ยึดตำแหน่งเจ้าพ่อตลาดรถยนต์หรูในเมืองไทยมาตลอด 13 ปี และกำลังจะครองต่อเนื่องอีกสมัยเป็นปีที่ 14 แสดงให้เห็นถึงความนิยมและการตอบรับของคนไทยที่มีต่อแบรนด์“เมอร์เซเดส-เบนซ์” ได้เป็นอย่างดี ยิ่งยุคใหม่สมัยนี้มีรถยนต์ให้เลือกหลากรุ่นหลายระดับ พร้อมการรุกตลาดแบบมีพลัง ย่อมส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้แข็งแกร่งพร้อมยอดขายที่เติบโตขึ้น…มองปรากฎการณ์ใหม่นี้ผ่าน “อัชฌ์ บุญยประสิทธิ์” ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
- สรุปยอดขายหลังผ่านมา 3 ไตรมาส
ยอดขายในกลุ่มรถยนต์นั่งเราทำได้ 7,549 คัน (ม.ค.-ก.ย.2557) ในจำนวนนี้เป็นรถ Contemporary Luxury หรือ ซี,อี,เอส-คลาส จำนวน 4,198 คัน และรถตู้วีโต้ 138 คัน ส่งผลให้ยอดขายรวมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีอัตราเติบโตถึง 12%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
- กุญแจความสำเร็จ
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเสริมทัพรถยนต์ใหม่หลายรุ่น หรือนับตั้งแต่ต้นปี 2557 เราเปิดตัวไปแล้ว 9 รุ่น ส่งผลให้ตอนนี้มีรถทำตลาดถึง 29 รุ่น(รวมรุ่นย่อย) สนนราคาเริ่มต้น 1.99 - 8.9 ล้านบาท จึงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันการเข้ามาของรถกลุ่ม New Generation Compact Car -NGCC (เอ-คลาส,ซีแอลเอ และจีแอลเอ เป็นต้น) ยังสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ๆได้มากขึ้น
“เมื่อมีรถสายพันธุ์ใหม่ กลุ่มลูกค้าใหม่ เราจึงต้องปรับวิธีการสื่อสารใหม่ พร้อมทำกิจกรรมกับลูกค้าหลายรูปแบบบนพื้นฐานของไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ดังจะเห็นได้จากการใช้สื่อออนไลน์ หรือพวกโซเซียลเน็ตเวิร์ค ไปจนถึงการใช้ทูตตราสินค้า (ชมพู่ อารยา) ทั้งนี้ในอนาคตน่าจะเห็นการใช้ทูตตราสินค้ากับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ มากขึ้น และไม่คงจำกัดแค่ดารานักแสดง แต่อาจจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จด้านกีฬา
- ซี-คลาส รุ่นประกอบในประเทศ
ปัจจุบันการทำตลาดเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส โฉมใหม่ ยังเป็นการนำเข้าทั้งคัน ส่วนรุ่นประกอบในประเทศเราอยากให้เกิดในช่วงไตรมาสที่สองของปีหน้า ส่วนราคาน่าจะลดลงแต่คงไม่ต่างกับรุ่นนำเข้ามาก เพราะต้องพิจารณาออปชันต่างๆที่ติดตั้งเข้ามาด้วย
- การฟาดฟันกับเกรย์มาร์เก็ต
เราได้รับการสนับสนุนที่ดีจากบริษัทแม่ ประเทศเยอรมนี ทั้งโอกาสในการได้รถพวงมาลัยขวามาเปิดตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งบางรุ่นนั้นประเทศไทยเปิดตัวเป็นที่แรกในโลกด้วยซ้ำ สอดคล้องกับการทำราคาขายได้ดีพร้อมทางเลือกของเครื่องยนต์ ออปชัน และการตกแต่งที่มากขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ลูกค้าหันมาซื้อรถจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการมากกว่าซื้อจากผู้นำเข้าอิสระ
- มองตลาดรถหรูปีนี้
ประเด็นเศรษฐกิจและการเมืองอาจะมีผลกระทบน้อยกับตลาดรถหรู เพราะสิ่งสำคัญยังอยู่ที่การมีโปรดักต์ใหม่ๆ จังหวะการเปิดตัว พร้อมทางเลือกที่หลากหลาย เช่นเดียวกัยกลยุทธ์ด้านราคาที่มีส่วนชักจูงให้ลูกค้าใหม่ๆหันมาสนใจรถระดับหรูมากขึ้น
“คาดว่าปีนี้ตลาดรถหรูจะทำยอดขายได้ใกล้เคียงปีที่แล้ว หรือประมาณ 20,000 คัน ในส่วนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ต้องขายให้ได้มากกว่าปีก่อนที่ทำได้ 10,144 คัน พร้อมตั้งเป้าครองส่วนแบ่งการตลาด 50% รักษาความเป็นผู้นำในตลาดรถหรูได้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 14
- สรุปยอดขายหลังผ่านมา 3 ไตรมาส
ยอดขายในกลุ่มรถยนต์นั่งเราทำได้ 7,549 คัน (ม.ค.-ก.ย.2557) ในจำนวนนี้เป็นรถ Contemporary Luxury หรือ ซี,อี,เอส-คลาส จำนวน 4,198 คัน และรถตู้วีโต้ 138 คัน ส่งผลให้ยอดขายรวมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีอัตราเติบโตถึง 12%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
- กุญแจความสำเร็จ
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเสริมทัพรถยนต์ใหม่หลายรุ่น หรือนับตั้งแต่ต้นปี 2557 เราเปิดตัวไปแล้ว 9 รุ่น ส่งผลให้ตอนนี้มีรถทำตลาดถึง 29 รุ่น(รวมรุ่นย่อย) สนนราคาเริ่มต้น 1.99 - 8.9 ล้านบาท จึงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันการเข้ามาของรถกลุ่ม New Generation Compact Car -NGCC (เอ-คลาส,ซีแอลเอ และจีแอลเอ เป็นต้น) ยังสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ๆได้มากขึ้น
“เมื่อมีรถสายพันธุ์ใหม่ กลุ่มลูกค้าใหม่ เราจึงต้องปรับวิธีการสื่อสารใหม่ พร้อมทำกิจกรรมกับลูกค้าหลายรูปแบบบนพื้นฐานของไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ดังจะเห็นได้จากการใช้สื่อออนไลน์ หรือพวกโซเซียลเน็ตเวิร์ค ไปจนถึงการใช้ทูตตราสินค้า (ชมพู่ อารยา) ทั้งนี้ในอนาคตน่าจะเห็นการใช้ทูตตราสินค้ากับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ มากขึ้น และไม่คงจำกัดแค่ดารานักแสดง แต่อาจจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จด้านกีฬา
- ซี-คลาส รุ่นประกอบในประเทศ
ปัจจุบันการทำตลาดเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส โฉมใหม่ ยังเป็นการนำเข้าทั้งคัน ส่วนรุ่นประกอบในประเทศเราอยากให้เกิดในช่วงไตรมาสที่สองของปีหน้า ส่วนราคาน่าจะลดลงแต่คงไม่ต่างกับรุ่นนำเข้ามาก เพราะต้องพิจารณาออปชันต่างๆที่ติดตั้งเข้ามาด้วย
- การฟาดฟันกับเกรย์มาร์เก็ต
เราได้รับการสนับสนุนที่ดีจากบริษัทแม่ ประเทศเยอรมนี ทั้งโอกาสในการได้รถพวงมาลัยขวามาเปิดตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งบางรุ่นนั้นประเทศไทยเปิดตัวเป็นที่แรกในโลกด้วยซ้ำ สอดคล้องกับการทำราคาขายได้ดีพร้อมทางเลือกของเครื่องยนต์ ออปชัน และการตกแต่งที่มากขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ลูกค้าหันมาซื้อรถจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการมากกว่าซื้อจากผู้นำเข้าอิสระ
- มองตลาดรถหรูปีนี้
ประเด็นเศรษฐกิจและการเมืองอาจะมีผลกระทบน้อยกับตลาดรถหรู เพราะสิ่งสำคัญยังอยู่ที่การมีโปรดักต์ใหม่ๆ จังหวะการเปิดตัว พร้อมทางเลือกที่หลากหลาย เช่นเดียวกัยกลยุทธ์ด้านราคาที่มีส่วนชักจูงให้ลูกค้าใหม่ๆหันมาสนใจรถระดับหรูมากขึ้น
“คาดว่าปีนี้ตลาดรถหรูจะทำยอดขายได้ใกล้เคียงปีที่แล้ว หรือประมาณ 20,000 คัน ในส่วนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ต้องขายให้ได้มากกว่าปีก่อนที่ทำได้ 10,144 คัน พร้อมตั้งเป้าครองส่วนแบ่งการตลาด 50% รักษาความเป็นผู้นำในตลาดรถหรูได้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 14
