ปัจจุบัน หรือเหนือกว่าซับคอมแพ็กต์ส่วนใหญ่เสียอีก และอุปกรณ์ที่ติดตั้งเข้ามาไม่ว่าจะเป็น MZD Connect ที่ทำงานผ่านชุดจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อเพื่อฟังอินเทอร์เน็ตเรดิโอ หรือใช้รับส่งสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ได้ และการแสดงข้อมูลบนกระจกแบบเดียวกับรถยุโรป รวมถึงระบบความปลอดภัยที่เป็นอีโคคาร์รุ่นแรก ที่ต้องมีใบรับรองการทดสอบตามมาตรฐานยุโรปด้วย
จากมาตรฐานที่เข้มกว่าของอีโคคาร์ 2 นี่จึงเป็นเหตุผลที่มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ยืนยันถึงภาระต้นทุนที่มากกว่าโครงการแรก และมาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ ยังเสียภาษีสรรพสามิตในอัตรา 17% เท่ากับอีโคคาร์ระยะแรก ไม่ใช่อัตราภาษี 14% ที่จะเริ่มใช้ในปีหน้า แต่เมื่อถึงเวลานั้นมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จะมาพิจารณาดูว่าควรปรับเพิ่มอุปกรณ์ หรือทำอย่างไร? เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด
แน่นอน ณ ปัจจุบันมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เชื่อว่าโฉมใหม่ของมาสด้า2 สกายแอคทีฟ เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร หากเทียบรถในระดับราคาใกล้เคียงกัน หรือคู่แข่งที่เป็นรุ่นขายดีราคาประมาณ 5.5-5.9 แสนบาท นับว่ามีความโดดเด่นกว่ารถในโครงการอีโคคาร์1 หรือสามารถชนกับเก๋งซับคอมแพ็กต์ได้อย่างสบาย?!...
