xs
xsm
sm
md
lg

“BMF 2015” เปิดเวทีต่อยอดธุรกิจบิ๊กไบค์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ณัฐพล ไตรณัฐี
กลับมาสร้างความคึกคักในตลาดบิ๊กไบค์อีกครั้ง สำหรับ “แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล” หรือ “BMF 2015” หลังจากปีก่อนต้องเลื่อนมาจัดช่วงกลางปีแทน โดยผู้จัดงาน “ณัฐพล ไตรณัฐี” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซเคิล คัลเจอร์โชว์ จำกัด ประกาศความพร้อมของการจัดงานที่ดึงดูดความสนใจมากกว่าเดิม พร้อมพัฒนาสู่รูปแบบจับคู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง คาดมีเงินสะพัดกว่า 400 ล้านบาท ด้านผู้ชมงานกว่า 1.2 ล้านคน เชื่อปัจจัยหนุนการเมืองนิ่ง-เศรษฐกิจเริ่มสดใส ดันกระแสบิ๊กไบค์ฮอตต่อเนื่อง
โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ BMF 2015
12 ค่ายดังขานรับร่วมงาน

ปีนี้มีค่ายรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำเข้าร่วมงาน 12 ค่าย ประกอบด้วย A.P. Honda, Honda Bigbike, Indian, Kawasaki, KTM, MV Agusta, Ducati, Suzuki, Ural, Victory, Yamaha, Zero Engineering จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Ride Your Destiny” หรือ ลิขิตแห่งการขับขี่ เพื่อสะท้อนรสนิยมผู้รักมอเตอร์ไซค์ที่สามารถกำหนดโชคชะตาหรือวาดรูปแบบไลฟ์สไตล์การขับขี่ได้ด้วยตนเอง ทั้งการเลือกประเภทของรถ รูปแบบการขับขี่และจุดหมายปลายทางในการแสวงหาความสุขไปกับการขับขี่ ที่ตอบโจทย์ตนเอง จัดระหว่างวันที่ 28 มกราคมถึง 1 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) โดยใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ครอบคลุมถึงกิจกรรมพิเศษที่จะเกิดขึ้นตลอด 5 วันของการจัดงาน

เผยโฉมรถใหม่ประเดิมปีแพะ

สำหรับรถใหม่แบรนด์ Ural จากประเทศรัสเซียจะเผยโฉมในงานนี้เป็นครั้งแรก โดยความโดดเด่นเป็นรถไซส์คาร์หรือพ่วงข้าง ใช้เครื่องยนต์ขนาด 750 ซีซี. ราคาเริ่มต้นประมาณ 800,000 บาท ส่วนบิ๊กไบค์ระดับตำนานจากอเมริกา Indian เตรียมส่งโมเดลล่าสุดรุ่น Scout และรุ่น Roadmaster โฉมปี 2015 เปิดตัวในงานนี้ด้วยเช่นกัน ขณะที่ค่ายบิ๊กไบค์แบรนด์อื่นๆ ยังไม่ได้แจ้งรายชื่อรถใหม่หรือไฮไลท์ในแต่ละบูธ ซึ่งคาดว่าคงเตรียมเก็บไว้เป็นเซอร์ไพร์สให้แก่ผู้ร่วมชมงาน
ภาพบรรยากาศงานปีที่แล้ว
กิจกรรมเอาใจคนรักบิ๊กไบค์

ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลากหลาย เพื่อให้ผู้สนใจได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศงานแสดงรถบิ๊กไบค์อย่างจุใจ ทั้งโซนจัดแสดงรถคัสตอมไบค์, โซน Motorcycle Club, การประกวดตกแต่งมอเตอร์ไซค์จากค่ายรถและสำนักแต่งรถต่างๆ โดยเนรมิตพื้นที่ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ เปิดเป็นลานกิจกรรมบริเวณ Square C (ข้างบู๊ธ A.P. Honda) พร้อมให้ชาวไบค์เกอร์นำรถมอเตอร์ไซค์ Custom ที่ตกแต่งหลากหลายสไตล์จากสำนักต่างๆ มาจัดแสดง ในช่วงเย็นมีบริการลานเบียร์และดนตรีสด บริเวณหน้าศูนย์การค้าฯ ให้ได้พบปะสังสรรค์

พื้นที่เดิมเติมความน่าสนใจ

ในส่วนของพื้นที่การจัดงานภายในศูนย์การค้าฯ ยังคงเอกลักษณ์เดิม ด้วยพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร โดยค่ายรถต่างๆ จะจัดแสดงและจำหน่ายรถ มีนิทรรศการศิลปะภาพถ่ายจากสตูดิโอและช่างภาพต่างๆ ที่เกี่ยวกับคนรักมอเตอร์โซค์โดยเฉพาะ อีกทั้งมีกลุ่มบริษัทจากประเทศแถบสแกนดิเนเวีย มาร่วมจำหน่ายแพ็กเกจขับขี่รถบิ๊กไบค์ท่องเที่ยวอีกด้วย

ขณะที่ลานหน้าศูนย์การค้าฯ จากเดิมที่มีบูธร้านค้านั้น ในปีนี้ปรับพื้นที่ให้เป็นลานจอดรถมอเตอร์ไซค์เพิ่มขึ้น เพื่อยกระดับการจัดงานให้มีความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล เป็นจุดนัดพบของคนรักสองล้อภายใต้บรรยากาศเฉลิมฉลองสไตล์งานเฟสติวัล เพื่อให้สมกับชื่องาน “Bangkok Motorbike Festival” มากกว่าการคำนึงถึงการขายพื้นที่บูธ และสนองกระแสความนิยมรถบิ๊กไบค์ที่มีทั้งปริมาณรถและผู้รักการขับขี่ที่มาร่วมงานมากขึ้น นอกจากนี้วันที่ 28-30 มกราคม 2558 เวลา 17.00 น. และ 19.00 น. ได้เปิดพื้นที่หน้าศูนย์การค้าให้ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ทุกแบรนด์นำโชว์พิเศษมาให้ผู้ชมงานได้สัมผัส
ปีนี้พิเศษด้วยพื้นที่โชว์การดีไซน์ใหม่ๆ ในวงการสองล้อ
ไฮไลท์ประจำปี 2015

หนึ่งในไฮไลท์ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ คือ “Smoke And Dust Custom Show By Bangkok Motorbike Festival” จะไม่ใช่แค่การโชว์รถตกแต่งที่มีดีไซน์สร้างสรรค์เท่านั้น แต่เป็นการแสดงศักยภาพกลุ่มดีไซเนอร์และกลุ่มผู้ประกอบการอุปกรณ์ตกแต่งรถมอเตอร์ไซค์ ทุกชิ้นงานเป็นงานฝีมือที่มีคุณภาพ ซึ่งคนไทยไม่คุ้นเคยและสัมผัสมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นงานเครื่องหนัง หมวกกันน็อก การเพนต์รถ เสื้อผ้าชุดแต่งกาย และชิ้นงานที่เกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์ ด้วยการคัดเลือกดีไซเนอร์กว่า 10 ราย นำผลงานมาโชว์อย่างเป็นทางการ

6 ปีที่จัดงาน Bangkok Motorbike มีนักธุรกิจและบริษัทต่างชาติเข้ามาชมงานมากมาย การเปิดเวที “Smoke And Dust Custom Show By Bangkok Motorbike Festival” พร้อมทั้งสนับสนุนพื้นที่บูธให้ฟรี ถือเป็นครั้งแรกของวงการรถมอเตอร์ไซค์เมืองไทย เพื่อยกระดับกลุ่มดีไซเนอร์เหล่านี้ให้มีโอกาสพบปะกับนักธุรกิจจากนานาชาติ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่พัฒนาไปสู่การจับคู่ธุรกิจ “B2B SUMMIT” ที่เราตั้งใจจะให้เกิดขึ้นในการจัดงานปีต่อๆ ไปอย่างเต็มรูปแบบ จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้นานาชาติรู้จักทั้งในส่วนการจัดงาน “Bangkok Motorbike Festival” และต่อยอดธุรกิจในตลาดอุปกรณ์ตกแต่งรถ เครื่องแต่งกายเสื้อผ้าและตลาดรถมอเตอร์ไซค์เมืองไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพื่อรองรับการเปิด AEC ในปลายปี 2558 ซึ่งประเทศไทยเป็นฮับในภูมิภาคนี้
ภาพบรรยากาศงานปีที่แล้ว
ฟันธงกระแสบิ๊กไบค์ฮอตต่อเนื่อง

สำหรับการจัดงาน “BMF 2014” ภายใต้คอนเซ็ปต์ Mid Year Sale เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา ที่ผนวกรูปแบบการจัดงานต้นปีและกลางปีเข้าไว้ด้วย เนื่องจากปัญหาการชุมนุมทางการเมืองนั้น สามารถทำยอดขายรถมอเตอร์ไซค์ร่วม 600 คัน มีเงินสะพัดกว่า 300 ล้านบาท ส่วนปีนี้กลับมาจัดช่วงต้นปีตามปกติ คาดว่าจะมียอดขายรถ 800 คัน มีเงินสะพัดราว 400 ล้านบาท (รวมอุปกรณ์ของแต่งรถและเสื้อผ้า) ด้านผู้ชมกว่า 1.2 ล้านคน โดยมีปัจจัยหนุนหลายด้าน ประการแรกคือ ปีนี้มี Ducati กลับมาเข้าร่วมงานและเป็นรถที่กำลังได้รับความนิยมสูง ขณะที่ Honda Bigbike เป็นค่ายหลักยอดนิยมของคนไทย Yamaha, Suzuki, Kawasaki และ KTM จะมีรถใหม่มาช่วยสร้างสีสัน

นอกจากนี้ทุกค่ายพร้อมนำเสนอแคมเปญพิเศษที่มีเฉพาะในงานเท่านั้น ประการที่สอง ภาพรวมตลาดรถบิ๊กไบค์ปี 2557 โดยสถิติการจดทะเบียนจากกรมขนส่งทางบก มีปริมาณทั้งสิ้น 15,960 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบจากปี 2556 ส่วนปี 2558 ตลาดรถบิ๊กไบค์น่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 15-20% และจากสถานการณ์ทางการเมืองที่นิ่ง เศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มสดใส ทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจมากขึ้น สุดท้ายคือ ปลายปี 2015 จะเกิดประชาคมอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งวัฒนธรรม การเมือง-ความมั่นคง และเศรษฐกิจ จะเป็นแรงเสริมให้ทุกภาคส่วนเกิดการตื่นตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ประกอบการทั้งในชาติอาเซียนและภูมิภาคอื่นมองเมืองไทยเป็นศูนย์กลางในการลงทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ
ภาพบรรยากาศงานปีที่แล้ว
ศูนย์กลางต่อยอดธุรกิจในอาเซียน

ช่วง 2-3 ปีนับจากนี้ จะมีบริษัทข้ามชาติใช้ประเทศไทยเป็นฐานผลิตที่สำคัญ หลังจากที่ Honda และ BMW เปิดไลน์ผลิตรถบิ๊กไบค์ เพื่อเป็นการบุกเบิกตลาดอย่างจริงจัง ขณะที่ Ducati และ Triump ได้เปิดโรงงานผลิตแล้วเช่นกัน ส่งผลให้ระดับราคาของรถบิ๊กไบค์สเปกเดียวกันถูกลง ผู้ขับขี่หรือผู้สนใจสามารถครอบครองรถได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ตลาดประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาวและกัมพูชาเริ่มมีกระแสความนิยมรถกลุ่มนี้แล้ว ส่วนตลาดใหม่ที่น่าสนใจอย่างพม่า (เมียนมาร์) นับเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดรถบิ๊กไบค์ของเมืองไทยมีศักยภาพเติบโตต่อไปอีกราว 10 ปี

ผู้ประกอบการชาวไทยต้องปรับตัวและยกระดับการต่อยอดธุรกิจ เพื่อหาช่องทางในการขยายตลาดไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น โดยอาศัยจุดแข็งและข้อได้เปรียบทั้งการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ข้อตกลงมาตรการทางภาษีการค้าต่างๆ ที่ทำไว้กับนานาชาติ ไม่ว่าเป็น FTA กับ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย ซึ่งเรามีเหนือกว่าชาติต่างๆ ในอาเซียน

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring

กำลังโหลดความคิดเห็น