ข่าวในประเทศ - เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี เปิดตัวรถยนต์ “เอ็มจี6” จากฐานการผลิตในไทยครั้งแรก ประกาศพร้อมบุกตลาดวางจำหน่ายเป็นทางการ 19 มิ.ย.นี้ และส่งออกทั่วภูมิภาคในปีหน้า โดยมีให้เลือกทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และรุ่น 5 ประตูฟาสต์แบ็ก เผยจุดเด่นครบเครื่องทั้งสมรรถนะการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรเทอร์โบ 161 แรงม้า การควบคุมรถอย่างแม่นยำ การออกแบบอันโดดเด่นสไตล์รถสปอร์ตแบบอังกฤษ และระบบความปลอดภัยสูงสุด
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง เซียงไฮ้ โอโตโมบิล อินดัสเทรียล คอร์ปอเรชัน ประเทศจีน (SIAC) กับเครือเจริญโภคภัณฑ์(CP) จัดงานเปิดตัวครั้งแรกรถยนต์รุ่น “เอ็มจี6” (MG6)จากสายการผลิตศูนย์การผลิตรถยนต์เอ็มจี ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์น ซีบอร์ด จังหวัดชลบุรี
“วันนี้เราได้แสดงให้ทุกท่านเห็นแล้วว่า ประเทศไทยมีความพร้อมในทุกด้านในการผลิตรถยนต์มาตรฐานระดับโลกคันนี้ออกมาสู่ตลาดประเทศไทย เพื่อบริโภคชาวไทย โดยฝีมือของคนไทย ผมรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้แสดงให้ทุกท่านเห็นถึงศักยภาพ ความสามัคคี ความเป็นมืออาชีพของเพื่อนพนักงานชาวไทย ผมหวังเป็นอย่างว่า เอ็มจี 6 รถยนต์อังกฤษมาตรฐานยุโรปคันนี้ จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค เพราะนี่คือสิ่งที่เราตั้งใจ และผลิตออกมาด้วยหัวใจ เพื่อให้ถูกใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง” นายหวู่ ฮวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด กล่าวและว่า
รถยนต์เอ็มจี6 ที่ผลิตโดยฝีมือคนไทยนี้ ถือเป็นรถยนต์ที่ได้มาตรฐานระดับโลก ด้วยคุณสมบัติและการออกแบบที่โดดเด่น ผนวกกับการผลิตอย่างประณีตและพิถีพิถันสไตล์รถยนต์อังกฤษอย่างแท้จริง อีกทั้งเอ็มจี 6 ยังสะท้อนความโดดเด่นในเรื่องแบรนด์และบริทไดนามิค มาตรฐานการขับขี่แบบอังกฤษ ซึ่งเอ็มจีเป็นแบรนด์รถยนต์ที่กำเนิดในอังกฤษมานาน 90 ปี หรือตั้งแต่ปี 1924 แม้ปัจจุบันเอสเอไอซีจะซื้อกิจการมา แต่ยังคงมาตรฐานของรถยนต์ยุโรปไว้เช่นเดิม
ทั้งนี้จุดเด่นของเอ็มจี 6 เป็นการผสานคุณสมบัติ 4 ด้าน ได้แก่ สมรรถนะด้านการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรเทอร์โบ 161 แรงม้า การควบคุมรถอย่างแม่นยำ การออกแบบอันโดดเด่นสไตล์รถสปอร์ตแบบอังกฤษ และระบบความปลอดภัยที่ให้ความสำคัญสูงสุดแก่ผู้ขับขี่ ไว้อย่างลงตัว หวังว่าเอ็มจี6 จะเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทย
นายฮวนกล่าวว่า รถยนต์เอ็มจีทุกคันที่ผลิตในศูนย์การผลิตรถยนต์เอ็มจีแห่งนี้ จะต้องได้รับการตรวจสอบคุณภาพอย่างอย่างละเอียด โดยทีมงานและเครื่องมือตรวจสอบที่ได้คุณภาพมาตรฐานสากล สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านมั่นใจได้ว่ารถยนต์เอ็มจี 6 ทุกคันได้มาตรฐานสูงสุดระดับโลกแน่นอน ทั้งนี้ปัจจุบันศูนย์การผลิตฯ มีกำลังการผลิตสูงถึง 50,000 คันต่อปี หรือ 25,000 คันต่อหนึ่งกะการผลิต ซึ่งกำหนดแนะนำสู่ตลาดเพื่อจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ และจะเริ่มส่งออกในภูมิภาคอาเซียนปีหน้า รวมถึงรถยนต์เอ็มจี3 และเอ็มจี5 ที่จะผลิตในโรงงานแห่งนี้เช่นกัน
“วันนี้รถยนต์รุ่นเอ็มจี6 พร้อมแล้วที่จะพาทุกท่านไปพบกับประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟเหนือระดับ ทั้งในด้านนวัตกรรมและยนตกรรม ความสนุกสนานในการขับขี่แบบรถยนต์สปอร์ตสไตล์อังกฤษ...ให้คนไทยหลงรักเอ็มจี เหมือนที่คนทั้งโลกหลงรักมาแล้ว เอ็มจี”
นอกจากนี้ในงานยังได้รับเกียรติจาก นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในการร่วมเป็นประธานในพิธีฉลองและเปิดตัวรถยนต์คันแรกจากสายการผลิตในประเทศไทย ทั้งยังให้เกียรติร่วมเขียนอวยพรบนรถยนต์เอ็มจี 6 เครื่องยนต์ 1.8 เทอร์โบ รุ่นเอ็กซ์ แบบ 4 ประตู สีรีกัลเรด พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นด้วยการเป็นเจ้าของรถยนต์เอ็มจี 6 เครื่องยนต์ 1.8 เทอร์โบ รุ่นเอ็กซ์ แบบ 5 ประตูฟาสต์แบ็ก สีแพลตตินั่มซิลเวอร์ ที่มาพร้อมกับซันรู้ฟ สุดหรู เป็นคนแรกในประเทศไทยอีกด้วย โดยมีนายเฉิน หง ประธานกรรมการ บริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น ลิมิเต็ด เป็นผู้ส่งมอบรถยนต์ดังกล่าวด้วยตัวเอง
“เชื่อว่าวันนี้ประเทศไทยพร้อมแล้วในการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคนี้ ผมต้องขอบคุณบริษัทเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น ลิมิเต็ด ที่ไว้วางใจในเครือเจริญโภคภัณฑ์ จับมือกันสร้างบริษัทเอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ และพัฒนารถยนต์ระดับโลก ให้คนไทยได้สัมผัส ถึงความสมบูรณ์แบบที่สุดทางด้านการขับขี่ ผมมั่นใจในฝีมือเพื่อนพนักงานไทย ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันผลิตรถยนต์เอ็มจี6 คันนี้ออกมา ผมหวังว่าทุกท่านจะประทับใจในสมรรถนะและรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์เอ็มจี6 เหมือนเช่นที่ผมรู้สึกเช่นกัน” นายธนินท์กล่าว
นายธนากร เสรีบุรี รองประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) และประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรมเครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า การเปิดสายการผลิตรถยนต์เอ็มจี 6 รุ่นแรกในไทย ถือเป็นการเริ่มต้นเท่านั้น เพราะมีการผลิตรถยนต์อื่นๆ ตามมาต่อเนื่อง เพื่อรองรับตลาดในประเทศและส่งออกในภูมิภาคนี้ รวมถึงการขยายการผลิตในระยะต่อไปในเฟส2 เพื่อตั้งโรงงานแห่งใหม่ในพื้นที่กว่า 500 ไร่ และจะมีกำลังการผลิตประมาณ 150,000 -200,000 แสนคันต่อปี
โดยโรงงานใหม่ในเฟส 2 เพื่อทำการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ๆ โดยจะมีโครงการผลิตอีโคคาร์ที่เพิ่งยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนไป และยังมีการผลิตปิกอัพเพิ่มมาอีกโครงการ เพราะทางเอสเอไอซีมองว่าปิกอัพในไทยเป็นตลาดที่ใหญ่มาก แม้ในจีนเอสเอไอซีจะไม่มีการผลิตปิกอัพก็ตาม