ซูบารุเปิดตัว 2 รุ่นใหม่ “เอาท์แบ็ค” และ“เลกาซี” โฉมใหม่ครั้งแรกในอาเซียน วางเครื่องยนต์บ็อกเซอร์อันลือชื่อ เปิดให้เลือก 2 บล็อก ขนาด 2.5 ลิตร 175 แรงม้า และ 3.6 ลิตร 260 แรงม้า แต่ในไทยเบื้องต้นทำตลาดเฉพาะครอสโอเวอร์รุ่นเอาท์แบ็ค 2.5 ลิตร เปิดราคา 2.59 ล้านบาท ขณะเก๋งซีดานรุ่นเลกาซีจะตามมาในปีหน้า
วันนี้ (27 พ.ย.) มอเตอร์ อิมเมจ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ “ซูบารุ” ในเอเชีย รวมถึงซูบารุในประเทศไทย และเป็นบริษัทในเครือตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล กลุ่มธุรกิจยานยนต์รายใหญ่จากมาเลเซีย ได้เปิดตัวรถยนต์ “ซูบารุ เลกาซี” และ “ซูบารุ เอาท์แบ็ค” โฉมใหม่ ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของภูมิภาคอาเซียน โดยเริ่มแนะนำสู่สาธารณชนไทยเบื้องต้นจะมีเฉพาะรุ่นซูบารุ เอาท์แบ็ค 2.5 ลิตร และเริ่มขายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014 ที่มีขึ้นในวันที่ 28 พ.ย.นี้ จากนั้นจึงจะวางจำหน่ายรุ่นเลกาซีในปีหน้า
“เอาท์แบ็ค และเลกาซี นับเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญของซูบารุ โดยได้รวบรวมเอาความหรูหรากับนวัตกรรมเทคโนโลยีของซูบารุมาไว้ด้วยกัน เพื่อที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ ประสิทธิภาพของสรรถนะ และความปลอดภัย โดยคาดหวังว่ารถทั้งสองรุ่นจะนำเสนอสิ่งที่มีคุณค่าที่ดีให้กับลูกค้าในภูมิภาคอาเซียน” เกลนน์ ตัน ผู้อำนวยการบริหาร ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าว
โดยซูบารุ เอาท์แล็ค และเลกาซี เป็นรถยนต์ที่ใช้พื้นฐานโครงสร้างตัวถังร่วมกัน ซึ่งรุ่นเอาท์แบ็คเป็นรถครอสโอเวอร์ ที่มีเส้นสายตัวถังดูดุดัน มองเห็นกล้ามเนื้อบังโคลนชัดเจน และล้อขนาดใหญ่ พร้อมกับได้ทำการปรับปรุงแชสซีส์ใหม่ รวมถึงระบบควบคุมอย่างพวงมาลัย ช่วงล่าง และเบรก ให้สมรรถนะที่ดีจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD และระบบ X-Mode รวมถึงติดตั้งระบบความปลอดภัยสูงสุด
ขณะที่ซูบารุ เลกาซี นับเป็นรถยนต์นั่งซีดานที่มีสมรรถนะสูง จากขุมพลังเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ของซูบารุ การออกแบบภายนอกใหม่ผ่านเส้นสายตัวถังที่ดูแข็งแกร่ง และกระจังหน้ารูปแบบใหม่เป็นเอกลักษณ์ของซูบารุ นอกจากนี้ยังคงให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยสูงสุดเช่นกัน
ซูบารุ เอาท์แบ็ค และเลกาซี วางเครื่องยนต์และมีตัวเลือกย่อย 2 รุ่นเหมือนกัน แบ่งเป็นรุ่น 2.5i-S วางเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 4 สูบนอน 16 วาล์ว 2.5 ลิตร 175 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที และรุ่น 3.6R-S เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 6 สูบ 24 วาล์ว 3.6 ลิตร 260 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ทั้งหมดส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic ระบบขับเคลื่อนแบบ AWD แต่รุ่นที่จะทำตลาดในไทยเบื้องต้นจะเป็นรุ่น 2.5 ลิตรเท่านั้น ราคา 2.59 ล้านบาท