วันนี้ (22 พ.ค.) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ยึดไบเทค บางนา จัดงานเปิดตัว เก๋งซับคอมแพกต์ตัวถังแฮทช์แบ็ก “ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่”เน้นสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย พร้อมรูปลักษณ์โดดเด่น ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง วางเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร 117 แรงม้า รองรับแก็สโซฮอล์ E85 แบ่งเป็น 6 รุ่นย่อย ราคา 5.55-7.54 แสนบาท โดยตั้งเป้าขาย 20,000 คันต่อปี
สำหรับฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 3 ถูกพัฒนาให้มีความโดดเด่นทันสมัยมากขึ้นในทุกมิติ พร้อมเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอล ซึ่งฮอนด้าให้นิยามความโดดเด่นไว้ 4 ด้าน
1.ตอบรับทุกการใช้งานแบบมัลติฟังก์ชั่น (Multi-Function) ด้วยระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri Eyes Free Mode (สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป) รองรับการเชื่อมต่อ HondaLink Application (เฉพาะ Smart Phone บางรุ่น) จอแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นที่ให้การควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้ว ด้วยสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย
2.ขับสนุกเร้าใจ (Multi-Drive) เครื่องยนต์ i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร ผสานระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 146 นิวตัน-เมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด สะดวกสบายกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมี Eco Coaching ระบบแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน รวมทั้งปุ่ม Econ Mode เป็นระบบที่ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง โดยจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งปรับการทำงานของระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสมกับอุณหภูมิภายนอกรถ เพื่อช่วยควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถรองรับพลังงานทางเลือก E85
3.มาตรฐานความปลอดภัย (Multi-Safety) ด้วยโครงสร้างตัวถังแบบ G-Force Control (G-CON) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ซึ่งมีอยู่ในฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ทุกรุ่น นอกจากนี้ยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยกล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ ตลอดจนระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ (i-Side Airbag) พร้อมม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
4.ตอบรับทุกการใช้งานที่หลากหลาย (Multi-Utility) ด้วยเบาะนั่งอัลตร้า ซีทที่ปรับเปลี่ยนได้ 4 โหมด ได้แก่ Utility Mode, Long Mode, Tall Mode และเพิ่มโหมดใหม่ล่าสุด Refresh Mode ที่สามารถพับเบาะด้านหน้าเชื่อมต่อเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด ตอบสนองได้ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมที่วางแก้วน้ำมากสุด 9 ตำแหน่ง ที่วางโทรศัพท์มือถือ และกล่องเก็บแท็บเล็ต
สำหรับฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ มีให้เลือก 6 รุ่นย่อย ได่แก่ รุ่น S MT ราคา 5.55 แสนบาท, S AT ราคา 5.94 แสนบาท, V ราคา 6.54 แสนบาท, V+ ราคา 6.94 แสนบาท, SV ราคา 7.39 แสนบาท และรุ่น SV+ ราคา 7.54 แสนบาท
โดยมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และสีขาวทาฟเฟต้า และ 2 สีใหม่ ได้แก่ สีเหลืองแอทแทรค (มุก) สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) (สำหรับสีมุกเพิ่ม 6,000 บาท) ส่วนภายในห้องโดยสารทุกรุ่นเป็นสีดำ รุ่น S, V และ V+ เป็นเบาะผ้าสีดำ และรุ่น SV และ SV+ เป็นเบาะผ้าสีดำแบบสปอร์ต
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
สำหรับฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 3 ถูกพัฒนาให้มีความโดดเด่นทันสมัยมากขึ้นในทุกมิติ พร้อมเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอล ซึ่งฮอนด้าให้นิยามความโดดเด่นไว้ 4 ด้าน
1.ตอบรับทุกการใช้งานแบบมัลติฟังก์ชั่น (Multi-Function) ด้วยระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri Eyes Free Mode (สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป) รองรับการเชื่อมต่อ HondaLink Application (เฉพาะ Smart Phone บางรุ่น) จอแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นที่ให้การควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้ว ด้วยสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย
2.ขับสนุกเร้าใจ (Multi-Drive) เครื่องยนต์ i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร ผสานระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 146 นิวตัน-เมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด สะดวกสบายกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมี Eco Coaching ระบบแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน รวมทั้งปุ่ม Econ Mode เป็นระบบที่ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง โดยจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งปรับการทำงานของระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสมกับอุณหภูมิภายนอกรถ เพื่อช่วยควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถรองรับพลังงานทางเลือก E85
3.มาตรฐานความปลอดภัย (Multi-Safety) ด้วยโครงสร้างตัวถังแบบ G-Force Control (G-CON) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ซึ่งมีอยู่ในฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ทุกรุ่น นอกจากนี้ยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยกล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ ตลอดจนระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ (i-Side Airbag) พร้อมม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
4.ตอบรับทุกการใช้งานที่หลากหลาย (Multi-Utility) ด้วยเบาะนั่งอัลตร้า ซีทที่ปรับเปลี่ยนได้ 4 โหมด ได้แก่ Utility Mode, Long Mode, Tall Mode และเพิ่มโหมดใหม่ล่าสุด Refresh Mode ที่สามารถพับเบาะด้านหน้าเชื่อมต่อเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด ตอบสนองได้ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมที่วางแก้วน้ำมากสุด 9 ตำแหน่ง ที่วางโทรศัพท์มือถือ และกล่องเก็บแท็บเล็ต
สำหรับฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ มีให้เลือก 6 รุ่นย่อย ได่แก่ รุ่น S MT ราคา 5.55 แสนบาท, S AT ราคา 5.94 แสนบาท, V ราคา 6.54 แสนบาท, V+ ราคา 6.94 แสนบาท, SV ราคา 7.39 แสนบาท และรุ่น SV+ ราคา 7.54 แสนบาท
โดยมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และสีขาวทาฟเฟต้า และ 2 สีใหม่ ได้แก่ สีเหลืองแอทแทรค (มุก) สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) (สำหรับสีมุกเพิ่ม 6,000 บาท) ส่วนภายในห้องโดยสารทุกรุ่นเป็นสีดำ รุ่น S, V และ V+ เป็นเบาะผ้าสีดำ และรุ่น SV และ SV+ เป็นเบาะผ้าสีดำแบบสปอร์ต
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring