xs
xsm
sm
md
lg

ด่วน!เผยโฉม“ฟอร์ด เอเวอเรสต์ใหม่”สเปกขั้นเทพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วันนี้ (14 พ.ย.) ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี จัดงานเปิดตัว “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ โฉมใหม่” อย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน พร้อมชูจุดเด่นจากเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น และอัตราบริโภคน้ำมันที่เป็นมิตร


สำหรับ “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ โฉมใหม่” เป็นรถที่พัฒนาบนพื้นเดียวกับปิกอัพ “เรนเจอร์” โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลัก และส่งออกไปทั่วโลก กับเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 2.2 ลิตร 3.2 ลิตร และเบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบบล็อกใหม่ (อีโคบูสต์) ซึ่งคุยว่าให้กำลังดีกว่าเบนซิน วี 6 ขนาด 3.5 ลิตร และให้อัตราบริโภคน้ำมันที่ต่ำกว่า ซึ่งฟอร์ดจะเริ่มทำตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และแอฟริกา ภายในปี 2015

ฟอร์ดเผยว่า “ฟอร์ด เอเวอเรสต์” เป็นรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งรุ่นใหม่ มาพร้อมกับตัวถังดีไซน์ดุดัน ประณีต โครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ และระบบการเลือกปรับอัตราทด (Terrain Management System) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคในทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ

ห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง กว้างขวาง มากับเทคโนโลยีระดับพรีเมียมมากมายทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์ที่ล้ำสมัยที่สุดในตลาด ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (adaptive cruise control) ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารซิงก์ 2 (SYNC2) หรือคุณสมบัติใหม่ที่มีให้ใช้งานในรถอเนกประสงค์ระดับนี้เป็นครั้งแรก เช่น ระบบควบคุมการเข้าโค้ง (Curve Control) ระบบรักษาเลน (Lane Keeping Aid) และระบบตรวจจับรถในจุดบอดพร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อถอยหลังจากที่จอด (Blind Spot Information System with Cross Traffic Alert) และระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (เทียทางเท้า) (active park assist for hands-free reverse parallel parking)

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีตัวเลือกเครื่องยนต์ 3 รุ่น ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน อีโคบูสต์ 2.0 ลิตร รุ่นล่าสุด และเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ก TDCi อีกสองรุ่น โดยทำงานคู่กับระบบส่งกำลัง 6 สปีดแบบอัตโนมัติหรือธรรมดา 




*** เทคโนโลยีสุดล้ำในเอเวอเรสต์ใหม่

-ระบบแจ้งเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน (Lane Departure Warning) จะใช้กล้องบริเวณด้านหน้ารถส่องหาเส้นแบ่งเลนบนพื้นถนนข้างหน้า โดยจะเตือนผู้ขับขี่ด้วยการสั่นพวงมาลัยหากรถเริ่มเบนออกจากเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยวที่ความเร็วเกินกว่า 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากรถยังคงเบนออกจากเลนเดิมอยู่

- ระบบรักษาเลน (Lane Keeping Aid) จะเปิดการทำงานของระบบควบคุมพวงมาลัยแบบอิเล็กทรอนิกส์ และค่อยๆ แทรกแซงการทำงานของผู้ขับขี่ด้วยการเบนรถกลับมาในเลนเดิม โดยที่ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าแรงสั่นและระดับการทำงานของฟังก์ชั่นทั้งสองได้ตามต้องการ

- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) ปัญหานี้จะหมดไปด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว เพื่อสั่งให้ระบบสแกนหาช่องจอดที่เหมาะสม โดยเมื่อพบช่องจอดดังกล่าวแล้ว ระบบจะควบคุมพวงมาลัยให้โดยอัตโนมัติ ผู้ขับขี่เพียงควบคุมคันเร่ง เบรก และเกียร์ เท่านั้น

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) จะทำหน้าที่ควบคุมความเร็วให้เหมาะสมได้โดยอัตโนมัติ โดยจะทิ้งช่องห่างจากรถคันหน้าเพื่อความปลอดภัยที่ความเร็ว 30 กิโลเมตรขึ้นไป หากระบบเรดาร์พบว่ามีรถวิ่งช้าอยู่ข้างหน้า ตัวรถก็จะลดความเร็วลงเอง ก่อนที่จะเร่งความเร็วกลับไปสู่ความเร็วที่ผู้ขับขี่ตั้งค่าไว้เมื่อถนนเปิดโล่งอีกครั้ง

- ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็ว (Adjustable Speed Limiter) ในฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถล็อกความเร็วสูงสุดของรถให้ตรงกับความต้องการของผู้ขับขี่ได้ โดยมีค่าความเร็วสูงสุดแยกต่างหากสำหรับการขับขี่ทั่วไป และในสถานการณ์พิเศษ เช่น การขับรถลงเขา หากผู้ขับขี่ต้องการขับด้วยความเร็วเกินกว่าขีดจำกัดที่ตั้งค่าไว้ ก็สามารถทำได้โดยการเหยียบคันเร่งให้ลึกกว่าปกติ

- ระบบควบคุมการเข้าโค้ง (Curve Control) ที่เปิดตัวในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางแบบออฟโรดเป็นครั้งแรก เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำหากเข้าโค้งผิดพลาด ระบบควบคุมการเข้าโค้งนี้จะตรวจจับได้ว่ารถกำลังเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเกินไปหรือไม่ และสั่งให้เบรกทั้งสี่ล้อทำงาน ควบคู่กับกาลดแรงบิดของเครื่องยนต์ลง จนทำให้ความเร็วของรถลดลงสูงสุดถึง 16 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ ภายในเวลาประมาณ 1 วินาทีเท่านั้น

- ระบบเตือนและป้องกันการชนด้านหน้า (Forward Alert with Collision Mitigation) ใช้สัญญาณเรดาร์วัดระยะห่างระหว่างส่วนหน้ารถกับวัตถุต่างๆ โดยหากระบบคาดการณ์ได้ว่าอาจเกิดการชนกันขึ้นภายในเวลาน้อยกว่าที่ตั้งค่าปกติเอาไว้ ระบบจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยสัญญาณไฟบนกระจกหน้ารถและสัญญาณเสียง หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนอง ระบบจะเบรกรถให้โดยอัตโนมัติเพื่อชะลอความเร็วลงด้วยอัตรา 0.3g ทันทีที่ปล่อยคันเร่ง

- ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System หรือ BLIS) ของฟอร์ด ใช้เซนเซอร์เรดาร์ค้นหาว่ามีรถยนต์คันอื่นอยู่ในจุดบอดที่ผู้ขับขี่อาจมองไม่เห็นหรือไม่ ในขณะขับขี่ที่ความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป โดยจะใช้ไฟแอลอีดีบริเวณกระจกมองข้างเป็นสัญญาณเตือนหากตรวจพบรถยนต์ในมุมบอด เพื่อให้ผู้ขับขี่รับทราบและสามารถขับรถต่อไปได้อย่างไม่ต้องกังวล

- ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (Roll Stability Control) จะคอยสังเกตการเคลื่อนที่ของตัวรถบนพื้นถนน โดยจะส่งแรงเบรกและลดแรงบิดเครื่องยนต์ลงโดยอัตโนมัติหากพบว่ามีโอกาสที่รถจะพลิกคว่ำ ขณะที่ระบบควบคุมการทรงตัว (Electronic Stability Program) ช่วยให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เกาะถนนในทุกสภาพการขับขี่ โดยเฉพาะบนพื้นผิวที่ลื่นไถลได้ง่าย โดยการเบรกและลดแรงบิดเครื่องยนต์แบบอัตโนมัติเช่นกัน

- ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High Beam Control) โดยใช้กล้องด้านหน้ารถตรวจจับแสงไฟจากบนถนนและข้างถนน พร้อมทั้งยังวิเคราะห์ว่าเป็นแสงจากวัตถุประเภทใด เช่น ไฟจราจรหรือไฟจากถนน เพื่อตั้งค่าการเปิด-ปิดไฟสูงแบบอัตโนมัติได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้ผู้ขับขี่ยังคงมองเห็นเส้นทางได้ชัดเจนในเวลากลางคืน ลดความเครียดในขณะขับรถ โดยไม่ก่อความรำคาญให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น

ขณะเดียวกันไฟหน้าของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีทั้งหลอดไฟส่องสว่างแบบ HID (High-Intensity Discharge) และไฟแอลอีดีสำหรับเวลากลางวัน (Daytime Running Lights; DRLs) แบบประหยัดพลังงาน ที่มีระบบควบคุมอัจฉริยะ สามารถปรับการทำงานได้อัตโนมัติตามระดับแสงในสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ โดยไฟ DRL จะเปิดใช้งานตลอดเวลาเพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมองเห็นตัวรถได้ง่ายขึ้น และยังถือเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงถึงความโดดเด่นของรถฟอร์ดได้ในทุกการเดินทางอีกด้วย

***ความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานของฟอร์ด และตอบโจทย์ด้านมาตรฐานความปลอดภัยทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย อาทิ โครงสร้างตัวถังนิรภัยที่เลือกใช้โลหะซึ่งมีทนทานสูงสุด รวมถึงเหล็กกล้าผสมโบรอน ส่วนห้องโดยสารมีถุงลมนิรภัยติดตั้งมาทั้งสิ้น 7 ตำแหน่ง ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และระดับเข่า พร้อมด้วยเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ และตัวยึดเบาะนั่งพิเศษสำหรับเด็กเล็กบริเวณเบาะนั่งแถวสองและสาม

เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ระบบช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ของฟอร์ด พร้อมให้คุณได้อุ่นใจด้วยฟังก์ชันการติดต่อเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านระบบซิงก์ ที่พร้อมให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ ทั้งนี้หากถุงลมนิรภัยทำงาน หรือมีการตัดการทำงานของปั๊มเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์โดยกะทันหัน ฟอร์ด ซิงก์ จะใช้โทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่ออยู่กับระบบติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ โดยหากผู้ขับขี่ไม่อยู่ในสภาพที่จะสื่อสารได้ ระบบจะเปิดข้อความอัตโนมัติเพื่อรายงานว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้น ก่อนจะแจ้งสถานที่เกิดเหตุด้วยพิกัด GPS

....ทั้งนี้ผู้สื่อข่าว"ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง"ที่ร่วมงานเปิดตัว "ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่" อยู่ที่กรุงปักกิ่ง ได้รายงานยืนยันว่าพีพีวีรุ่นดังจะขายเมืองไทยปีหน้าแน่นอน



















กำลังโหลดความคิดเห็น