ข่าวในประเทศ - ค่าย “นิสสัน” มองสวนค่ายรถยนต์อื่นๆ คาดตลาดรวมปีนี้ลดลง 10% จากปี2557 ที่ขายได้ 8.8 แสนคัน เหตุพืชผลทางการเกษตรราคาตกต่ำ แถมไฟแนนซ์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ลั่นพยายามรักษายอดขายตนเอง 6 หมื่นคัน พร้อมปล่อย จู๊ค ไมเนอร์เชนจ์ เพิ่มรุ่นย่อย 1.6S ราคา 7.99 แสนบาท
นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ทรงตัว ประกอบกับราคาพืชผลทางการเกษตรอย่างข้าวและยางพาราตกต่ำ ขณะที่สถาบันการเงินเริ่มเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ จะส่งผลกระทบกับตลาดรถยนต์ในปีนี้อย่างแน่นอน และคาดว่ายอดขายรวมจะลดลง10% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ปิดยอดขายไป 8.8 แสนคัน
“กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่กลับมา อย่างกลุ่มเกษตรกรรายได้ก็หดหายไปจากปัญหาราคาผลผลิต ซึ่งเรื่องนี้ยังส่งผลกระทบไปอีกหลายธุรกิจ ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยังไม่ค่อยเป็นรูปธรรม แม้จะพยายามอย่างหนักแต่เม็ดเงินที่ลงไปเหมือนลงไปอุดรูรั่วเดิมมากกว่าฟื้นฟูระบบในภาพใหญ่ สอดคล้องกับการระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นจากสถาบันการเงิน คาดว่ากลุ่มลูกค้าระดับกลางและล่าง ที่มีความต้องการรถยนต์ราคาต่ำกว่า 6-7 แสนบาท อาจจะเป็นเจ้าของยากกว่าเดิม”
ในส่วนค่ายรถยนต์ก็พยายามปรับตัวทั้ง ลดกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการตลาด แต่กระนั้นความต้องการขายยังมีมากกว่าความต้องการซื้อ จึงเห็นการเล่นแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างหนัก โดยการแข่งขันในเรื่องแคมเปญที่รุนแรงนี้ยังมีต่อเนื่องไปอีกสักระยะ และน่าจะเบาลงหลังจบงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2015 ช่วงเดือนเมษายน นั่นเพราะกำลังเข้าสู่ปีงบประมาณใหม่ของค่ายรถยนต์ ซึ่งจะมีการปรับแผนเรื่องกำลังการผลิตและค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายอีกครั้ง
นายประพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทประเดิมรุกตลาดตั้งแต่ต้นปีด้วยการเปิดตัวปิกอัพ เอ็นพี300 นาวารา ตัวถังซิงเกิลแค็บและเสริมรุ่นเครื่องยนต์เบนซินให้ครบทุกตัวถัง ล่าสุดยังส่ง “นิสสัน จู๊ค ใหม่” (ไมเนอร์เชนจ์) ที่ได้รับการปรับโฉมให้ทันสมัย เพิ่มออปชันอำนวยความสะดวกปลอดภัย พร้อมเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ 1.6S ราคา 7.99 แสนบาท และคงรุ่นย่อยเดิม 1.6E ราคา 8.54 แสนบาท กับ 1.6V ราคา 8.84 แสนบาท โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ 7,500 คัน
“นิสสัน จู๊ค เป็นรถที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในเมืองไทย หลังจากเริ่มส่งมอบครั้งแรกในเดือนมกราคมปี 2557 ถึงปัจจุบันมียอดขายกว่า 1.1 หมื่นคัน ขณะที่ยอดขายใน 102 ประเทศทั่วโลกที่ทำตลาดมาก่อนหรือประมาณ 4 ปี ทำได้กว่า 1 ล้านคันแล้ว”
ขณะที่เอสยูวีอีกรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง นิสสัน เอ็กซ์เทรล ยังได้การตอบรับดีเช่นกัน ปัจจุบันมียอดค้างส่งมอบประมาณ 2 เดือน นั่นแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตัวสินค้าและความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์นิสสัน ซึ่งบริษัทยังคงนโยบายการตลาดเชิงรุก ควบคู่ไปกับพัฒนาบริการหลังการขาย พร้อมยกระดับมาตรฐานโชว์รูม-ศูนย์บริการให้ตอบสนองความพอใจสูงสุดของลูกค้า ส่วนยอดขายรวมปีนี้บริษัทจะพยายามทำให้ได้เท่ากับปี 2557 ที่ 6 หมื่นคัน
อนึ่งช่วงต้นปีที่ผ่านมาของค่ายยักษ์ใหญ่ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ประเมินสถานการณ์ตลาดรถยนต์รวมปีนี้ว่า จะทำได้ถึง 9.2 แสนคัน เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปี 2557
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ทรงตัว ประกอบกับราคาพืชผลทางการเกษตรอย่างข้าวและยางพาราตกต่ำ ขณะที่สถาบันการเงินเริ่มเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ จะส่งผลกระทบกับตลาดรถยนต์ในปีนี้อย่างแน่นอน และคาดว่ายอดขายรวมจะลดลง10% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ปิดยอดขายไป 8.8 แสนคัน
“กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่กลับมา อย่างกลุ่มเกษตรกรรายได้ก็หดหายไปจากปัญหาราคาผลผลิต ซึ่งเรื่องนี้ยังส่งผลกระทบไปอีกหลายธุรกิจ ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยังไม่ค่อยเป็นรูปธรรม แม้จะพยายามอย่างหนักแต่เม็ดเงินที่ลงไปเหมือนลงไปอุดรูรั่วเดิมมากกว่าฟื้นฟูระบบในภาพใหญ่ สอดคล้องกับการระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นจากสถาบันการเงิน คาดว่ากลุ่มลูกค้าระดับกลางและล่าง ที่มีความต้องการรถยนต์ราคาต่ำกว่า 6-7 แสนบาท อาจจะเป็นเจ้าของยากกว่าเดิม”
ในส่วนค่ายรถยนต์ก็พยายามปรับตัวทั้ง ลดกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการตลาด แต่กระนั้นความต้องการขายยังมีมากกว่าความต้องการซื้อ จึงเห็นการเล่นแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างหนัก โดยการแข่งขันในเรื่องแคมเปญที่รุนแรงนี้ยังมีต่อเนื่องไปอีกสักระยะ และน่าจะเบาลงหลังจบงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2015 ช่วงเดือนเมษายน นั่นเพราะกำลังเข้าสู่ปีงบประมาณใหม่ของค่ายรถยนต์ ซึ่งจะมีการปรับแผนเรื่องกำลังการผลิตและค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายอีกครั้ง
นายประพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทประเดิมรุกตลาดตั้งแต่ต้นปีด้วยการเปิดตัวปิกอัพ เอ็นพี300 นาวารา ตัวถังซิงเกิลแค็บและเสริมรุ่นเครื่องยนต์เบนซินให้ครบทุกตัวถัง ล่าสุดยังส่ง “นิสสัน จู๊ค ใหม่” (ไมเนอร์เชนจ์) ที่ได้รับการปรับโฉมให้ทันสมัย เพิ่มออปชันอำนวยความสะดวกปลอดภัย พร้อมเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ 1.6S ราคา 7.99 แสนบาท และคงรุ่นย่อยเดิม 1.6E ราคา 8.54 แสนบาท กับ 1.6V ราคา 8.84 แสนบาท โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ 7,500 คัน
“นิสสัน จู๊ค เป็นรถที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในเมืองไทย หลังจากเริ่มส่งมอบครั้งแรกในเดือนมกราคมปี 2557 ถึงปัจจุบันมียอดขายกว่า 1.1 หมื่นคัน ขณะที่ยอดขายใน 102 ประเทศทั่วโลกที่ทำตลาดมาก่อนหรือประมาณ 4 ปี ทำได้กว่า 1 ล้านคันแล้ว”
ขณะที่เอสยูวีอีกรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง นิสสัน เอ็กซ์เทรล ยังได้การตอบรับดีเช่นกัน ปัจจุบันมียอดค้างส่งมอบประมาณ 2 เดือน นั่นแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตัวสินค้าและความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์นิสสัน ซึ่งบริษัทยังคงนโยบายการตลาดเชิงรุก ควบคู่ไปกับพัฒนาบริการหลังการขาย พร้อมยกระดับมาตรฐานโชว์รูม-ศูนย์บริการให้ตอบสนองความพอใจสูงสุดของลูกค้า ส่วนยอดขายรวมปีนี้บริษัทจะพยายามทำให้ได้เท่ากับปี 2557 ที่ 6 หมื่นคัน
อนึ่งช่วงต้นปีที่ผ่านมาของค่ายยักษ์ใหญ่ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ประเมินสถานการณ์ตลาดรถยนต์รวมปีนี้ว่า จะทำได้ถึง 9.2 แสนคัน เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปี 2557
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring