TPS เดินหน้ารุกตลาดผลิตภัณฑ์เคลือบแก้ว ตั้งเป้าขยายตัวแทนทั่วประเทศ เล็งนำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่จากเยอรมนี ก.พ.นี้ เตรียมเปิดสาขาประเทศลาวไตรมาส 3/58 มั่นใจตลาด AEC คึกคัก ลุยขยายสาขาต่อเนื่อง คาดธุรกิจบริการและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ในประเทศ ยังเติบโตประมาณ 30%
นายชัยชาญ อุปพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร The Perfect Shine หรือ TPS ผู้นำในธุรกิจ Car Detailingและเคลือบแก้วรถยนต์ของไทย เปิดเผยว่า ในปี 2558 บริษัทยังคงเดินหน้าแผนขยายตลาดผลิตภัณฑ์เคลือบแก้ว TPS ในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายขยายตัวแทนศูนย์บริการ Car Detailing จังหวัดละ 1 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีศูนย์ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ TPS แล้วจำนวน 8 แห่ง ซึ่งเป็นศูนย์บริการ Car Detailing ที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร
“ในช่วงปลายปี 57 บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์เคลือบแก้วภายใต้แบรนด์ TPS ซึ่งผลิตด้วยนวัตกรรมล่าสุดที่ได้รับการยอมรับจากอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก และนำผลิตภัณฑ์ใหม่ BRILA และ ULGO จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาให้บริการเพิ่มเติม เพื่อสร้างทางเลือกที่หลากหลาย เพิ่มคุณภาพงานเคลือบแก้วรถยนต์ รถจักรยานยนต์ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น ในช่วงที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการและกลุ่มตัวแทนฯ ซึ่งบริษัทมีแผนขยายตลาดผลิตภัณฑ์เคลือบแก้ว TPS ต่อเนื่อง โดยเน้นการแนะนำผลิตภัณฑ์อย่างเข้าถึง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการ Car Detailing หลายราย” นายชัยชาญ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนนำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มขัด-เคลือบสีรถยนต์คุณภาพสูง เพื่อนำมาให้บริการที่ศูนย์บริการของ TPS รวมทั้งจำหน่ายกับกลุ่มตัวแทน Car Detailing และ Car Care ทั่วประเทศ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ผลิตจากประเทศเยอรมนี โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ก.พ.นี้
ส่วนความคืบหน้าของการขยายสาขาศูนย์บริการ TPS ในประเทศลาว ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคาร โดยจะเปิดให้บริการภายในช่วงไตรมาส 3/58 คาดว่าจะมีกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าในประเทศลาว เนื่องจากในปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคเริ่มมีความต้องการบริการดูแลรักษารถยนต์ที่มีมาตรสูง และเดินทางเข้ามาใช้บริการในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เพราะยังไม่มีศูนย์บริการ Car Detailing เคลือบแก้วรถยนต์รองรับ ซึ่งบริษัทมีแผนขยายศูนย์บริการ TPS ไปยังประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเช่นกัน ขณะที่การขยายสาขาในประเทศบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์จากเดิมที่จะดำเนินการลงทุนเอง เป็นการร่วมมือกับพันธมิตรหรือตัวแทนจำหน่ายที่ดำเนินธุรกิจ Car Detailing, ผู้ผลิต, ผู้จำหน่ายรถยนต์, Big Bike ฯลฯ
สำหรับภาพรวมธุรกิจบริการและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ปี 58 น่าจะยังสามารถขยายตัวโดยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 30% จากปีที่ผ่านมาซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่ารวมของธุรกิจ Car Detailing อยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท มูลค่ารวมธุรกิจจำหน่ายอะไหล่ อุปกรณ์ และบริการอื่นๆอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท
