หนึ่งในดีลเลอร์ที่ฟิตจัดและมีแนวทางธุรกิจที่โดดเด่น ปัจจุบัน“โตโยต้า ทีบีเอ็น” ดูแลการขาย-บริการหลังการขายในเขตกรุงเทพและปริมณฑลรวม 4 สาขาไล่ตั้งแต่ บางนา อ่อนนุช รามคำแหง และกาญจนาภิเษก ซึ่ง 3 แห่งหลังเป็นการควบรวมคอมมิวนิตี้มอลล์กับโชว์รูม-ศูนย์บริการรถยนต์โตโยต้าเข้าไว้ด้วยกัน
ชาญ เลิศประเสริฐภากร ประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า ทีบีเอ็น จำกัด เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่า ยังคงใช้แนวคิด “วัน สต็อป เซอร์วิส” เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า โดยลูกค้าสามารถเข้ามารับบริการได้จบและครบทุกอย่างในพื้นที่แห่งเดียว ไม่ว่าจะนำรถเข้ามาซ่อมบำรุงหรือต้องการจะซื้อรถยนต์คันใหม่ ซึ่งในช่วงเวลานี้ลูกค้าสามารถเข้าไปเดินเล่น กินข้าว ช็อปปิ้ง หรือทำธุรกรรมทางการเงินได้ในศูนย์การค้าพาซิโอ
“เราเริ่มทำโมเดลนี้ที่สาขา อ่อนนุช และได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี จึงขยายมาทำที่รามคำแหง(สุขาภิบาล3) และล่าสุดริมถนนกาญจนาภิเษก ข้างๆสมาคมชาวปักษ์ใต้ ด้วยเงินลงทุนกว่า 2,400 ล้านบาท บนพื้นที่ 50 ไร่ (รวมในส่วนพาซิโอและโชว์รูมโตโยต้า) ถึงวันนี้พิสูจน์แล้วว่าทั้งสองธุรกิจสนับสนุนซึ่งกันและกัน ส่วนหนึ่งเพราะไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยต้องการบริการที่สะดวกสบายในระยะเวลาที่สั้นลง ยกตัวอย่างชัดๆคือ หาที่จอดรถง่าย จากนั้นต้องเข้าถึงและทำธุระต่างๆได้อย่างรวดเร็ว”
ในแง่ของธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ทีบีเอ็นจึงมีความแตกต่าง มีฐานลูกค้ามุ่งหวังใหม่ๆ ซึ่งได้เปรียบกว่าตัวแทนจำหน่ายรถยนต์รายอื่นๆ ตลอดจนที่ผ่านๆมา ทีบีเอ็นเคยออกบูธขายรถตามห้างสรรพสินค้าชื่อดัง พบว่ามีค่าใช้จ่ายมากหรือนับเป็นหลักแสนบาท บางครั้งก็จองพื้นที่ยาก ดังนั้นการมีพื้นที่ มีศูนย์การค้าของตัวเองจึงถือเป็นความได้เปรียบ และเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี บนเป้าหมายสามารถเข้าถึงตัวลูกค้าได้โดยตรง
ชาญ เลิศประเสริฐภากร ยังย้ำว่าจะขยายธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ควบคู่กับคอมมิวนิตี้มอลล์พาซิโอต่อไป หลังจากยึดพื้นที่ย่านตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพแล้ว ตอนนี้เล็งเพิ่มสาขาใหม่ในเขตกรุงเทพตอนเหนือ คาดว่าสาขาใหม่แห่งที่ 5 นี้จะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2560
“โมเดลธุรกิจแบบนี้สามารถเติบโตต่อไปได้อีก 5-10 ปี ตราบใดที่การแพร่กระจายของประชากร และระบบผังเมืองยังเอื้ออยู่ ซึ่งเรากำลังเล็งขยายสาขาใหม่ และน่าจะอยู่แถวๆดอนเมือง รังสิตขึ้นไป ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการหาพื้นที่ที่เหมาะสมและเป็นไปตามข้อกำหนดของโตโยต้า”
ในส่วนยอดขายรถยนต์ปีนี้ โตโยต้า ทีบีเอ็น ตั้งเป้าหมายไว้ 7,000-8,000 คัน และจากแผนงานต่างๆรวมทั้งการเพิ่มโชว์รูมใหม่ในอนาคต คาดว่าภายใน 3 ปี ทีบีเอ็นจะต้องทำยอดขายอยู่ในระดับท็อป 5 ของดีลเลอร์โตโยต้าให้ได้
ชาญ เลิศประเสริฐภากร ประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า ทีบีเอ็น จำกัด เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่า ยังคงใช้แนวคิด “วัน สต็อป เซอร์วิส” เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า โดยลูกค้าสามารถเข้ามารับบริการได้จบและครบทุกอย่างในพื้นที่แห่งเดียว ไม่ว่าจะนำรถเข้ามาซ่อมบำรุงหรือต้องการจะซื้อรถยนต์คันใหม่ ซึ่งในช่วงเวลานี้ลูกค้าสามารถเข้าไปเดินเล่น กินข้าว ช็อปปิ้ง หรือทำธุรกรรมทางการเงินได้ในศูนย์การค้าพาซิโอ
“เราเริ่มทำโมเดลนี้ที่สาขา อ่อนนุช และได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี จึงขยายมาทำที่รามคำแหง(สุขาภิบาล3) และล่าสุดริมถนนกาญจนาภิเษก ข้างๆสมาคมชาวปักษ์ใต้ ด้วยเงินลงทุนกว่า 2,400 ล้านบาท บนพื้นที่ 50 ไร่ (รวมในส่วนพาซิโอและโชว์รูมโตโยต้า) ถึงวันนี้พิสูจน์แล้วว่าทั้งสองธุรกิจสนับสนุนซึ่งกันและกัน ส่วนหนึ่งเพราะไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยต้องการบริการที่สะดวกสบายในระยะเวลาที่สั้นลง ยกตัวอย่างชัดๆคือ หาที่จอดรถง่าย จากนั้นต้องเข้าถึงและทำธุระต่างๆได้อย่างรวดเร็ว”
ในแง่ของธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ทีบีเอ็นจึงมีความแตกต่าง มีฐานลูกค้ามุ่งหวังใหม่ๆ ซึ่งได้เปรียบกว่าตัวแทนจำหน่ายรถยนต์รายอื่นๆ ตลอดจนที่ผ่านๆมา ทีบีเอ็นเคยออกบูธขายรถตามห้างสรรพสินค้าชื่อดัง พบว่ามีค่าใช้จ่ายมากหรือนับเป็นหลักแสนบาท บางครั้งก็จองพื้นที่ยาก ดังนั้นการมีพื้นที่ มีศูนย์การค้าของตัวเองจึงถือเป็นความได้เปรียบ และเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี บนเป้าหมายสามารถเข้าถึงตัวลูกค้าได้โดยตรง
ชาญ เลิศประเสริฐภากร ยังย้ำว่าจะขยายธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ควบคู่กับคอมมิวนิตี้มอลล์พาซิโอต่อไป หลังจากยึดพื้นที่ย่านตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพแล้ว ตอนนี้เล็งเพิ่มสาขาใหม่ในเขตกรุงเทพตอนเหนือ คาดว่าสาขาใหม่แห่งที่ 5 นี้จะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2560
“โมเดลธุรกิจแบบนี้สามารถเติบโตต่อไปได้อีก 5-10 ปี ตราบใดที่การแพร่กระจายของประชากร และระบบผังเมืองยังเอื้ออยู่ ซึ่งเรากำลังเล็งขยายสาขาใหม่ และน่าจะอยู่แถวๆดอนเมือง รังสิตขึ้นไป ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการหาพื้นที่ที่เหมาะสมและเป็นไปตามข้อกำหนดของโตโยต้า”
ในส่วนยอดขายรถยนต์ปีนี้ โตโยต้า ทีบีเอ็น ตั้งเป้าหมายไว้ 7,000-8,000 คัน และจากแผนงานต่างๆรวมทั้งการเพิ่มโชว์รูมใหม่ในอนาคต คาดว่าภายใน 3 ปี ทีบีเอ็นจะต้องทำยอดขายอยู่ในระดับท็อป 5 ของดีลเลอร์โตโยต้าให้ได้