หลังจากเปิดตัวทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2008 ในตอนนี้โฟล์คสวาเกนขยับตัวเพิ่มความสดใหม่ให้กับสปอร์ต พื้นฐานกอล์ฟอย่างรุ่นซิร็อคโค(Scirocco) ด้วยการปรับโฉม พร้อมกับเพิ่มเทคโนโลยีใหม่อย่างระบบ Auto Start/Stop และระบบชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่พิเศษ โดยจะมีทำตลาดทั้งรุ่นธรรมดาและตัวแรงในรหัส R
ซิร็อคโค่ถือเป็นรถยนต์คลาสสิคอีกรุ่นของโฟล์คสวาเกน และแฟนๆ ทั่วโลกรู้จักกันมาตั้งแต่ปี 1974 และทำตลาดเรื่อยมาก่อนที่จะยุติบทบาทไปชั่วครู่ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 จนถึงต้นทศวรรษ 2000 ก่อนที่จะเปิดตัวรุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ 3 ออกมาในปี 2008
การปรับโฉมครั้งนี้สามารถสังเกตความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่รูปลักษณ์ด้านหน้า โดยที่ไฟหน้า มีการเปลี่ยนกันชนหน้าทรงใหม่ ส่วนไฟหน้าแม้ว่าจะเป็นแบบเดิม แต่ก็มีการติดตั้ง DRL หรือ Daytime Running Light ที่เป็นหลอด LED ตามสมัยนิยม ตามด้วยล้อแม็กลายใหม่ที่มีให้เลือกทั้งขนาด 17 หรือ 18 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ส่วนด้านท้ายก็มาพร้อมกันชนชุดใหม่ ส่วนไฟท้ายยังเป็นทรงเดิม เปลี่ยนแค่รายละเอียดภายในโคมใหม่หมด
ทางเลือกของเครื่องยนต์ยังหลากหลายเช่นเดิม และก็มีการปรับความเร้าใจแบบพอหอมปากหอมคอ อย่างรุ่นพื้นฐาน 4 สูบ 1,400 ซีซี TSI ปรับกำลังเพิ่มอีก 3 แรงม้ามาอยู่ที่ 125 แรงม้า ตามด้วยรุ่น 2,000 ซีซี TSI ขยับถึง 20 แรงม้ามาอยู่ที่ 180 แรงม้า และ 10 แรงม้าสำหรับตัวแรงทำให้มีกำลังอยู่ที่ 220 แรงม้า ส่วนรุ่นท็อปรหัส R ที่ใช้เครื่องยนต์ 2,000 ซีซีบล็อกนี้ มีกำลังอยู่ที่ 280 แรงม้า หรือมีกำลังเพิ่มขึ้น 15 แรงม้า
เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลมีให้เลือก 2 แบบบนพื้นฐานของเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี มีกำลัง 150 แรงม้า หรือเพิ่มขึ้นจากเดิม 10 แรงม้า และ 184 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 7 แรงม้า) โดยทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะเป็นพื้นฐาน แต่ก็มีเกียร์แบบคลัตช์คู่ หรือ DSG เป็นออพชั่น
ใครที่กำลังมองความเร้าใจของรถคอมแพ็กต์คูป้ อดใจรอกันได้กับการปรับโฉมของซิร็อคโค่ ซึ่งจะเริ่มทำตลาดในปลายปีนี้
หมายเหตุ...ผู้อ่านท่านใดสนใจเที่ยวชม ซื้อรถในงาน "Big Motor Sale " สามารถรับบัตรฟรีท่านละ 4 ใบได้ที บ้านพระอาทิตย์ เวลาทำการ 8.00น.-18.00น. งานจะเริ่มในวันที่ 16-24 สิงหาคม 2557 ศูนย์นิทรรศการ ไบเทค บางนา เบอร์โทร 02-6294488
ซิร็อคโค่ถือเป็นรถยนต์คลาสสิคอีกรุ่นของโฟล์คสวาเกน และแฟนๆ ทั่วโลกรู้จักกันมาตั้งแต่ปี 1974 และทำตลาดเรื่อยมาก่อนที่จะยุติบทบาทไปชั่วครู่ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 จนถึงต้นทศวรรษ 2000 ก่อนที่จะเปิดตัวรุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ 3 ออกมาในปี 2008
การปรับโฉมครั้งนี้สามารถสังเกตความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่รูปลักษณ์ด้านหน้า โดยที่ไฟหน้า มีการเปลี่ยนกันชนหน้าทรงใหม่ ส่วนไฟหน้าแม้ว่าจะเป็นแบบเดิม แต่ก็มีการติดตั้ง DRL หรือ Daytime Running Light ที่เป็นหลอด LED ตามสมัยนิยม ตามด้วยล้อแม็กลายใหม่ที่มีให้เลือกทั้งขนาด 17 หรือ 18 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ส่วนด้านท้ายก็มาพร้อมกันชนชุดใหม่ ส่วนไฟท้ายยังเป็นทรงเดิม เปลี่ยนแค่รายละเอียดภายในโคมใหม่หมด
ทางเลือกของเครื่องยนต์ยังหลากหลายเช่นเดิม และก็มีการปรับความเร้าใจแบบพอหอมปากหอมคอ อย่างรุ่นพื้นฐาน 4 สูบ 1,400 ซีซี TSI ปรับกำลังเพิ่มอีก 3 แรงม้ามาอยู่ที่ 125 แรงม้า ตามด้วยรุ่น 2,000 ซีซี TSI ขยับถึง 20 แรงม้ามาอยู่ที่ 180 แรงม้า และ 10 แรงม้าสำหรับตัวแรงทำให้มีกำลังอยู่ที่ 220 แรงม้า ส่วนรุ่นท็อปรหัส R ที่ใช้เครื่องยนต์ 2,000 ซีซีบล็อกนี้ มีกำลังอยู่ที่ 280 แรงม้า หรือมีกำลังเพิ่มขึ้น 15 แรงม้า
เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลมีให้เลือก 2 แบบบนพื้นฐานของเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี มีกำลัง 150 แรงม้า หรือเพิ่มขึ้นจากเดิม 10 แรงม้า และ 184 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 7 แรงม้า) โดยทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะเป็นพื้นฐาน แต่ก็มีเกียร์แบบคลัตช์คู่ หรือ DSG เป็นออพชั่น
ใครที่กำลังมองความเร้าใจของรถคอมแพ็กต์คูป้ อดใจรอกันได้กับการปรับโฉมของซิร็อคโค่ ซึ่งจะเริ่มทำตลาดในปลายปีนี้
หมายเหตุ...ผู้อ่านท่านใดสนใจเที่ยวชม ซื้อรถในงาน "Big Motor Sale " สามารถรับบัตรฟรีท่านละ 4 ใบได้ที บ้านพระอาทิตย์ เวลาทำการ 8.00น.-18.00น. งานจะเริ่มในวันที่ 16-24 สิงหาคม 2557 ศูนย์นิทรรศการ ไบเทค บางนา เบอร์โทร 02-6294488