"ยูเอซี โกลบอล " เร่งวางแผนเดิมเกมรุกขยายธุรกิจเพิ่ม หวังดันมาร์เก็ตแคป ภายใน1-2 ปีนี้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว จากปัจจุบันอยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท หลังรับรู้รายได้ -กำไร จากธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มสูบ ด้านผู้บริหาร ระบุ คาดภายในปี 2558 บริษัทฯจะมีรายได้จากพลังงานทางเลือกมากกว่า 50% มั่นใจรายได้ปีนี้แตะระดับ 1.2 พันล้านบาท พร้อมเร่งสานต่อแผนการลงทุนเพิ่ม
นายชัชพล ประสพโชค รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายขาย การตลาด และปฏิบัติการ บริษัท ยูเอซี โกล บอล จำกัด(มหาชน) หรือ UAC ผู้ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทน และการนำเข้าและจำหน่ายสินค้าในอุตสาหกรรมพลังงาน
เปิดเผยว่า ภายในระยะเวลา 1-2 ปีจากนี้ บริษัทฯตั้งเป้ามูลค่าหลักทรัพย์ของราคาตลาด (Mkt.Cap.) ของบริษัทฯจะเติบโต ขึ้น 1 เท่าตัว จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 4,600 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2557-2558 จะเป็นช่วงที่รายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนชัดเจนขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และจะทำให้ราคาหลักทรัพย์ของบริษัทฯสะท้อนปัจจัยพื้นฐานในที่สุด
พร้อมทั้งนี้ บริษัทฯประมาณการรายได้รวมปีนี้ ไว้ที่ระดับ 1,200 ล้านบาท เติบโตจากปี 2556 ในอัตรา20% โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจพลังงานทางเลือก ประมาณ 20% ของรายได้รวม เปรียบเทียบกับปี 2556 ที่บริษัทฯยังไม่มีรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทน ขณะเดียวกันเชื่อว่าในปี 2558 สัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงาน จะมากกว่า 50% ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการให้มีสัดส่วนรายได้จากพลังงานทางเลือก 50% และจากธุรกิจซื้อมาขายไปกลุ่มสินค้าเคมีภัณฑ์ ประมาณ 50% เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากทางใดทางหนึ่งมากเกินไป
นอกจากนี้ นายชัชพล ยังได้กล่าวถึงโครงการโรงผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง (CBG) จ.เชียงใหม่ และโครงการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม( PPP) จ. สุโขทัย บริษัทฯจะรับรู้รายได้เต็มปีจากโครงการดังกล่าว อีกทั้งยังมีโครงการรับก่อสร้างโรงงานไบโอแก๊ส ที่ร่วมทุนกับบริษัท SEBIGAS (S.p.A) ผู้นำด้าน Bio-gas จากประเทศอิตาลี ภายใต้” UAC Energy “ รวม 4 โครงการ มูลค่ารวมราว 600 ล้านบาท ซึ่งคาดจะเริ่มทยอยก่อสร้างตั้งแต่ไตรมาส 2/2557 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 บริษัทฯยังมีแผนดำเนินโครงการก่อสร้างโรงผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง (CBG)เพิ่มเติม ให้ครบ 20 แห่งตามแผนที่กำหนดไว้ภายในปี 2558 โดยแบ่งเป็น ภาคเหนือ 10 แห่ง และอีสาน 10 แห่ง ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯได้ก่อสร้างในภาคเหนือไปแล้ว 4 แห่ง ส่วนในภาคอีสาน ก่อสร้างไปแล้ว 2 แห่ง โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2558 เป็นต้นไป
-2-
“ บริษัทฯ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขยายโรงงานไบโอดีเซล ซึ่งดำเนินการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับ บริษัท บางจากปิโตรเลียม (BCP) และกำลังก่อสร้างโครงการโซลาร์รูฟ อีก 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 1.3 เมกะวัตต์ ใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท รับรู้รายได้ประมาณ 40-50 ล้านบาทต่อปี ขณะนี้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและจะเริ่มรับรู้รายได้ 2 โครงการ ในไตรมาสสองนี้ ส่วนโครงการสุดท้ายจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2557 ” นายชัชพล กล่าว
สำหรับงบลงทุนในปี 2557 นั้น อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ยังไม่มีการปรับลดเพิ่มงบลงทุนในปีนี้ โดยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท จะใช้ลงทุนในโครงการโรงผลิตก๊าซชีวภาพ และโครงการโซลาร์รูฟ เป็นหลัก ขณะเดียวกันบริษัทฯมีการศึกษาการลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกอื่นๆ เช่น ชีวมวล และ Waste to Energy เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับบริษัทฯ โดยจะมุ่งเน้นการลงทุนในประเทศก่อน เพราะยังเห็นโอกาสการลงทุนอีกมาก