ถือเป็นข่าวดีของผู้ใช้รถทั่วประเทศ เมื่อรัฐบาลเพิ่งประกาศปรับลดราคาน้ำมันลง และจะดียิ่งขึ้นหากได้อ่านเคล็ดลับเพิ่มการประหยัดน้ำมันสูงสุดจากเชฟโรเลต และพร้อมนำไปปฏิบัติเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการใช้รถให้เหลือน้อยที่สุด
ตรวจสอบแรงดันลมยางก่อนใช้รถ
การเติมลมยางอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่ให้มากขึ้น 3.3 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับมีความปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น ถ้ายางทั้งสี่เส้นมีลมอ่อนเกินไปหนึ่งปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะทำให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์ เพราะยางจะมีแรงเสียดทานขณะขับเคลื่อนมากขึ้นจึงต้องใช้กำลังและเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นในการขับเคลื่อนตัวรถ คุณสุพจน์แนะนำว่าผู้ขับขี่ควรซื้ออุปกรณ์วัดลมยางและตรวจเช็คลมยางสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ยางรถยนต์ที่มีแรงดันเหมาะสมจะทำให้รถมีการเกาะถนนดี ส่งผลต่อการตอบสนองของพวงมาลัยและเพิ่มประสิทธิภาพการเบรก
หลีกเลี่ยงการปรับแต่งขนาดล้อและยาง
ล้อที่มีขนาดใหญ่เต็มซุ้มล้อและยางแก้มเตี้ยจะเพิ่มอัตราการบริโภคน้ำมันให้สูงขึ้น ล้อและยางที่มีขนาดใหญ่จะเพิ่มแรงเสียดทานขณะขับเคลื่อน เพิ่มน้ำหนักใต้สปริง และส่งผลต่อหลักอากาศพลศาสตร์ของตัวรถ ทำให้ใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้นและส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ ในกรณีร้ายแรงอาจเป็นอันตรายต่อการเบรกและการควบคุมรถ
ไม่บรรทุกสิ่งของน้ำหนักมากที่ไม่จำเป็นไว้ในรถ
การขับขี่ทางไกลจำเป็นต้องมีการบรรทุกสัมภาระแต่ควรระวังไม่บรรทุกมากเกินไป เนื่องจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะทำให้รถต้องใช้กำลัง และเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นในการขับเคลื่อน ดังนั้นควรทำให้รถมีน้ำหนักเบาอยู่เสมอ การบรรทุกสัมภาระที่ไม่จำเป็นจะทำให้รถทำงานหนักเพิ่มขึ้นและใช้น้ำมันมากกว่าปกติ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 45 กก. จะเพิ่มอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง 2 เปอร์เซ็นต์ และมากกว่านี้ในรถขนาดเล็ก ราวหลังคา ที่มีการบรรทุกสัมภาระจะเพิ่มการบริโภคน้ำมันขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันประมาณหนึ่งลิตรจะถูกเผาผลาญในการขับเคลื่อนตัวรถให้ผ่านแรงเสียดทานอากาศ ดังนั้นรถที่มีการบรรทุกสัมภาระไว้บนหลังคาจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง
ดูแลรักษารถให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ
ที่กรองอากาศและน้ำมันเครื่องที่สกปรก เซ็นเซอร์ออกซิเจน และหัวเทียนที่ทำงานผิดปกติ รวมถึงชิ้นส่วนที่บกพร่องอื่นๆ จะทำให้การบริโภคน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น เครื่องยนต์ที่มีการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ การซ่อมแซมปัญหาทีมีความสำคัญอย่างเซ็นเซอร์ออกซิเจนจะช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่ได้สูงขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ การเปลี่ยน ไส้กรองที่อุดตันอย่างรุนแรงจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ คุณสุพจน์แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องที่บริษัทผู้ผลิตรถแนะนำ เพราะจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นอีก 1 - 2 เปอร์เซ็นต์ ผู้ขับขี่ไม่ควรละเลยสัญญาณไฟเตือนให้เข้ารับบริการ ผู้ใช้รถเชฟโรเลตควรนำรถเข้าศูนย์บริการของเชฟโรเลตเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเติมของเหลวต่างๆ ที่ถูกต้องและใช้ชิ้นส่วนอะไหล่แท้
ตรวจสอบฝาถังน้ำมันอยู่เสมอ
ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่แน่นไม่เพียงแต่จะทำให้ “ไฟสัญญาณเตือนรูปเครื่องยนต์” ปรากฏขึ้นเท่านั้น ข้อมูลจากดิสคัฟเวอรี่แชนเนล ยังระบุว่าจะทำให้น้ำมันระเหยไปโดยเปล่าประโยชน์เกือบ 518 ล้านลิตรต่อปี ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่แน่นจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง 1 - 2 เปอร์เซ็นต์
พิจารณาใช้น้ำมันเชื้อเพลิงผสม
การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเอทานอลจะช่วยลดค่าใช้จ่ายลง รถเชฟโรเลตที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินทุกรุ่นรองรับเชื้อเพลิง E20 ขณะที่แคปติวาและโซนิครองรับเชื้อเพลิง E85 ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซลเทอร์โบ ในโคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้การประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม
ขับรถให้ช้าลง
การขับรถออกตัวจะใช้น้ำมันมากกว่าการรักษาความเร็วรถให้คงที่ ผู้ขับขี่ควรเหยียบคันเร่งออกจากทางแยกหรือสัญญาณไฟจราจรอย่างนุ่มนวล การเร่งรถอย่างรวดเร็วจะใช้ความเร็วมากเกินความจำเป็นและการเบรกอย่างรุนแรง จะทำให้การประหยัดเชื้อเพลิงลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ บนถนนหลวงทางไกล และ 5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการขับขี่ในเมือง ความเร็วที่ช่วยประหยัดน้ำมันมากที่สุดสำหรับรถส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 65 - 100 กม./ชม. อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อขับรถด้วยความเร็วเกินกว่า 96 กม./ชม.
ใช้เกียร์สูง
ถ้าขับรถด้วยเกียร์ธรรมดาอย่างเกียร์ 6 สปีดในเชฟโรเลต โคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ แนะนำให้ใช้เกียร์สูงเพื่อรักษารอบเครื่องยนต์ให้ต่ำซึ่งจะบริโภคน้ำมันน้อยกว่า แต่ไม่ควรขับขี่เช่นนี้มากเกินไปจนฉุดกำลังเครื่องยนต์หรือทำให้เครื่องยนต์ดับ ถ้าขับขี่รถเกียร์อัตโนมัติ ควรผ่อนคันเร่งเล็กน้อย (ไม่ควรถอนคันเร่งออกทั้งหมด) ในจังหวะที่ระบบเกียร์ “เปลี่ยน” สู่เกียร์ที่สูงขึ้น รถเชฟโรเลตที่ใช้เกียร์อัตโนมัติทุกรุ่นใช้เกียร์แบบ 6 สปีด ซึ่งมีอัตราการทดเกียร์ที่สูงกว่า ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่และประหยัดน้ำมัน ควรหลีกเลี่ยงการใช้สวิทช์ “Hold” ถ้าไม่จำเป็น
ตั้งสติและขับขี่อย่างนุ่มนวล
ถ้าหากรถของคุณมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือครูสคอนโทรลอย่างในเชฟโรเลต แคปติวา (รุ่น LT และ LTZ) ให้เปิดใช้ระบบนี้โดยเฉพาะเมื่อขับรถทางไกล ระบบครูสคอนโทรลจะช่วยป้องกันไม่ให้ขับรถเร็วเกินกำหนดและช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันด้วยการเร่งและผ่อนความเร็วอย่างนุ่มนวล ระบบครูสคอนโทรลจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับเกียร์โหมดประหยัดหรือโหมดออโต และไม่ควรใช้ครูสคอนโทรลเมื่อฝนตกหนักหรือขับรถบนพื้นถนนที่เปียกลื่น
ลดความเร็วลงอย่างนุ่มนวลหรือปรับเกียร์ลงจนกระทั่งรถจอดสนิท
การขับรถเกียร์อัตโนมัติในสภาพการจราจรที่หนาแน่น คุณสามารถแล่นไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ได้เพราะรถจะแล่นช้าๆ ไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ ถ้าขับรถเกียร์ธรรมดา แนะนำให้ลดเกียร์ลงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งรถจอดสนิท ผู้ขับขี่สามารถถอนคันเร่งออกขณะที่ยังใส่เกียร์เดินหน้าอยู่ได้ เนื่องจากเครื่องยนต์สมัยใหม่แทบจะไม่ใช้น้ำมันและเพียงพอต่อการเลี้ยงเครื่องยนต์ไม่ให้ดับ เครื่องยนต์จะใช้เชื้อเพลิงมากกว่าถ้าปล่อยให้เกียร์อยู่ในตำแหน่งว่างขณะรถจอดนิ่ง
หลีกเลี่ยงการจอดรถติดเครื่องยนต์นานเกินไป
หากคุณต้องขับรถอยู่ท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด แนะนำให้ดับเครื่องยนต์ การจอดรถติดเครื่องยนต์ไว้จะเผาผลาญน้ำมันอย่างไร้ประโยชน์ การสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่จะใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยแต่การจอดรถติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 15 นาที จะเผาผลาญน้ำมันเกือบหนึ่งลิตร
ใช้ระบบปรับอากาศอย่างชาญฉลาด
การเปิดใช้ระบบแอร์ลดการประหยัดน้ำมันลง 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้าสภาพอากาศภายนอกเอื้ออำนวย ผู้ขับสามารถปรับเพิ่มแรงลมให้สูงขึ้นแทนการปรับลดอุณหภูมิลง ถ้าขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 64 กม./ชม. ผู้ขับสามารถปิดแอร์และเปิดหน้าต่างแทนได้ แต่ถ้าขับด้วยความเร็วเกินกว่า 72 กม./ชม. แรงฉุดของลมที่ไหลเวียนเข้ามาทางหน้าต่างจะทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าการเปิดแอร์
ที่มา : บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
ตรวจสอบแรงดันลมยางก่อนใช้รถ
การเติมลมยางอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่ให้มากขึ้น 3.3 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับมีความปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น ถ้ายางทั้งสี่เส้นมีลมอ่อนเกินไปหนึ่งปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะทำให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์ เพราะยางจะมีแรงเสียดทานขณะขับเคลื่อนมากขึ้นจึงต้องใช้กำลังและเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นในการขับเคลื่อนตัวรถ คุณสุพจน์แนะนำว่าผู้ขับขี่ควรซื้ออุปกรณ์วัดลมยางและตรวจเช็คลมยางสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ยางรถยนต์ที่มีแรงดันเหมาะสมจะทำให้รถมีการเกาะถนนดี ส่งผลต่อการตอบสนองของพวงมาลัยและเพิ่มประสิทธิภาพการเบรก
หลีกเลี่ยงการปรับแต่งขนาดล้อและยาง
ล้อที่มีขนาดใหญ่เต็มซุ้มล้อและยางแก้มเตี้ยจะเพิ่มอัตราการบริโภคน้ำมันให้สูงขึ้น ล้อและยางที่มีขนาดใหญ่จะเพิ่มแรงเสียดทานขณะขับเคลื่อน เพิ่มน้ำหนักใต้สปริง และส่งผลต่อหลักอากาศพลศาสตร์ของตัวรถ ทำให้ใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้นและส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ ในกรณีร้ายแรงอาจเป็นอันตรายต่อการเบรกและการควบคุมรถ
ไม่บรรทุกสิ่งของน้ำหนักมากที่ไม่จำเป็นไว้ในรถ
การขับขี่ทางไกลจำเป็นต้องมีการบรรทุกสัมภาระแต่ควรระวังไม่บรรทุกมากเกินไป เนื่องจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะทำให้รถต้องใช้กำลัง และเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นในการขับเคลื่อน ดังนั้นควรทำให้รถมีน้ำหนักเบาอยู่เสมอ การบรรทุกสัมภาระที่ไม่จำเป็นจะทำให้รถทำงานหนักเพิ่มขึ้นและใช้น้ำมันมากกว่าปกติ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 45 กก. จะเพิ่มอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง 2 เปอร์เซ็นต์ และมากกว่านี้ในรถขนาดเล็ก ราวหลังคา ที่มีการบรรทุกสัมภาระจะเพิ่มการบริโภคน้ำมันขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันประมาณหนึ่งลิตรจะถูกเผาผลาญในการขับเคลื่อนตัวรถให้ผ่านแรงเสียดทานอากาศ ดังนั้นรถที่มีการบรรทุกสัมภาระไว้บนหลังคาจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง
ดูแลรักษารถให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ
ที่กรองอากาศและน้ำมันเครื่องที่สกปรก เซ็นเซอร์ออกซิเจน และหัวเทียนที่ทำงานผิดปกติ รวมถึงชิ้นส่วนที่บกพร่องอื่นๆ จะทำให้การบริโภคน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น เครื่องยนต์ที่มีการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ การซ่อมแซมปัญหาทีมีความสำคัญอย่างเซ็นเซอร์ออกซิเจนจะช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่ได้สูงขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ การเปลี่ยน ไส้กรองที่อุดตันอย่างรุนแรงจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ คุณสุพจน์แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องที่บริษัทผู้ผลิตรถแนะนำ เพราะจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นอีก 1 - 2 เปอร์เซ็นต์ ผู้ขับขี่ไม่ควรละเลยสัญญาณไฟเตือนให้เข้ารับบริการ ผู้ใช้รถเชฟโรเลตควรนำรถเข้าศูนย์บริการของเชฟโรเลตเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเติมของเหลวต่างๆ ที่ถูกต้องและใช้ชิ้นส่วนอะไหล่แท้
ตรวจสอบฝาถังน้ำมันอยู่เสมอ
ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่แน่นไม่เพียงแต่จะทำให้ “ไฟสัญญาณเตือนรูปเครื่องยนต์” ปรากฏขึ้นเท่านั้น ข้อมูลจากดิสคัฟเวอรี่แชนเนล ยังระบุว่าจะทำให้น้ำมันระเหยไปโดยเปล่าประโยชน์เกือบ 518 ล้านลิตรต่อปี ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่แน่นจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง 1 - 2 เปอร์เซ็นต์
พิจารณาใช้น้ำมันเชื้อเพลิงผสม
การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเอทานอลจะช่วยลดค่าใช้จ่ายลง รถเชฟโรเลตที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินทุกรุ่นรองรับเชื้อเพลิง E20 ขณะที่แคปติวาและโซนิครองรับเชื้อเพลิง E85 ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซลเทอร์โบ ในโคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้การประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม
ขับรถให้ช้าลง
การขับรถออกตัวจะใช้น้ำมันมากกว่าการรักษาความเร็วรถให้คงที่ ผู้ขับขี่ควรเหยียบคันเร่งออกจากทางแยกหรือสัญญาณไฟจราจรอย่างนุ่มนวล การเร่งรถอย่างรวดเร็วจะใช้ความเร็วมากเกินความจำเป็นและการเบรกอย่างรุนแรง จะทำให้การประหยัดเชื้อเพลิงลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ บนถนนหลวงทางไกล และ 5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการขับขี่ในเมือง ความเร็วที่ช่วยประหยัดน้ำมันมากที่สุดสำหรับรถส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 65 - 100 กม./ชม. อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อขับรถด้วยความเร็วเกินกว่า 96 กม./ชม.
ใช้เกียร์สูง
ถ้าขับรถด้วยเกียร์ธรรมดาอย่างเกียร์ 6 สปีดในเชฟโรเลต โคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ แนะนำให้ใช้เกียร์สูงเพื่อรักษารอบเครื่องยนต์ให้ต่ำซึ่งจะบริโภคน้ำมันน้อยกว่า แต่ไม่ควรขับขี่เช่นนี้มากเกินไปจนฉุดกำลังเครื่องยนต์หรือทำให้เครื่องยนต์ดับ ถ้าขับขี่รถเกียร์อัตโนมัติ ควรผ่อนคันเร่งเล็กน้อย (ไม่ควรถอนคันเร่งออกทั้งหมด) ในจังหวะที่ระบบเกียร์ “เปลี่ยน” สู่เกียร์ที่สูงขึ้น รถเชฟโรเลตที่ใช้เกียร์อัตโนมัติทุกรุ่นใช้เกียร์แบบ 6 สปีด ซึ่งมีอัตราการทดเกียร์ที่สูงกว่า ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่และประหยัดน้ำมัน ควรหลีกเลี่ยงการใช้สวิทช์ “Hold” ถ้าไม่จำเป็น
ตั้งสติและขับขี่อย่างนุ่มนวล
ถ้าหากรถของคุณมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือครูสคอนโทรลอย่างในเชฟโรเลต แคปติวา (รุ่น LT และ LTZ) ให้เปิดใช้ระบบนี้โดยเฉพาะเมื่อขับรถทางไกล ระบบครูสคอนโทรลจะช่วยป้องกันไม่ให้ขับรถเร็วเกินกำหนดและช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันด้วยการเร่งและผ่อนความเร็วอย่างนุ่มนวล ระบบครูสคอนโทรลจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับเกียร์โหมดประหยัดหรือโหมดออโต และไม่ควรใช้ครูสคอนโทรลเมื่อฝนตกหนักหรือขับรถบนพื้นถนนที่เปียกลื่น
ลดความเร็วลงอย่างนุ่มนวลหรือปรับเกียร์ลงจนกระทั่งรถจอดสนิท
การขับรถเกียร์อัตโนมัติในสภาพการจราจรที่หนาแน่น คุณสามารถแล่นไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ได้เพราะรถจะแล่นช้าๆ ไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ ถ้าขับรถเกียร์ธรรมดา แนะนำให้ลดเกียร์ลงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งรถจอดสนิท ผู้ขับขี่สามารถถอนคันเร่งออกขณะที่ยังใส่เกียร์เดินหน้าอยู่ได้ เนื่องจากเครื่องยนต์สมัยใหม่แทบจะไม่ใช้น้ำมันและเพียงพอต่อการเลี้ยงเครื่องยนต์ไม่ให้ดับ เครื่องยนต์จะใช้เชื้อเพลิงมากกว่าถ้าปล่อยให้เกียร์อยู่ในตำแหน่งว่างขณะรถจอดนิ่ง
หลีกเลี่ยงการจอดรถติดเครื่องยนต์นานเกินไป
หากคุณต้องขับรถอยู่ท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด แนะนำให้ดับเครื่องยนต์ การจอดรถติดเครื่องยนต์ไว้จะเผาผลาญน้ำมันอย่างไร้ประโยชน์ การสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่จะใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยแต่การจอดรถติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 15 นาที จะเผาผลาญน้ำมันเกือบหนึ่งลิตร
ใช้ระบบปรับอากาศอย่างชาญฉลาด
การเปิดใช้ระบบแอร์ลดการประหยัดน้ำมันลง 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้าสภาพอากาศภายนอกเอื้ออำนวย ผู้ขับสามารถปรับเพิ่มแรงลมให้สูงขึ้นแทนการปรับลดอุณหภูมิลง ถ้าขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 64 กม./ชม. ผู้ขับสามารถปิดแอร์และเปิดหน้าต่างแทนได้ แต่ถ้าขับด้วยความเร็วเกินกว่า 72 กม./ชม. แรงฉุดของลมที่ไหลเวียนเข้ามาทางหน้าต่างจะทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าการเปิดแอร์
ที่มา : บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring