ข่าวในประเทศ-อูรัล มอเตอร์ไซเคิล ประเทศไทย สานต่อประวัติศาสตร์รถมอเตอร์พ่วงข้างรัสเซีย Ural ชูจุดเด่นรูปลักษณ์คลาสสิก-แข็งแกร่ง-ทนทาน-สมรรถนะสูง ขับขี่ฝ่าอุปสรรคได้ในทุกสภาพถนน ค่าตัวเริ่มต้น 875,000 บาท เผยกลยุทธ์บุกตลาด ด้วยแนวคิด “รถ Camping-Adventure” มุ่งหวังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ขับขี่รถท่องเที่ยวผจญภัยและผู้ประกอบการโรงแรม-ทัวร์ ตั้งเป้าเบื้องต้นจบปีขาย 20 คัน
นายธัชพล บูรพรัตน์ ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด บริษัท อูรัล มอเตอร์ไซเคิลส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง Ural (อูรัล) จากประเทศรัสเซีย แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยถึงการบุกเบิกทำตลาดรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างอูรัลเป็นครั้งแรก และนำมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงาน “บางกอก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล ครั้งที่ 7” (BMF 2015) ว่า ถือเป็นเซกเมนต์ใหม่ในตลาดกลุ่มรถบิ๊กไบค์เมืองไทยที่ยังไม่มีใครทำตลาดมาก่อน และเห็นโอกาสการเติบโตทางยอดขายในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้รักการท่องเที่ยวผจญภัย ด้วยการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม-ทัวร์ท่องเที่ยว และคนเมืองที่มีรสนิยมขับขี่รถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิค เพื่อทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวหรือตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ตนเอง
“เรานำเข้า 2015 Ural Motorcycles มาจำหน่ายด้วยกัน 2 แบบคือรุ่น Ranger เป็นรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง และยังขับเคลื่อนล้อหลังล้อเดียวได้ เพียงโยกคันควบคุมระบบขับเคลื่อน โดยล้อรถตัวพ่วงข้างจะถูกติดตั้งเพลาขับที่เชื่อมกับล้อหลักของรถมอเตอร์ไซค์ ส่วนตัวรถพ่วงข้างหรือ Sidecar จะอยู่ด้านขวาของคนขับ ซึ่งเป็นสเปกที่มาจากโรงงาน โดยไม่สามารถย้าย Sidecar มาอยู่ด้านซ้ายได้ เนื่องจากต้องปรับแก้ไขระบบเพลาขับ ขณะที่รุ่น Retro อุปกรณ์มาตรฐานจะใกล้เคียงกับรุ่น Ranger แต่ขับเคลื่อนล้อเดียวเหมือนรถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆ ไป ตัว Sidecar เราขอให้โรงงานผลิตย้ายมาติดตั้งด้านซ้าย เพื่อให้เหมาะกับวัฒนธรรมการขับขี่ในเมืองไทย และสามารถถอด Sidecar ออกได้ หากต้องการใช้งานเหมือนรถมอเตอร์ไซค์สองล้อปกติ”
จุดเด่นและคุณสมบัติพิเศษของรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง Ural ถูกพิสูจน์สมรรถนะมาอย่างเข้มข้นและยาวนาน ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และกลายเป็นตำนานเล่าขานสะท้อนความภาคภูมิใจของคนรัสเซีย ที่มีบทบาทช่วยให้มีชัยชนะจากการรุกรานของกองทัพนาซี-เยอรมนี
เมื่อสงครามยุติ Ural กลายเป็นพาหนะสำคัญในชีวิตประจำวันของคนรัสเซีย เนื่องจากยุคนั้นรัสเซียยังไม่มีการผลิตรถยนต์ออกมาจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ขณะเดียวกันเส้นทางคมนาคมไม่อยู่ในสภาพที่จะเรียกได้ว่าเป็นถนน โดยจะเป็นเส้นทางออฟโรดสมบุกสมบัน เต็มไปด้วยก้อนหินหรือเส้นทางลูกรังที่มีหลุมบ่อโคลนและปกคลุมด้วยหิมะเป็นส่วนใหญ่ ครั้นจะขี่รถมอเตอร์ไซค์สองล้อก็ไม่สะดวก Ural จึงมีบทบาทสำคัญและเป็นที่นิยมของคนรัสเซีย เนื่องจากขับขี่ได้ดีทุกสภาพผิวถนนและบรรทุกสัมภาระไปตามสถานที่ต่างๆ โดยไร้ข้อจำกัด
ในประเทศไทยชื่อเสียงและการเป็นที่รู้จักของ Ural จะคุ้นเคยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีอายุกว่า 40-50 ปีขึ้นไป และชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์โบราณ ส่วนการแพร่หลายในภูมิภาคอินโดจีนนั้น เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1950-1970 โดย Ural ถูกนำเข้ามาใช้แพร่หลายในกลุ่มประเทศสังคมนิยม ทั้งจีน เวียดนาม ลาวและกัมพูชา ก่อนจะมีผู้นิยมชาวไทยซื้อเข้ามาใช้งาน ปัจจุบันพบเห็นในเมืองไทยได้น้อยมากประมาณ 10 คัน และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มรถคลาสสิกคาร์
ทั้งนี้ Ural ในปัจจุบันถูกพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและสมรรถนะขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความคลาสสิก สไตล์รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างรัสเซียไว้เช่นเดิม เครื่องยนต์ถูกพัฒนาจากขนาด 650 ซีซี. มาเป็น 750 ซีซี. ระบบเครื่องยนต์คาบูเรเตอร์ก็เปลี่ยนมาเป็นระบบหัวฉีด ระบายความร้อนด้วยอากาศ รองรับน้ำมันเบนซิน 95 และ E10 ระบบเบรกจากดรัมเบรกเปลี่ยนมาใช้ดิกส์เบรก Brembo ที่ค่ายผู้ผลิตรถบิ๊กไบค์แบรนด์ดังๆ ของโลกมักเลือกใช้เบรกยี่ห้อนี้ อีกทั้งผ่านการตรวจสอบการนำเข้า และจดทะเบียนได้ถูกต้องตามกฎหมาย
“กลยุทธ์การทำตลาดเราจะขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด “Camping-Adventure” เพื่อสะท้อนจุดเด่นของรถที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่อย่างชัดเจน และตอบรับการใช้ชีวิตเพื่อการท่องเที่ยวและผจญภัย เนื่องจากขับขี่บนเส้นทางทุรกันดาร ทั้งขับข้ามลำธาร ลุยโคลน ไต่หินเนินเขาลาดชันได้แบบไม่ติดอุปสรรค แม้จะเป็นรถพ่วงข้างแบบ 3 ล้อ แต่ตัวรถออกแบบให้ขับเคลื่อน 2 ล้อได้ ทำความเร็วไม่สูงนัก ระดับความเร็วที่ขับขี่สบายๆ และปลอดภัยคือ 80-90 กม./ชม. เหมาะกับการเป็นรถ Camping Adventure เช่น เดินทาง 4-5 คัน พกพาเต็นท์ สัมภาระต่างๆ และชุดทำครัว ก็ขับขี่ท่องเที่ยวค้างแรมตามป่าเขาได้สบายๆ และยังใช้งานในชีวิตประจำวันเหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆ ไปได้”
นายธัชพล บูรพรัตน์ กล่าวต่อว่า กลุ่มคนเมืองนับเป็นเป้าหมายที่บริษัทให้ความสนใจเช่นกัน เนื่องจากหลายคนมีรสนิยมชื่นชอบรถ Retro-Classic ซึ่ง Ural ไม่ได้เป็นแค่รถ Adventure เท่านั้น แต่ยังเป็นรถคลาสสิคด้วยรูปลักษณ์ของตัวเอง เช่น หากพักอาศัยย่านซอยทองหล่อ สามารถขับไปช้อปปิ้งกับครอบครัวได้หรือใช้งานในชีวิตประจำวันได้
“ล่าสุดนำรถไปทดสอบที่จังหวัดภูเก็ต กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมและทัวร์ท่องเที่ยวให้ความสนใจสูงมาก โดยมีแนวคิดจัดทำแพ็คเกจท่องเที่ยว-ผจญภัย ให้ลูกค้าตนเองขับ Ural ไปรอบๆ เกาะและขับผจญภัยในจังหวัดพังงา เพื่อไปสัมผัสวิถีชีวิตผู้คนในท้องถิ่น ซึ่งสอดรับกับนโยบายรัฐบาลและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่กำหนดให้ปีนี้เป็น “ปีการท่องเที่ยววิถีไทย 2558” นอกจากนี้บริษัทจะเน้นจัดกิจกรรมเชิงรุกทั้ง (CRM) เพื่อสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าโดยตรง และจัดกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ในรูปแบบทริปท่องเที่ยวผจญภัย ตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ ทั้งทางภูเขาและทางทะเล รวมถึงรีสอร์ทระดับหรู เบื้องต้นตั้งเป้ายขายในปีนี้ไว้ที่ 20 คัน มั่นใจว่าประสบความสำเร็จแน่นอน”
นอกจากนี้ “อูรัล มอเตอร์ไซเคิล ประเทศไทย” ยังเติมเต็มไลฟ์สไตล์ผู้ที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง Ural ด้วยการนำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถ อุปกรณ์แคมปิ้ง รวมถึงคอลเล็คชั่นชุดแต่งกายอย่างครบครั้น และในโอกาสเปิดตัวแนะนำอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยการมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษช่วงแนะนำ (เฉพาะในงานเท่านั้น) จองรถภายในงาน “บางกอก มอเตอร์ไบค์ เฟติวัล ครั้งที่ 7” (BMF) ระหว่างวันที่ 28 มกราคมถึง 1 กุมภาพันธ์ ศกนี้ บริเวณโซน Square D บูธหมายเลข A14 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิล์ด (ราชประสงค์) รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% นาน2 ปี
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
นายธัชพล บูรพรัตน์ ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด บริษัท อูรัล มอเตอร์ไซเคิลส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง Ural (อูรัล) จากประเทศรัสเซีย แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยถึงการบุกเบิกทำตลาดรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างอูรัลเป็นครั้งแรก และนำมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงาน “บางกอก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล ครั้งที่ 7” (BMF 2015) ว่า ถือเป็นเซกเมนต์ใหม่ในตลาดกลุ่มรถบิ๊กไบค์เมืองไทยที่ยังไม่มีใครทำตลาดมาก่อน และเห็นโอกาสการเติบโตทางยอดขายในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้รักการท่องเที่ยวผจญภัย ด้วยการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม-ทัวร์ท่องเที่ยว และคนเมืองที่มีรสนิยมขับขี่รถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิค เพื่อทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวหรือตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ตนเอง
“เรานำเข้า 2015 Ural Motorcycles มาจำหน่ายด้วยกัน 2 แบบคือรุ่น Ranger เป็นรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง และยังขับเคลื่อนล้อหลังล้อเดียวได้ เพียงโยกคันควบคุมระบบขับเคลื่อน โดยล้อรถตัวพ่วงข้างจะถูกติดตั้งเพลาขับที่เชื่อมกับล้อหลักของรถมอเตอร์ไซค์ ส่วนตัวรถพ่วงข้างหรือ Sidecar จะอยู่ด้านขวาของคนขับ ซึ่งเป็นสเปกที่มาจากโรงงาน โดยไม่สามารถย้าย Sidecar มาอยู่ด้านซ้ายได้ เนื่องจากต้องปรับแก้ไขระบบเพลาขับ ขณะที่รุ่น Retro อุปกรณ์มาตรฐานจะใกล้เคียงกับรุ่น Ranger แต่ขับเคลื่อนล้อเดียวเหมือนรถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆ ไป ตัว Sidecar เราขอให้โรงงานผลิตย้ายมาติดตั้งด้านซ้าย เพื่อให้เหมาะกับวัฒนธรรมการขับขี่ในเมืองไทย และสามารถถอด Sidecar ออกได้ หากต้องการใช้งานเหมือนรถมอเตอร์ไซค์สองล้อปกติ”
จุดเด่นและคุณสมบัติพิเศษของรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง Ural ถูกพิสูจน์สมรรถนะมาอย่างเข้มข้นและยาวนาน ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และกลายเป็นตำนานเล่าขานสะท้อนความภาคภูมิใจของคนรัสเซีย ที่มีบทบาทช่วยให้มีชัยชนะจากการรุกรานของกองทัพนาซี-เยอรมนี
เมื่อสงครามยุติ Ural กลายเป็นพาหนะสำคัญในชีวิตประจำวันของคนรัสเซีย เนื่องจากยุคนั้นรัสเซียยังไม่มีการผลิตรถยนต์ออกมาจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ขณะเดียวกันเส้นทางคมนาคมไม่อยู่ในสภาพที่จะเรียกได้ว่าเป็นถนน โดยจะเป็นเส้นทางออฟโรดสมบุกสมบัน เต็มไปด้วยก้อนหินหรือเส้นทางลูกรังที่มีหลุมบ่อโคลนและปกคลุมด้วยหิมะเป็นส่วนใหญ่ ครั้นจะขี่รถมอเตอร์ไซค์สองล้อก็ไม่สะดวก Ural จึงมีบทบาทสำคัญและเป็นที่นิยมของคนรัสเซีย เนื่องจากขับขี่ได้ดีทุกสภาพผิวถนนและบรรทุกสัมภาระไปตามสถานที่ต่างๆ โดยไร้ข้อจำกัด
ในประเทศไทยชื่อเสียงและการเป็นที่รู้จักของ Ural จะคุ้นเคยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีอายุกว่า 40-50 ปีขึ้นไป และชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์โบราณ ส่วนการแพร่หลายในภูมิภาคอินโดจีนนั้น เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1950-1970 โดย Ural ถูกนำเข้ามาใช้แพร่หลายในกลุ่มประเทศสังคมนิยม ทั้งจีน เวียดนาม ลาวและกัมพูชา ก่อนจะมีผู้นิยมชาวไทยซื้อเข้ามาใช้งาน ปัจจุบันพบเห็นในเมืองไทยได้น้อยมากประมาณ 10 คัน และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มรถคลาสสิกคาร์
ทั้งนี้ Ural ในปัจจุบันถูกพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและสมรรถนะขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความคลาสสิก สไตล์รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างรัสเซียไว้เช่นเดิม เครื่องยนต์ถูกพัฒนาจากขนาด 650 ซีซี. มาเป็น 750 ซีซี. ระบบเครื่องยนต์คาบูเรเตอร์ก็เปลี่ยนมาเป็นระบบหัวฉีด ระบายความร้อนด้วยอากาศ รองรับน้ำมันเบนซิน 95 และ E10 ระบบเบรกจากดรัมเบรกเปลี่ยนมาใช้ดิกส์เบรก Brembo ที่ค่ายผู้ผลิตรถบิ๊กไบค์แบรนด์ดังๆ ของโลกมักเลือกใช้เบรกยี่ห้อนี้ อีกทั้งผ่านการตรวจสอบการนำเข้า และจดทะเบียนได้ถูกต้องตามกฎหมาย
“กลยุทธ์การทำตลาดเราจะขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด “Camping-Adventure” เพื่อสะท้อนจุดเด่นของรถที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่อย่างชัดเจน และตอบรับการใช้ชีวิตเพื่อการท่องเที่ยวและผจญภัย เนื่องจากขับขี่บนเส้นทางทุรกันดาร ทั้งขับข้ามลำธาร ลุยโคลน ไต่หินเนินเขาลาดชันได้แบบไม่ติดอุปสรรค แม้จะเป็นรถพ่วงข้างแบบ 3 ล้อ แต่ตัวรถออกแบบให้ขับเคลื่อน 2 ล้อได้ ทำความเร็วไม่สูงนัก ระดับความเร็วที่ขับขี่สบายๆ และปลอดภัยคือ 80-90 กม./ชม. เหมาะกับการเป็นรถ Camping Adventure เช่น เดินทาง 4-5 คัน พกพาเต็นท์ สัมภาระต่างๆ และชุดทำครัว ก็ขับขี่ท่องเที่ยวค้างแรมตามป่าเขาได้สบายๆ และยังใช้งานในชีวิตประจำวันเหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆ ไปได้”
นายธัชพล บูรพรัตน์ กล่าวต่อว่า กลุ่มคนเมืองนับเป็นเป้าหมายที่บริษัทให้ความสนใจเช่นกัน เนื่องจากหลายคนมีรสนิยมชื่นชอบรถ Retro-Classic ซึ่ง Ural ไม่ได้เป็นแค่รถ Adventure เท่านั้น แต่ยังเป็นรถคลาสสิคด้วยรูปลักษณ์ของตัวเอง เช่น หากพักอาศัยย่านซอยทองหล่อ สามารถขับไปช้อปปิ้งกับครอบครัวได้หรือใช้งานในชีวิตประจำวันได้
“ล่าสุดนำรถไปทดสอบที่จังหวัดภูเก็ต กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมและทัวร์ท่องเที่ยวให้ความสนใจสูงมาก โดยมีแนวคิดจัดทำแพ็คเกจท่องเที่ยว-ผจญภัย ให้ลูกค้าตนเองขับ Ural ไปรอบๆ เกาะและขับผจญภัยในจังหวัดพังงา เพื่อไปสัมผัสวิถีชีวิตผู้คนในท้องถิ่น ซึ่งสอดรับกับนโยบายรัฐบาลและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่กำหนดให้ปีนี้เป็น “ปีการท่องเที่ยววิถีไทย 2558” นอกจากนี้บริษัทจะเน้นจัดกิจกรรมเชิงรุกทั้ง (CRM) เพื่อสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าโดยตรง และจัดกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ในรูปแบบทริปท่องเที่ยวผจญภัย ตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ ทั้งทางภูเขาและทางทะเล รวมถึงรีสอร์ทระดับหรู เบื้องต้นตั้งเป้ายขายในปีนี้ไว้ที่ 20 คัน มั่นใจว่าประสบความสำเร็จแน่นอน”
นอกจากนี้ “อูรัล มอเตอร์ไซเคิล ประเทศไทย” ยังเติมเต็มไลฟ์สไตล์ผู้ที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง Ural ด้วยการนำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถ อุปกรณ์แคมปิ้ง รวมถึงคอลเล็คชั่นชุดแต่งกายอย่างครบครั้น และในโอกาสเปิดตัวแนะนำอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยการมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษช่วงแนะนำ (เฉพาะในงานเท่านั้น) จองรถภายในงาน “บางกอก มอเตอร์ไบค์ เฟติวัล ครั้งที่ 7” (BMF) ระหว่างวันที่ 28 มกราคมถึง 1 กุมภาพันธ์ ศกนี้ บริเวณโซน Square D บูธหมายเลข A14 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิล์ด (ราชประสงค์) รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% นาน2 ปี
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring