ข่าวในประเทศ-ค่ายรถยนต์ฮุนไดเผยยอดขายปี57เติบโตสวนตลาด ชูนโยบายปีนี้มุ่งสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค เล็งขยายโชว์รูมและศูนย์บริการทั้งกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ ควบคู่การเปิดตัวโมเดลใหม่สู่ตลาดต่อเนื่อง หวังดันยอดจำหน่ายพุ่งทะลุ 20 เปอร์เซ็นต์
บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เผยความสำเร็จยอดจำหน่ายรถยนต์ Hyundai H-1 Series เติบโตเกินร้อยละ 10 สวนกระแสตลาดรวมภายในประเทศที่มียอดจำหน่ายลดลงถึงร้อยละ 35 อันเป็นผลมาจากเหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรก
โดยบริษัทฯ รายงานยอดจำหน่ายรถยนต์ทั้งสิ้น 4,062 คัน ในปี 2557 รุ่นที่ขายดีเป็นอันดับ 1 คือ The New Hyundai H-1 Series ซึ่งประกอบไปด้วยรุ่น Deluxe และ Elite มียอดจำหน่ายสูงสุดถึง 3,066 คัน ในขณะที่ The New Hyundai Grand Starex ทั้งในรุ่น VIP และรุ่น Premium จำหน่ายออกสู่ตลาดทั้งสิ้น 659 คัน สำหรับ All-New Hyundai Elantra Sport ซึ่งเปิดตัวไปในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา มียอดส่งมอบอยู่ที่ประมาณ 300 คัน ซึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือรุ่น GLS Navi
ฮิเดกิ ยานากิซาวา ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของรถยนต์ Hyundai Elantra Sport คือคนรุ่นใหม่ และผู้ที่เคยใช้ชีวิตในต่างประเทศ ซึ่งความต้องการของคนกลุ่มนี้ชัดเจนที่ความสวยงามของการออกแบบ ความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และการขับขี่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ จนทำให้รถรุ่นนี้สะท้อนความคุ้มค่าคุ้มราคาในการขับขี่ และใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างเห็นได้ชัด
“เราต้องขออภัยที่เกิดความล่าช้าในการส่งมอบรถยนต์จนทำให้ลูกค้ากลุ่มแรกๆ ต้องมีการรอส่งมอบเนื่องจากกระแสตอบรับในการจองเกินความคาดหมายที่ตั้งเอาไว้ในฐานะผู้กำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์คอมแพ็กซีดานขนาดกลางในประเทศไทยในด้านของราคา และความคุ้มค่า อย่างไรก็ตามเราก็มั่นใจเป็นอย่างดีว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีกในปีนี้ โดยลูกค้าที่จอง All-New Hyundai Elantra Sport จะได้สนุกกับสมรรถนะและเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นนี้ในเวลาที่รวดเร็วกว่าเดิม” ยานากิซาวา กล่าวและว่า
“บริษัทฯมั่นใจอีกว่ากระแสการตอบรับรถยนต์ที่เน้น “คุณภาพ” และ “การใช้งาน” ที่ให้ความพึงพอใจที่เป็นเอกลักษณ์ยังคงไปได้ดีอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยเฉพาะกับรถยนต์ที่จับกลุ่มลูกค้าระดับ “พรีเมี่ยม” ที่มองหารถยนต์ที่ลงตัวต่อความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ และตอบสนองการใช้งานสำหรับผู้บริหารระดับสูง “รถยนต์หรูหราขนาดใหญ่ระดับ Luxury MPV จะยังคงได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้รถที่มีระดับ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัว หรือนักธุรกิจผู้บริหาร เพราะรถยนต์ในคลาสนี้ให้ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในระดับที่รถยนต์ซีดานราคาแพงอาจจะเทียบไม่ได้”
ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) กล่าวต่อว่า ปี 2558 นี้จะเป็นอีกปีที่สำคัญสำหรับรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทย ไม่เพียงเพราะความต้องการในรถยนต์ Luxury MPV ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่จะรวมไปถึงการขยายเครือข่ายโชว์รูม และศูนย์บริการ เพื่อให้ครอบคลุมและเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดในปัจจุบัน และในอนาคต ซึ่งเราถือว่าผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดคือหัวใจสำคัญของครอบครัวฮุนไดที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับยอดจำหน่ายในปี 2558 บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) คาดการณ์ไว้ว่าจะมียอดเติบโตกว่าร้อยละ 20 หรือยอดจำหน่ายรวมทุกรุ่นทะลุ 5,000 คัน ซึ่งความมั่นใจมาจากการยอมรับในแบรนด์ฮุนไดที่แข็งแกร่งขึ้นอันเป็นผลมาจากคุณภาพและการใช้งานจริงของรถยนต์รุ่นต่างๆ ซึ่งผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดจะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม และความคุ้มค่าคุ้มราคา ในขณะเดียวกันก็อุ่นใจ และสะดวกสบายกับการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการที่เดินหน้าอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
“สิ่งที่คนไทยจะได้รับจากฮุนไดคือ คุณภาพ ,ประสบการณ์การขับขี่ และการใช้งานที่เหนือกว่า ซึ่งนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดในประเทศไทยกว่า 23,000 คน จึงให้ความไว้วางใจในรถยนต์ฮุนไดมาตลอดตั้งแต่การเข้ามาทำตลาดภายใต้ชื่อของ ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ตั้งแต่ในปี 2550” ยานากิซาวากล่าว
บริษัทฯจะทำการแต่งตั้งและเปิดให้บริการโชว์รูม และศูนย์บริการอีก 2-3 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯภายในปีนี้ ซึ่งตามแผนที่เตรียมการณ์ไว้ ฮุนได พระราม 2 จะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 1 ของปีนี้ จากนั้นจะเป็นโชว์รูมฮุนได ลำลูกกา ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ไม่เกินสิ้นปีนี้ สำหรับในต่างจังหวัด ฮุนไดมีแผนที่จะเปิดโชว์รูม และศูนย์บริการในอุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม
ในส่วนของการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเมืองไทย บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ยังคงเดินหน้านำรถยนต์รุ่นใหม่ และรถยนต์ที่น่าสนใจออกทำตลาดเพื่อเป็นการขยายกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดเปิดกว้างขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตามรายละเอียดต่างๆ ยังไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ในเวลานี้
“ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ฮุนไดของแต่ละรุ่นก็นับว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่นๆในระดับเดียวกันในตลาด ซึ่งในปีนี้เราจะปรับปรุงประสิทธิภาพให้สูงยิ่งๆขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของชิ้นส่วนอะไหล่ที่เพียบพร้อม และการให้บริการที่ครอบคลุมกว่าเดิม ซึ่งบริการหลังการขายนับเป็นหัวใจหลักในการสร้างแบรนด์ฮุนไดในประเทศไทยตลอดระยะเวลากว่า 7 ปีที่ผ่านมา” ยานากิซาวา กล่าวสรุป
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เผยความสำเร็จยอดจำหน่ายรถยนต์ Hyundai H-1 Series เติบโตเกินร้อยละ 10 สวนกระแสตลาดรวมภายในประเทศที่มียอดจำหน่ายลดลงถึงร้อยละ 35 อันเป็นผลมาจากเหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรก
โดยบริษัทฯ รายงานยอดจำหน่ายรถยนต์ทั้งสิ้น 4,062 คัน ในปี 2557 รุ่นที่ขายดีเป็นอันดับ 1 คือ The New Hyundai H-1 Series ซึ่งประกอบไปด้วยรุ่น Deluxe และ Elite มียอดจำหน่ายสูงสุดถึง 3,066 คัน ในขณะที่ The New Hyundai Grand Starex ทั้งในรุ่น VIP และรุ่น Premium จำหน่ายออกสู่ตลาดทั้งสิ้น 659 คัน สำหรับ All-New Hyundai Elantra Sport ซึ่งเปิดตัวไปในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา มียอดส่งมอบอยู่ที่ประมาณ 300 คัน ซึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือรุ่น GLS Navi
ฮิเดกิ ยานากิซาวา ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของรถยนต์ Hyundai Elantra Sport คือคนรุ่นใหม่ และผู้ที่เคยใช้ชีวิตในต่างประเทศ ซึ่งความต้องการของคนกลุ่มนี้ชัดเจนที่ความสวยงามของการออกแบบ ความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และการขับขี่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ จนทำให้รถรุ่นนี้สะท้อนความคุ้มค่าคุ้มราคาในการขับขี่ และใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างเห็นได้ชัด
“เราต้องขออภัยที่เกิดความล่าช้าในการส่งมอบรถยนต์จนทำให้ลูกค้ากลุ่มแรกๆ ต้องมีการรอส่งมอบเนื่องจากกระแสตอบรับในการจองเกินความคาดหมายที่ตั้งเอาไว้ในฐานะผู้กำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์คอมแพ็กซีดานขนาดกลางในประเทศไทยในด้านของราคา และความคุ้มค่า อย่างไรก็ตามเราก็มั่นใจเป็นอย่างดีว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีกในปีนี้ โดยลูกค้าที่จอง All-New Hyundai Elantra Sport จะได้สนุกกับสมรรถนะและเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นนี้ในเวลาที่รวดเร็วกว่าเดิม” ยานากิซาวา กล่าวและว่า
“บริษัทฯมั่นใจอีกว่ากระแสการตอบรับรถยนต์ที่เน้น “คุณภาพ” และ “การใช้งาน” ที่ให้ความพึงพอใจที่เป็นเอกลักษณ์ยังคงไปได้ดีอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยเฉพาะกับรถยนต์ที่จับกลุ่มลูกค้าระดับ “พรีเมี่ยม” ที่มองหารถยนต์ที่ลงตัวต่อความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ และตอบสนองการใช้งานสำหรับผู้บริหารระดับสูง “รถยนต์หรูหราขนาดใหญ่ระดับ Luxury MPV จะยังคงได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้รถที่มีระดับ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัว หรือนักธุรกิจผู้บริหาร เพราะรถยนต์ในคลาสนี้ให้ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในระดับที่รถยนต์ซีดานราคาแพงอาจจะเทียบไม่ได้”
ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) กล่าวต่อว่า ปี 2558 นี้จะเป็นอีกปีที่สำคัญสำหรับรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทย ไม่เพียงเพราะความต้องการในรถยนต์ Luxury MPV ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่จะรวมไปถึงการขยายเครือข่ายโชว์รูม และศูนย์บริการ เพื่อให้ครอบคลุมและเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดในปัจจุบัน และในอนาคต ซึ่งเราถือว่าผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดคือหัวใจสำคัญของครอบครัวฮุนไดที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับยอดจำหน่ายในปี 2558 บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) คาดการณ์ไว้ว่าจะมียอดเติบโตกว่าร้อยละ 20 หรือยอดจำหน่ายรวมทุกรุ่นทะลุ 5,000 คัน ซึ่งความมั่นใจมาจากการยอมรับในแบรนด์ฮุนไดที่แข็งแกร่งขึ้นอันเป็นผลมาจากคุณภาพและการใช้งานจริงของรถยนต์รุ่นต่างๆ ซึ่งผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดจะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม และความคุ้มค่าคุ้มราคา ในขณะเดียวกันก็อุ่นใจ และสะดวกสบายกับการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการที่เดินหน้าอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
“สิ่งที่คนไทยจะได้รับจากฮุนไดคือ คุณภาพ ,ประสบการณ์การขับขี่ และการใช้งานที่เหนือกว่า ซึ่งนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดในประเทศไทยกว่า 23,000 คน จึงให้ความไว้วางใจในรถยนต์ฮุนไดมาตลอดตั้งแต่การเข้ามาทำตลาดภายใต้ชื่อของ ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ตั้งแต่ในปี 2550” ยานากิซาวากล่าว
บริษัทฯจะทำการแต่งตั้งและเปิดให้บริการโชว์รูม และศูนย์บริการอีก 2-3 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯภายในปีนี้ ซึ่งตามแผนที่เตรียมการณ์ไว้ ฮุนได พระราม 2 จะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 1 ของปีนี้ จากนั้นจะเป็นโชว์รูมฮุนได ลำลูกกา ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ไม่เกินสิ้นปีนี้ สำหรับในต่างจังหวัด ฮุนไดมีแผนที่จะเปิดโชว์รูม และศูนย์บริการในอุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม
ในส่วนของการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเมืองไทย บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ยังคงเดินหน้านำรถยนต์รุ่นใหม่ และรถยนต์ที่น่าสนใจออกทำตลาดเพื่อเป็นการขยายกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดเปิดกว้างขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตามรายละเอียดต่างๆ ยังไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ในเวลานี้
“ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ฮุนไดของแต่ละรุ่นก็นับว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่นๆในระดับเดียวกันในตลาด ซึ่งในปีนี้เราจะปรับปรุงประสิทธิภาพให้สูงยิ่งๆขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของชิ้นส่วนอะไหล่ที่เพียบพร้อม และการให้บริการที่ครอบคลุมกว่าเดิม ซึ่งบริการหลังการขายนับเป็นหัวใจหลักในการสร้างแบรนด์ฮุนไดในประเทศไทยตลอดระยะเวลากว่า 7 ปีที่ผ่านมา” ยานากิซาวา กล่าวสรุป
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
