ตลาดรถปีม้าคะนองศึกมีการเปิดตัวรถใหม่อย่างคึกคัก เริ่มตั้งแต่ต้นปีกันเลยทีเดียว รวมถึงช่วงโค้งสุดท้ายของครึ่งปีแรก ยังมีการส่งรถรุ่นใหม่สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง แม้ภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้จะดิ่งเหวอย่างหนัก ถึงอย่างนั้นค่ายรถยังดำเนินงานตามแผน รวมถึงในช่วงครึ่งหลังของปีที่จะมีรถใหม่จ่อคิวบุกตลาดอีกหลายรุ่น “ASTV ผู้จัดการมอเตอริง” จึงตรวจสอบเซกเม้นท์หลักๆ ว่ามีไฮไลต์รถรุ่นใหม่อะไรบ้าง? เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้กับผู้ที่จะซื้อรถในครึ่งปีหลังนี้…
ประเดิม‘แอคคอร์ด ไฮบริด’ ชนคัมรี
เพียงวันแรกของการเข้าสู่ครึ่งหลังปีม้าคะนองศึก วันที่ 1 ก.ค.ได้มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ “ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด” เขย่าตลาดเก๋งขนาดกลาง หรือกลุ่ม D เซกเม้นท์ทันที นับเป็นการเปิดหน้าท้าชนกับเจ้าตลาด “โตโยต้า คัมรี” อย่างเต็มตัว เพราะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์สันดาปปกติ ซึ่งแอคคอร์ดได้ส่งโฉมใหม่บุกตลาดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และล่าสุดกับการเสริมทัพด้วยรุ่นขุมพลังไฮบริด โดยในช่วงที่ผ่านมาตลาดเก๋งขนาดกลาง มีเพียงคัมรีไฮบริดเท่านั้นที่ทำตลาด
ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มากับเทคโนโลยีระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ทำงานด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว Atkinson-cycle Double Over Head Camshaft (DOHC) i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งพัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม สำหรับระบบไฮบริดโดยเฉพาะ ให้กำลัง 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 165 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่รวมให้กำลังสูงสุด 169 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 307 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ E-CVT
เทคโนโลยีไฮบริดที่ติดตั้งในแอคคอร์ดใหม่ นับเป็นระบบ Full Hybrid ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่เคยมีมาของฮอนด้า โดยสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่ 3 โหมด ประกอบด้วยโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode), โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) ซึ่งฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย รุ่น Hybrid ราคา 1,659,000 บาท และ รุ่น Hybrid TECH ราคา 1,899,000 บาท พร้อมรับประกันการใช้งานแบตเตอรี่ 10 ปี
คอมแพ็กต์คาร์เริ่มนิ่ง-เก๋งเล็กยังมีลุ้น
ในส่วนของตลาดเก๋งคอมแพ็กต์ มีการเปิดตัวรถใหม่รุ่นสำคัญมาตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรก ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส และมาสด้า3 โฉมใหม่ รวมถึงล่าสุดที่เพิ่งแนะนำสู่ตลาดไป “เอ็มจี 6” ซึ่งคงจะต้องฟาดฟันกันอย่างดุเดือดต่อไปในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และยังไม่น่าจะมีรุ่นใหม่สู่ตลาดอีก อย่างมากเพียงแค่แต่งหน้าทาปากเพิ่มความใหม่สดเท่านั้น
ขณะที่ตลาดเก๋งขนาดเล็กมีการเปิดตัวรุ่นไฮไลต์สู่ตลาด ในช่วงโค้งสุดท้ายของครึ่งปีแรกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า แจ๊ซ โฉมใหม่ หรือซูซูกิ เซเลริโอ อีโคคาร์รุ่นที่สองของค่ายซูซูกิ ซึ่งตลาดเก๋งเล็กคงต้องใส่กันเต็มที่ต่อเนื่อง เพราะภาพรวมตลาดนี้ยอดขายตกลงกว่า 50% จากผลกระทบโครงการรถคันแรก
สำหรับรถรุ่นใหม่ หรือโมเดลเชนจ์ของเก๋งเล็ก จากการเปิดเผยของค่ายรถก่อนหน้านี้คงต้องเป็น “ทาทา นาโน” ซึ่งหากปรับเปลี่ยนเกียร์เป็นแบบอัตโนมัติได้ตามแผน น่าจะเปิดตัวในปลายปีนี้หรือภายในต้นปีหน้า ขณะที่อีกรุ่น “โปรตอน แซฟวี” อาจจะมาทำตลาดในช่วงปลายปีนี้เช่นกัน เพราะโฉมใหม่กำลังเตรียมขึ้นไลน์ผลิตในมาเลเซียอยู่
แต่ที่น่าจับตามองเห็นจะเป็น “มาสด้า2” โฉมใหม่ ที่ลุ้นกับโครงการอีโคคาร์ระยะที่ 2 ซึ่งสะดุดจากปัญหาการเมืองจนต้องเลื่อนเคาะอนุมัติโครงการมาหลายเดือนแล้ว หรือที่สุดยังคงต้องลุยในตลาดซับคอมแพ็กต์เหมือนเดิมภายในปลายปีนี้ หรือไม่เกินต้นปีหน้า หลังจากได้มีการเผยโฉมรถต้นแบบ “มาสด้า ฮาซูมิ” (Hazumi Concept) ให้เห็นแล้ว และอีกรุ่นคงต้องเป็นเก๋งของค่าย “ฮุนได” ที่ได้ประกาศเตรียมนำรถจากมาเลเซียเข้ามาขายในไทยช่วงไตรมาสสามปีนี้ หากเป็นรถที่ยังไม่ทำตลาดคงจะต้องเป็นเก๋งเล็ก “ฮุนได ไอ10” หรือถ้าเป็นรุ่นที่ทำตลาดอยู่แล้ว หวยน่าจะออกกับรุ่นเอลันทรา
ปิกอัพ ‘ไทรทัน’ โฉมใหม่บี้ ‘นาวารา’
ไฮไลต์รถใหม่ในตลาดไทยช่วงครึ่งหลังปีนี้ คงต้องจับตากลุ่มปิกอัพมากที่สุด เพราะถือเป็นตลาดหลักและสำคัญในไทยมานาน โดยได้มีการเผยโฉม “นิสสัน เอ็นพี300 นาวารา” เป็นครั้งแรกของโลกในไทยไปแล้ว แต่จะเปิดราคาขายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ เริ่มตั้งแต่ 5.75-9.96 แสนบาท พร้อมกับการเปิดโรงงานแห่งใหม่ที่ผลิตปิกอัพโฉมใหม่นี้ จากนั้นช่วงปลายปีจะมีรุ่นใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติ หรือ CNG ตามออกมา ด้วยการวางเครื่องยนต์บล็อกเดิมแต่เปลี่ยนตัวถังเป็นโฉมใหม่แทน
แต่ใช่ว่านิสสัน เอ็นพี300 นาวารา จะชูความสดใหม่กวาดยอดขายรายเดียว เพราะคู่แข่งสำคัญ “มิตซูบิชิ ไทรทัน” โฉมใหม่เตรียมแนะนำสู่ตลาดในช่วงครึ่งหลังปีนี้เช่นกัน ซึ่งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามีภาพหลุดจากโรงงานออกมาให้เห็นทางสื่อสังคมออนไลน์บ้างแล้ว โดยโมเดลใหม่นี้พัฒนาจากรถต้นแบบรุ่น GR-HEV ซึ่งถูกนำมาเผยโฉมในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2013 ที่ผ่านมา
ส่วน "โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้" แม้จะเป็นช่วงปลายโมเดล และมีภาพถ่ายรุ่นโมเดลเชนจ์ขณะกำลังวิ่งทดสอบให้เห็นเช่นกัน แต่แผนการเปิดตัวทำตลาดยังคงเป็นปีหน้า ขณะที่รุ่นอื่นๆ จะเป็นเพียงการปรับแต่งนิดหน่อย หรือเพิ่มรุ่นอย่าง “มาสด้า บีที-50” ที่จะเพิ่มรุ่นย่อยมาเป็นทางเลือกมากขึ้น ด้วยการนำรุ่นยกสูงมาแต่งเหมือนกับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นต้น
เอสยูวีคึกคักบุกตลาดหลากทางเลือก
รถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี เป็นอีกกลุ่มที่จะสร้างความคึกคักให้กับตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง เริ่มจาก “นิสสัน เอ็กซ์-เทรล” โฉมใหม่ที่จะบุกตลาดไตรมาสสามปีนี้ ซึ่งจะทำให้ตลาดคอมแพ็กต์เอสยูวีมีความคึกคักมากขึ้น หลังจากมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ได้สร้างความฮือฮาไปก่อนหน้านี้ โดยเอ็กซ์-เทรล ใหม่ ได้ปรับโฉมให้มีความเป็นครอสโอเวอร์อย่างชัดเจน และมาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยมากมาย นอกจากนี้ยังจะมีรุ่นใหม่ “ทาทา ซาฟารี สตรอม” (Safari Storme) มาเป็นอีกทางเลือกด้วย
หากต้องการเอสยูวีขนาดย่อมลงมา หรือพวก Urban SUV ซึ่งปัจจุบันในไทยมี ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต และนิสสัน จู๊คทำตลาดอยู่ ช่วงปลายปีนี้หากไม่มีการปรับเปลี่ยนแผน หรือการเลื่อนเปิดโรงงานแห่งใหม่ของฮอนด้าไม่มีผลกระทบมากนัก น่าจะได้พบกับ “ฮอนด้า วีเซล” (Honda Vezel) ซึ่งพัฒนาบนพื้นฐานของฮอนด้า แจ๊ซมาทำตลาดอีกรุ่น หรืออย่างช้าคงไม่เกินต้นปีหน้า
แต่หากจะพบกับความหรูหรา เตรียมพบกับ “เลกซัส เอ็นเอ็กซ์” (Lexus NX) ครอสโอเวอร์รุ่นใหม่จากแดนปลาดิบ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ารุ่นอาร์เอ็กซ์ และเป็นเอสยูวีรุ่นแรกที่พัฒนาเพื่อแบรนด์เลกซัสโดยตรง ไม่ใช่อิงจากผลิตภัณฑ์ของโตโยต้า ตามแผนจะทำตลาดในไทยช่วงไตรมาสสามปีนี้ เพื่อมาท้าชนกับบีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์-3 และเมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 238 แรงม้า และรุ่นไฮบริดวางเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 194 แรงม้า
ส่วนใครที่ต้องการความแปลกแตกต่าง ภายในปลายปีนี้น่าจะได้สัมผัส “บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์4” เอสยูวีสปอร์ตคูเป้ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับรุ่นพี่บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์-6 โดยในต่างประเทศมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินขนาด 2.0 ลิตร และ 3.0 ลิตร
ทั้งหมดเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น เฉพาะไฮไลต์ของเซกเม้นท์หลักๆ ซึ่งน่าจะเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้กับผู้ที่กำลังคิดจะจับจองเป็นเจ้าของรถใหม่ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ส่วนจะชื่นชอบแบบไหน? เชิญเลือกกันตามสบาย…
ประเดิม‘แอคคอร์ด ไฮบริด’ ชนคัมรี
เพียงวันแรกของการเข้าสู่ครึ่งหลังปีม้าคะนองศึก วันที่ 1 ก.ค.ได้มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ “ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด” เขย่าตลาดเก๋งขนาดกลาง หรือกลุ่ม D เซกเม้นท์ทันที นับเป็นการเปิดหน้าท้าชนกับเจ้าตลาด “โตโยต้า คัมรี” อย่างเต็มตัว เพราะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์สันดาปปกติ ซึ่งแอคคอร์ดได้ส่งโฉมใหม่บุกตลาดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และล่าสุดกับการเสริมทัพด้วยรุ่นขุมพลังไฮบริด โดยในช่วงที่ผ่านมาตลาดเก๋งขนาดกลาง มีเพียงคัมรีไฮบริดเท่านั้นที่ทำตลาด
ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มากับเทคโนโลยีระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ทำงานด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว Atkinson-cycle Double Over Head Camshaft (DOHC) i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งพัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม สำหรับระบบไฮบริดโดยเฉพาะ ให้กำลัง 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 165 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่รวมให้กำลังสูงสุด 169 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 307 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ E-CVT
เทคโนโลยีไฮบริดที่ติดตั้งในแอคคอร์ดใหม่ นับเป็นระบบ Full Hybrid ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่เคยมีมาของฮอนด้า โดยสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่ 3 โหมด ประกอบด้วยโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode), โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) ซึ่งฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย รุ่น Hybrid ราคา 1,659,000 บาท และ รุ่น Hybrid TECH ราคา 1,899,000 บาท พร้อมรับประกันการใช้งานแบตเตอรี่ 10 ปี
คอมแพ็กต์คาร์เริ่มนิ่ง-เก๋งเล็กยังมีลุ้น
ในส่วนของตลาดเก๋งคอมแพ็กต์ มีการเปิดตัวรถใหม่รุ่นสำคัญมาตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรก ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส และมาสด้า3 โฉมใหม่ รวมถึงล่าสุดที่เพิ่งแนะนำสู่ตลาดไป “เอ็มจี 6” ซึ่งคงจะต้องฟาดฟันกันอย่างดุเดือดต่อไปในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และยังไม่น่าจะมีรุ่นใหม่สู่ตลาดอีก อย่างมากเพียงแค่แต่งหน้าทาปากเพิ่มความใหม่สดเท่านั้น
ขณะที่ตลาดเก๋งขนาดเล็กมีการเปิดตัวรุ่นไฮไลต์สู่ตลาด ในช่วงโค้งสุดท้ายของครึ่งปีแรกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า แจ๊ซ โฉมใหม่ หรือซูซูกิ เซเลริโอ อีโคคาร์รุ่นที่สองของค่ายซูซูกิ ซึ่งตลาดเก๋งเล็กคงต้องใส่กันเต็มที่ต่อเนื่อง เพราะภาพรวมตลาดนี้ยอดขายตกลงกว่า 50% จากผลกระทบโครงการรถคันแรก
สำหรับรถรุ่นใหม่ หรือโมเดลเชนจ์ของเก๋งเล็ก จากการเปิดเผยของค่ายรถก่อนหน้านี้คงต้องเป็น “ทาทา นาโน” ซึ่งหากปรับเปลี่ยนเกียร์เป็นแบบอัตโนมัติได้ตามแผน น่าจะเปิดตัวในปลายปีนี้หรือภายในต้นปีหน้า ขณะที่อีกรุ่น “โปรตอน แซฟวี” อาจจะมาทำตลาดในช่วงปลายปีนี้เช่นกัน เพราะโฉมใหม่กำลังเตรียมขึ้นไลน์ผลิตในมาเลเซียอยู่
แต่ที่น่าจับตามองเห็นจะเป็น “มาสด้า2” โฉมใหม่ ที่ลุ้นกับโครงการอีโคคาร์ระยะที่ 2 ซึ่งสะดุดจากปัญหาการเมืองจนต้องเลื่อนเคาะอนุมัติโครงการมาหลายเดือนแล้ว หรือที่สุดยังคงต้องลุยในตลาดซับคอมแพ็กต์เหมือนเดิมภายในปลายปีนี้ หรือไม่เกินต้นปีหน้า หลังจากได้มีการเผยโฉมรถต้นแบบ “มาสด้า ฮาซูมิ” (Hazumi Concept) ให้เห็นแล้ว และอีกรุ่นคงต้องเป็นเก๋งของค่าย “ฮุนได” ที่ได้ประกาศเตรียมนำรถจากมาเลเซียเข้ามาขายในไทยช่วงไตรมาสสามปีนี้ หากเป็นรถที่ยังไม่ทำตลาดคงจะต้องเป็นเก๋งเล็ก “ฮุนได ไอ10” หรือถ้าเป็นรุ่นที่ทำตลาดอยู่แล้ว หวยน่าจะออกกับรุ่นเอลันทรา
ปิกอัพ ‘ไทรทัน’ โฉมใหม่บี้ ‘นาวารา’
ไฮไลต์รถใหม่ในตลาดไทยช่วงครึ่งหลังปีนี้ คงต้องจับตากลุ่มปิกอัพมากที่สุด เพราะถือเป็นตลาดหลักและสำคัญในไทยมานาน โดยได้มีการเผยโฉม “นิสสัน เอ็นพี300 นาวารา” เป็นครั้งแรกของโลกในไทยไปแล้ว แต่จะเปิดราคาขายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ เริ่มตั้งแต่ 5.75-9.96 แสนบาท พร้อมกับการเปิดโรงงานแห่งใหม่ที่ผลิตปิกอัพโฉมใหม่นี้ จากนั้นช่วงปลายปีจะมีรุ่นใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติ หรือ CNG ตามออกมา ด้วยการวางเครื่องยนต์บล็อกเดิมแต่เปลี่ยนตัวถังเป็นโฉมใหม่แทน
แต่ใช่ว่านิสสัน เอ็นพี300 นาวารา จะชูความสดใหม่กวาดยอดขายรายเดียว เพราะคู่แข่งสำคัญ “มิตซูบิชิ ไทรทัน” โฉมใหม่เตรียมแนะนำสู่ตลาดในช่วงครึ่งหลังปีนี้เช่นกัน ซึ่งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามีภาพหลุดจากโรงงานออกมาให้เห็นทางสื่อสังคมออนไลน์บ้างแล้ว โดยโมเดลใหม่นี้พัฒนาจากรถต้นแบบรุ่น GR-HEV ซึ่งถูกนำมาเผยโฉมในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2013 ที่ผ่านมา
ส่วน "โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้" แม้จะเป็นช่วงปลายโมเดล และมีภาพถ่ายรุ่นโมเดลเชนจ์ขณะกำลังวิ่งทดสอบให้เห็นเช่นกัน แต่แผนการเปิดตัวทำตลาดยังคงเป็นปีหน้า ขณะที่รุ่นอื่นๆ จะเป็นเพียงการปรับแต่งนิดหน่อย หรือเพิ่มรุ่นอย่าง “มาสด้า บีที-50” ที่จะเพิ่มรุ่นย่อยมาเป็นทางเลือกมากขึ้น ด้วยการนำรุ่นยกสูงมาแต่งเหมือนกับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นต้น
เอสยูวีคึกคักบุกตลาดหลากทางเลือก
รถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี เป็นอีกกลุ่มที่จะสร้างความคึกคักให้กับตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง เริ่มจาก “นิสสัน เอ็กซ์-เทรล” โฉมใหม่ที่จะบุกตลาดไตรมาสสามปีนี้ ซึ่งจะทำให้ตลาดคอมแพ็กต์เอสยูวีมีความคึกคักมากขึ้น หลังจากมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ได้สร้างความฮือฮาไปก่อนหน้านี้ โดยเอ็กซ์-เทรล ใหม่ ได้ปรับโฉมให้มีความเป็นครอสโอเวอร์อย่างชัดเจน และมาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยมากมาย นอกจากนี้ยังจะมีรุ่นใหม่ “ทาทา ซาฟารี สตรอม” (Safari Storme) มาเป็นอีกทางเลือกด้วย
หากต้องการเอสยูวีขนาดย่อมลงมา หรือพวก Urban SUV ซึ่งปัจจุบันในไทยมี ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต และนิสสัน จู๊คทำตลาดอยู่ ช่วงปลายปีนี้หากไม่มีการปรับเปลี่ยนแผน หรือการเลื่อนเปิดโรงงานแห่งใหม่ของฮอนด้าไม่มีผลกระทบมากนัก น่าจะได้พบกับ “ฮอนด้า วีเซล” (Honda Vezel) ซึ่งพัฒนาบนพื้นฐานของฮอนด้า แจ๊ซมาทำตลาดอีกรุ่น หรืออย่างช้าคงไม่เกินต้นปีหน้า
แต่หากจะพบกับความหรูหรา เตรียมพบกับ “เลกซัส เอ็นเอ็กซ์” (Lexus NX) ครอสโอเวอร์รุ่นใหม่จากแดนปลาดิบ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ารุ่นอาร์เอ็กซ์ และเป็นเอสยูวีรุ่นแรกที่พัฒนาเพื่อแบรนด์เลกซัสโดยตรง ไม่ใช่อิงจากผลิตภัณฑ์ของโตโยต้า ตามแผนจะทำตลาดในไทยช่วงไตรมาสสามปีนี้ เพื่อมาท้าชนกับบีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์-3 และเมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 238 แรงม้า และรุ่นไฮบริดวางเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 194 แรงม้า
ส่วนใครที่ต้องการความแปลกแตกต่าง ภายในปลายปีนี้น่าจะได้สัมผัส “บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์4” เอสยูวีสปอร์ตคูเป้ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับรุ่นพี่บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์-6 โดยในต่างประเทศมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินขนาด 2.0 ลิตร และ 3.0 ลิตร
ทั้งหมดเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น เฉพาะไฮไลต์ของเซกเม้นท์หลักๆ ซึ่งน่าจะเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้กับผู้ที่กำลังคิดจะจับจองเป็นเจ้าของรถใหม่ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ส่วนจะชื่นชอบแบบไหน? เชิญเลือกกันตามสบาย…
