นับเป็นอีกหนึ่งศิลปินหนุ่มที่กำลังหลงเสน่ห์ความเร้าใจของสองล้อคันโตเข้าอย่างจัง สำหรับ “กวาง AB Normal” ศิริศิลป์ โชติวิจิตร ล่าสุดถึงขั้นลงทุนเข้าคอร์สเรียนการขับขี่จากนักซิ่งระดับมืออาชีพแบบตัวต่อตัว เพื่อยกระดับทักษะฝีมือและเตรียมความพร้อมก่อนก้าวสู่บทบาทใหม่ ในมาดนักแข่งที่จะประเดิมลงสนามในรายการแข่งขันประจำปี 2015
“ผมชอบกีฬามอเตอร์สปอร์ตมาตั้งนานแล้ว อย่างการแข่งขันรถยนต์ในรายการโตโยต้าก็เป็นหนึ่งในนักขับทีมโตโยต้า เรซซิ่ง สตาร์ ทีม เข้าปีที่ 3 แล้ว ส่วนบิ๊กไบค์จากตอนแรกขี่เพราะเบื่อรถติด แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกชอบและกลายเป็นว่าใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่ารถยนต์เสียอีก และยิ่งพออยู่กับมอเตอร์ไซค์มากขึ้นก็เริ่มอยากฝึกการขับขี่ให้ดีขึ้น โดยเริ่มจากเบสิกคอร์สและหลังจากนั้นอยากฝึกแบบจริงจัง ก็มีไปฝึกกับพี่เบล(เดอะเบล-เอกชัย เซี่ยงหว่อง) แบบตัวต่อตัว ซึ่งนับว่าเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์และทักษะการขับขี่จากมืออาชีพที่มีค่ามากทีเดียวครับ”
“พัฒนาการระหว่างก่อนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จากที่เราฝึกเองด้วยการดูวีดีโอในยูทูบเทียบกับมีคนมาพูดต่อหน้า มาถ่ายทอดให้ต่อหน้า มันต่างกันมาก ดูในวีดีโอเข่าเช็ดพื้นเขาทำกันยังไง ก็ลองทำเอง แต่มันไม่ลงไปเช็ดสักที เหลืออีกแค่จึ๋งนึง ทีนี้พอมีนักแข่งมาสอน เขาก็ขี่รถตามหรือยืนถ่ายรูปตรงโค้งแล้วเอามาวิเคราะห์ ซึ่งเขาก็สามารถบอกเราได้ว่า ยังมีจุดไหนที่บกพร่องต้องแก้ไข หลังจากนั้นก็ออกไปขี่ไปเรียนกันต่อ จนตอนนี้เข่าเช็ดพื้นได้แล้วครับ(หัวเราะ)” กวางพูดถึงผลการเรียนในสนามและเล่าต่อว่า
“เหตุผลที่ไปเรียนจริงๆ เนื่องจากปีนี้ผมจะลงแข่งขันในรายการ R2M และคาวาซากิ มินิ จีพี ในรุ่นไม่เกิน 300 ซีซี. ด้วยรถแข่งนินจา 300 สังกัดทีมเรียล โมโตสปอร์ต แต่อาจจะไม่ได้ร่วมทุกสนาม เพราะต้องดูคิวงานส่วนตัวว่าจะตรงกับตารางแข่งขันหรือเปล่า”
ด้านความคาดหวังกับการรับบทบาทใหม่ในมาดนักแข่ง เจ้าของบทเพลง “ทั้งที่ผิดก็ยังรัก” ที่กำลังฮอตฮิตติดชาร์ตบอกว่า ปีแรกนี้เหมือนช่วงทดลองงาน ตั้งเป้าแค่เข้าเส้นชัยและจบการแข่งขันโดยไร้อุบัติเหตุใดๆ ก็เพียงพอแล้ว
“ไม่มีความซีเรียสในการแข่งเลยครับ ผมเองถือว่าเป็นมือใหม่มากๆ เข้ามาร่วมแข่งครั้งแรกก็ไม่อยากกดดันตัวเอง รวมถึงเรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อน ส่วนผลงานจะตั้งเป้าให้ชัดเจนได้ คงต้องรอดูในปีต่อไปครับ”
ในฐานะที่เป็นคนชอบขี่บิ๊กไบค์และได้สัมผัสประสบการณ์ในสนามแข่งขัน กวางขอทิ้งท้ายฝากถึงเพื่อนๆ นักบิดบนท้องถนนว่า ความอันตรายของรถ ไม่ว่าจะรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์มีเหมือนกัน หากขับขี่ด้วยความประมาทหรือขาดทักษะการควบคุมที่ถูกต้อง โดยอุบัติเหตุส่วนใหญ่มักมาจากความห้าวของแต่ละบุคคล และตัวเขาเองก่อนหน้านี้ก็ยอมรับว่ามีมากอยู่พอตัวทีเดียว
“สมัยก่อนผมห้าวมากเลยนะ ขับรถยนต์ใครมาจี้ตูดนี่ไม่ได้เลย ชวนแข่งตลอด แต่พอมีโอกาสได้ไปเรียนรู้หลักการขับขี่จริงๆ และได้ไปแข่งในสนาม ทำให้ความอยากซิ่งบนถนนลดลงอย่างเห็นได้ชัด เวลามีคนมาจี้ตูดคราวนี้ปล่อยเขาไปเลย ผมขับมาเท่าไหร่ก็แช่เท่าเดิม ปล่อยให้เขาไปกันก่อนเลย”
“ส่วนบิ๊กไบค์มาเริ่มขี่ตอนหายห้าวแล้ว ก็เลยถือว่าโชคดีไป (หัวเราะ) ไม่งั้นคงเจออุบัติเหตุแน่ๆ ซึ่งสำหรับผมการไปเรียนทักษะในสนามมันช่วยลดความห้าวได้จริงๆ ครับ”
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring