xs
xsm
sm
md
lg

‘นิสสัน’ส่งรุ่นใหม่-พิเศษลุย… เล็งแตกไลน์อีโคคาร์2, มาสด้า2 ประเดิมรายแรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“นิสสัน” นับเป็นอีกค่ายที่มีการเปิดตัวรถใหม่อย่างคึกคัก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะตามแผนธุรกิจ Power Up 2016 ในไทย ที่จะต้องเปิดตัวรถใหม่ 10 รุ่นภายในปี 2559 และเร็วๆ นี้จะเปิดรุ่นที่ 8 “นิสสัน เอ็กซ์-เทรล” โฉมใหม่ แต่ใช่ว่าจะหมดเพียงแค่นั้น เพราะล่าสุดนิสสันเพิ่งได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนโครงการอีโคคาร์ ระยะที่2 นั่นหมายความว่าในอนาคตมีโอกาสเป็นไปได้สูง ที่จะโมเดลอื่นๆ เพิ่มเข้ามาอีก ขณะเดียวกันรถรุ่นที่มีอยู่ก็ได้มีการปรับเสริมเพิ่มทางเลือกอีกหลายรุ่น...

“นิสสันเป็นผู้ประกอบการรายแรกของประเทศไทย ที่ตัดสินใจเดินหน้าโครงการอีโคคาร์ระยะแรกอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการแนะนำนิสสัน มาร์ช และอัลเมร่า สู่ตลาด ซึ่งเราเชื่อมั่นจะสามารถทำตามข้อกำหนดของโครงการอีโคคาร์เฟสแรก ที่จะต้องผลิตรถยนต์ 1 แสนคัน ในปีที่ 5 ของการผลิตได้ จากนั้นจึงก็จะเดินหน้าอีโคคาร์ระยะที่ 2 ต่อไป”
ประพัฒน์ เชยชม
เป็นคำกล่าวของ “ประพัฒน์ เชยชม” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และระบุว่า ในโครงการอีโคคาร์ ระยะที่ 2 หรือเฟส2(Phase) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) ได้อนุมัติโครงการลงทุนของนิสสันเรียบแล้ว ด้วยมูลค่าเพิ่มอีก 6,860 ล้านบาท เพื่อการผลิตรถยนต์เพิ่มอีกปีละ 1.23 แสนคัน คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 ปี ก่อนที่จะเดินหน้าโครงการดังกล่าว

ทั้งนี้เชื่อว่าโครงการอีโคคาร์เฟสสอง จะทำให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยเปลี่ยนแปลงไป โดยรถยนต์ขนาดเล็กจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และเชื่อว่าตลาดอีโคคาร์จะกลายเป็นตลาดใหญ่ของกลุ่มรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง เหมือนในญี่ปุ่นที่เค-คาร์ครองส่วนแบ่งกว่า 40%

“โดยขณะนี้นิสสันอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด ในเรื่องของตัวรถและเทคโนโลยีที่เหมาะสม จากปัจจุบันที่มีให้เลือกเพียงตัวถังซีดาน และแฮทช์แบ็ก ซึ่งอาจจะมีการเพิ่มประเภทรถ หรือไลน์ผลิตภัณฑ์อีโคคาร์ให้เลือกหลากหลายมากขึ้น อาจจะเป็นรถอเนกประสงค์แบบมินิเอ็มพีวี หรือเครื่องยนต์ที่เล็กลง เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีสามารถทำให้เครื่องเล็กลง แต่สมรรถนะแรงและดีขึ้น อย่างไรก็ตามคงต้องดูความเหมาะสมและตลาดเป็นหลัก”

ในส่วนของรถรุ่นอื่นๆ นอกจากอีโคคาร์ รถไฮบริดเป็นอีกกลุ่มที่นิสสันให้ความสนใจ และกำลังศึกษารายละเอียดอยู่ แต่คงจะไม่ใช่ในกลุ่มรถเล็ก หรือคอมแพ็กต์คาร์ น่าจะเป็นรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น อย่างรุ่นเทียน่าเพียงแต่ขณะนี้ยังไม่มีในตลาด หรือนิสสัน เอ็กซ์-เทรล (Nissan X-Trail) ที่มีอยู่ในบางตลาด โดยในไทยวันที่ 18 พศจิกายนนี้จะเปิดตัว เอ็กซ-เทรลโฉมใหม่สู่ตลาด เพื่อมาทำตลาดแทนรุ่นปัจจุบัน
นิสสันกำลังพิจารณาตัวถังและเทคโนโลยีที่จะเข้าโครงการอีโคคาร์ เฟสสอง อาจเป็นไปได้จะแตกไลน์ผลิตภัณฑ์เป็นรถมินิเอ็มพีวี แต่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในตลาด
นิสสัน เอ็กซ์-เทรล โฉมใหม่ กำหนดเปิดตัว 18 พ.ย.นี้
“เอ็กซ์-เทรล ใหม่ ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในญี่ปุ่นดีมาก มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในรถประเภทครอสโอเวอร์ ด้วยสมรรถนะ รูปลักษณ์ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้ และเชื่อว่าในตลาดไทยจะได้รับการตอบรับเช่นกัน โดยเฉพาะรุ่นใหม่นี้ได้มีการขึ้นไลน์ประกอบในไทย จากรุ่นปัจจุบันที่นำเข้าจากอินโดนีเซีย โดยเบื้องต้นจะมี 2 ทางเลือก กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 และ 2.5 ลิตร ส่วนอีกจุดเด่นของเอ็กซ์-เทรลใหม่จะเป็นแบบเบาะนั่ง 3 แถว หรือรถ 7 ที่นั่ง จากปัจจุบันเอสยูวี หรือครอสโอเวอร์ในไทย ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง” ประพัฒน์กล่าวและว่า

นอกจากนี้นิสสันยังแนะนำรถยนต์รุ่นตกแต่งพิเศษของนิสสัน มาร์ช ลิมิเต็ด เอดิชั่น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่ มีให้เลือก 3 สี พิเศษ เขียว ดำ และขาว โดยมีจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 600 คัน และปรับราคาเพิ่มขึ้น 9,000 บาท และยังมีนิสสันรุ่นพิเศษ หรือชาโคล เกรย์ เอดิชั่น ซึ่งได้ปรับภายในห้องโดยสาร จากสีแดงเป็นสีเทาและเงิน สำหรับลูกค้าที่ไม่ชอบห้องโดยสารเดิม รวมถึงมีการติดตั้งชุดแต่งและสติกเกอร์เพิ่มเติม โดยจู๊ครุ่นพิเศษนี้จะไม่มีการปรับราคาแต่อย่างใด
ครอสโอเวอร์ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ รุ่นขายในไทยมากับอีกจุดเด่นเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง
เพิ่มทางเลือกอีโคคาร์กับ นิสสัน มาร์ช รุ่นพิเศษผลิตจำนวนจำกัด
ผลจากการรุกตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ประกอบกับการเพิ่งเปิดตัวปิกอัพเอ็นพี 300 นาวารา จึงคาดว่าในปีงบประมาณ 2557 (เม.ย.2557 - มี.ค. 2558) นิสสันจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 9% ของตลาดรถยนต์ในไทย จากปีที่ผ่านที่ทำได้เกือบ 7% แม้ภาพรวมตลาดทั้งหมดปีนี้จะลดลงอย่างมาก หรือมียอดขายตลอดทั้งปีไม่เกิน 9 แสนคัน หรือตกลงมากกว่า 30% แต่ในส่วนของนิสสันคาดว่าจะลดลงเพียงกว่า 20% ซึ่งถือว่าดีกว่าตลาด

เรียกว่า... นิสสันเตรียมปล่อยทีเด็ดออกมาเขย่าตลาดต่อเนื่อง และจากคำให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารนิสสัน เชื่อว่าจะมีรถหลากหลายรูปแบบให้เลือก นอกจากรุ่นในปัจจุบันและรุ่นตกแต่งพิเศษ รวมถึงรุ่นล่าสุดนิสสัน เอ็นพี300 นาวาร่า และนับถอยหลังอีกเพียงเดือนเดียว จะพบกับ “นิสสัน เอ็กซ์-เทรล” โฉมใหม่แล้ว ยังมาลุ้นกับเวอร์ชันรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี ตลอดจนอีโคคาร์เฟสองที่ต้องจับตา จะมาในรูปแบบไหน? หรือแม้แต่รถไฮบริดในอนาคต...
มาสด้า2 ประเดิม-ค่ายรถพร้อมลุยอีโคคาร์2

หลังต้องลุ้นกับโครงการอีโคคาร์ ระยะที่ 2 (Phase2) เพราะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่ที่สุดคณะกรรมส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ(BOI) ได้อนุมัติให้ 6 ค่ายรถเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ฟอร์ด, มาสด้า, นิสสัน, โตโยต้า, มิตซูบิชิ และจีเอ็ม (เชฟโรเลต) เหลืออีก 4 ค่ายรถ ฮอนด้า, ซูซูกิ, โฟล์คสวาเกน และเอ็มจี ที่ต้องรอการพิจารณาอนุมัติอยู่

ทันทีมีการอนุมัติผู้บริโภคไม่ต้องรอนาน เมื่อ “จักรมณฑ์ ผาสุกวนิช” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการเข้าพบของผู้บริหารรถยนต์มาสด้าว่า มาสด้าตั้งเป้าหมายผลิตอีโคคาร์เฟสสอง เป็นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1,500 ซีซีรายแรก และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,300 ซีซี กำลังการผลิตปีละประมาณ 1.5 แสนคัน ในปี 2559 มูลค่าการลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท นับเป็นโครงการแรกที่ได้รับส่งเสริมให้ผลิตอีโคคาร์ 2 โดยจะเริ่มการผลิตวันที่ 6 พ.ย.นี้
มาสด้า2 ประเดิมผลิตในโครงการอีโคคาร์ เฟสสองรายแรก แต่ต้องลุ้นราคาจะได้สิทธิ์ภาษีสรรพสามิตทันทีเลยหรือไม่?
แม้จะไม่ได้ระบุรุ่นรถแต่หากดูความเคลื่อนไหว รวมถึงหลายสื่อต่างระบุจะเป็น “มาสด้า2” โฉมใหม่ที่จะเปิดตัวปลายปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” เปิดประเด็นไปตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ที่ต้องลุ้นคงเป็นราคาของมาสด้า2 ว่าจะกดต่ำเหมือนอีโคคาร์รุ่นอื่นๆ ได้หรือไม่? เพราะตามเงื่อนไขที่มีปัจจุบัน อีโคคาร์เฟส2 จะได้รับสิทธิ์ภาษีสรรพสามิตตามโครงการต้องรอปี 2559

ดังนั้นจึงต้องมาลุ้นประกาศกระทรวงการคลัง ว่าจะอนุมัติให้สามารถใช้ภาษีใหม่ได้เลย หรือต้องรอปี 2559 ตามหลักเกณฑ์เดิม ซึ่งหากยึดเงื่อนไขเดิมราคามาสด้า 2 อีโคคาร์ คงไม่ได้ต่ำอย่างที่คาดหวังไว้ แต่ที่แน่ๆ มาสด้าต้องเอามาสด้า2 เข้าโครงการ เพื่อรับสิทธิ์ในการผลิตอีโคคาร์รถรุ่นนี้ไว้ก่อน...

ขณะที่ฟอร์ด ประเทศไทย อีกค่ายที่ได้รับ ได้รับการอนุมัติ บีโอไอให้เข้าร่วมในโครงการส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (Eco Car) รุ่นที่ 2 โดยแผนงานฟอร์ดเป็นการลงทุนในไทยเพิ่มเติมมูลค่าประมาณ 606 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท) ด้วยกำลังการผลิตรถยนต์จำนวน 180,000 คันต่อปี และการผลิตเครื่องยนต์รุ่นเฉพาะภายใต้โครงการดังกล่าว
KA ของค่ายฟอร์ด เป็นโมเดลที่คาดว่าจะเข้าในโครงการอีโคคาร์ เฟสสอง
“ฟอร์ดมีความมุ่งมั่นในการการพัฒนา ตลอดจนสนับสนุนรถยนต์และเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพ ในการประหยัดน้ำมันมากขึ้น และลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง เพื่อช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการมอบตัวเลือกที่หลากหลาย และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภคชาวไทย โดยเราจะประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์ในอนาคต และการดำเนินงานด้านกระบวนการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการอีโคคาร์ในโอกาสต่อไป”

ส่วนเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม(GM) ในประเทศไทย ประกาศแสดงความยินดีที่บีโอไออนุมัติให้เข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ 2 พร้อมกับชื่นชมในความมุ่งมั่นของบีโอไอ ที่ผลักดันให้โครงการนี้เกิดขึ้น และพร้อมทำงานร่วมกับบีโอไอและบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน เพื่อขับเคลื่อนให้โครงการอีโคคาร์ 2 ประสบความสำเร็จต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น