มิตซูบิชิ เผยตัวเลขยอดการขาย ไทรทัน ทะลุ 1,148,000 คันทั่วโลก และถือเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของรถกระบะไทยที่มาพร้อมกับความล้ำหน้าแห่งนวตกรรมในการออกแบบยานยนต์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง กับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และสมรรถนะช่วงล่างที่แข็งแกร่ง การันตีด้วยยอดขายที่ได้รับการตอบรับทั้งในและต่างประเทศ ทำให้มิตซูบิชิ ไทรทัน สามารถยืนหยัดและรักษาส่วนแบ่งของตลาดเอาไว้ได้เหนียวแน่น ตลอดระยะเวลา 9 ปี
นาย มาซะฮิโกะ อูเอะกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงความสำเร็จของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ซึ่งเปิดตัวสู่ตลาดเมืองไทยมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2548 ในฐานะผู้สร้าง“อารยธรรมใหม่” เป็นรถกระบะที่ให้สมรรถนะการขับขี่อันเป็นเยี่ยม ดีไซน์ทันสมัยโค้งมน รูปทรงโฉบเฉี่ยว ห้องโดยสารกว้างกว่าคู่แข่งทุกคันในตลาด ลบภาพรถกระบะแบบเดิมๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการบรรทุกเพียงอย่างเดียวออกไปได้อย่างสิ้นเชิง หลังจากเปิดตัวมาแล้วกว่า 9 ปี มิตซูบิชิ ไทรทัน ทำยอดขายนับจากวันแรกจนถึงปี 2557 รวมทั้งสิ้นกว่า 1,148,000 คัน แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 263,000 คัน และยอดส่งออกต่างประเทศ 885,000 คัน พร้อมกันนี้ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกว่า 158 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุโรป อาเซียน และตะวันออกกลาง ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นปรากฎการณ์ที่ตอกย้ำความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากความไว้วางใจของลูกค้าทั่วโลกเป็นอย่างดี
มิตซูบิชิ ไทรทัน เปิดตัวในปี 2548 มาพร้อมแนวคิด “อารยธรรมใหม่ของรถกระบะ” ซึ่งเป็นการจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของรถกระบะขนาด 1 ตันเมืองไทย จากรถที่เป็นกระบะขนของเพื่อการพาณิชย์อย่างเดียว มาเป็นรถกระบะแบบ Stylish SUV Pick-Up เน้นอรรถประโยชน์ใช้สอยในชีวิตส่วนตัวมากขึ้น ต่อมาในปี 2549 ได้แนะนำ มิตซูบิชิ ไทรทัน พลัส ขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง โดยดึงดาราชื่อดัง “จา พนม ยีรัม” ที่มีบุคลิกแข็งแกร่ง และเป็นที่รู้จักทั่วโลก มาสะท้อนความเป็น มิตซูบิชิ ไทรทัน ได้เป็นอย่างดี
ปี 2550 มิตซูบิชิ ไทรทัน ได้รับความนิยมอย่างสูงจากลูกค้าในประเทศอังกฤษ ด้วยรูปลักษณ์ใหม่และสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม ทำให้ มิตซูบิชิ ไทรทัน สามารถคว้ารางวัล “รถกระบะยอดเยี่ยมแห่งปี” จากนิตยสาร What Van? ซึ่งเป็นนิตยสารรถยนต์ชั้นนำประเทศอังกฤษ และในไทย มิตซูบิชิ ไทรทัน ยังได้รับรางวัล Car of the year 2007 ถึง 2 รางวัล คือ รางวัล"รถกระบะออกแบบยอดเยี่ยม” และ“รถกระบะยอดเยี่ยม” ประเภท ขับเคลื่อน 2 ล้อ ไม่เกิน 2500 ซีซี จนมาถึงปี 2551 มิตซูบิชิ ไทรทัน ทำการไมเนอร์เชนจ์เป็นครั้งแรก ต่อด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์ที่สามารถรองรับน้ำมันไบโอดีเซล B5 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E 20 ออกมาเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยลูกค้าประหยัดน้ำมันมากขึ้นในปี 2552 หลังจากนั้นไม่นาน มิตซูบิชิ กระตุ้นตลาดรถกระบะอีกครั้ง โดยการส่ง มิตซูบิชิ ไทรทัน ซีเอ็นจี เจาะกลุ่มลูกค้าใช้งานหนัก และเน้นในเรื่องความประหยัดเป็นหลัก
ในปี 2554 ได้แนะนำ มิตซูบิชิ ไทรทัน เครื่องยนต์ใหม่ 2.5 วีจี เทอร์โบ ซึ่งให้กำลังถึง 178 แรงม้า ซึ่งเป็นรถที่ให้แรงม้าสูงสุดในตลาดขณะนั้น โดยแต่งตั้ง “ตูน บอดี้สแลม” หรือ “อาทิตวราห์ คงมาลัย” นักร้องชั้นนำของเมืองไทย มาร่วมถ่ายทอดความแข็งแกร่งของรถในฐานะพรีเซ็นเตอร์คนที่สองของรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน ต่อมาในปี 2555 มิตซูบิชิ ไทรทัน มีการปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'เชื่อในพลัง มั่นในสไตล์' และล่าสุดได้มีการพัฒนาแบบเต็มขั้น ซึ่งเกิดจากการศึกษาและพัฒนา โดยอาศัยข้อมูลพื้นฐานของความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก มีการเพิ่ม เนวิเกเตอร์ เครื่องเสียง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “รถคุ้มค่า” มาพร้อมทั้งสมรรถนะและช่วงล่างที่แข็งแกร่งเช่นเคย รวมถึงความปลอดภัยขั้นสูง จากภายในห้องโดยสารด้วยถุงลมนิรภัย SRS ซึ่งทำงานร่วมกับระบบเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ พร้อมกับระบบเบรกที่แม่นยำด้วยระบบ EBD ซึ่งทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS แบบ 4 แชนแนล 4 เซ็นเซอร์ สามารถควบคุมทิศทางในการหักหลบได้ทันที ด้านโครงสร้างภายนอก ยังปลอดภัยเป็นสองเท่ากับตัวถังนิรภัยเหล็กกล้า Rise Body ซึ่งถูกดีไซน์ขึ้นเพื่อลดการยุบตัวของห้องโดยสาร เพื่อให้เกิดการเสียหายน้อยที่สุด
ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา กับความสำเร็จที่ได้รับการตอบรับของลูกค้า นาย มาซะฮิโกะ อูเอะกิ กล่าวว่า "มิตซูบิชิทุ่มเทอย่างหนักในการพัฒนาคุณภาพรถยนต์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างสูงสุด ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการศึกษาวิจัย ทดสอบ และวิเคราะห์ ในด้านเทคโนโลยียานยนต์เฉพาะทาง เพื่อให้ได้เทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยการพัฒนาแบบไม่หยุดยั้ง ทำให้มิตซูบิชิสามารถครองใจลูกค้าที่มีความหลากหลายทั่วโลก ทำให้ยอดขายมิตซูบิชิ ไทรทันสูงกว่า 1,148,000 คัน นับเป็นอีกหนึ่งผลงานที่สร้างสรรค์ และพัฒนาโดย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม โดยได้รับการตอบรับการสนับสนุนจากลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมไปถึงรางวัลอีก 18 รางวัล
“ผมขอบคุณลูกค้ามิตซูบิชิทุกๆคนที่ไว้วางใจในรถยนต์มิตซูบิชิ เราสัญญาว่าเราจะไม่หยุดยั้งการพัฒนา เราจะมุ่งมั่นและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างสรรค์ยนตรกรรมให้ตรงความต้องการของลูกค้า โดยการสร้างสินค้าที่มีความแข็งแกร่งมาตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน การใช้งานในเชิงพาณิชย์” มาซะฮิโกะ อูเอะกิ กล่าวตบท้าย
นาย มาซะฮิโกะ อูเอะกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงความสำเร็จของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ซึ่งเปิดตัวสู่ตลาดเมืองไทยมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2548 ในฐานะผู้สร้าง“อารยธรรมใหม่” เป็นรถกระบะที่ให้สมรรถนะการขับขี่อันเป็นเยี่ยม ดีไซน์ทันสมัยโค้งมน รูปทรงโฉบเฉี่ยว ห้องโดยสารกว้างกว่าคู่แข่งทุกคันในตลาด ลบภาพรถกระบะแบบเดิมๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการบรรทุกเพียงอย่างเดียวออกไปได้อย่างสิ้นเชิง หลังจากเปิดตัวมาแล้วกว่า 9 ปี มิตซูบิชิ ไทรทัน ทำยอดขายนับจากวันแรกจนถึงปี 2557 รวมทั้งสิ้นกว่า 1,148,000 คัน แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 263,000 คัน และยอดส่งออกต่างประเทศ 885,000 คัน พร้อมกันนี้ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกว่า 158 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุโรป อาเซียน และตะวันออกกลาง ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นปรากฎการณ์ที่ตอกย้ำความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากความไว้วางใจของลูกค้าทั่วโลกเป็นอย่างดี
มิตซูบิชิ ไทรทัน เปิดตัวในปี 2548 มาพร้อมแนวคิด “อารยธรรมใหม่ของรถกระบะ” ซึ่งเป็นการจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของรถกระบะขนาด 1 ตันเมืองไทย จากรถที่เป็นกระบะขนของเพื่อการพาณิชย์อย่างเดียว มาเป็นรถกระบะแบบ Stylish SUV Pick-Up เน้นอรรถประโยชน์ใช้สอยในชีวิตส่วนตัวมากขึ้น ต่อมาในปี 2549 ได้แนะนำ มิตซูบิชิ ไทรทัน พลัส ขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง โดยดึงดาราชื่อดัง “จา พนม ยีรัม” ที่มีบุคลิกแข็งแกร่ง และเป็นที่รู้จักทั่วโลก มาสะท้อนความเป็น มิตซูบิชิ ไทรทัน ได้เป็นอย่างดี
ปี 2550 มิตซูบิชิ ไทรทัน ได้รับความนิยมอย่างสูงจากลูกค้าในประเทศอังกฤษ ด้วยรูปลักษณ์ใหม่และสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม ทำให้ มิตซูบิชิ ไทรทัน สามารถคว้ารางวัล “รถกระบะยอดเยี่ยมแห่งปี” จากนิตยสาร What Van? ซึ่งเป็นนิตยสารรถยนต์ชั้นนำประเทศอังกฤษ และในไทย มิตซูบิชิ ไทรทัน ยังได้รับรางวัล Car of the year 2007 ถึง 2 รางวัล คือ รางวัล"รถกระบะออกแบบยอดเยี่ยม” และ“รถกระบะยอดเยี่ยม” ประเภท ขับเคลื่อน 2 ล้อ ไม่เกิน 2500 ซีซี จนมาถึงปี 2551 มิตซูบิชิ ไทรทัน ทำการไมเนอร์เชนจ์เป็นครั้งแรก ต่อด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์ที่สามารถรองรับน้ำมันไบโอดีเซล B5 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E 20 ออกมาเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยลูกค้าประหยัดน้ำมันมากขึ้นในปี 2552 หลังจากนั้นไม่นาน มิตซูบิชิ กระตุ้นตลาดรถกระบะอีกครั้ง โดยการส่ง มิตซูบิชิ ไทรทัน ซีเอ็นจี เจาะกลุ่มลูกค้าใช้งานหนัก และเน้นในเรื่องความประหยัดเป็นหลัก
ในปี 2554 ได้แนะนำ มิตซูบิชิ ไทรทัน เครื่องยนต์ใหม่ 2.5 วีจี เทอร์โบ ซึ่งให้กำลังถึง 178 แรงม้า ซึ่งเป็นรถที่ให้แรงม้าสูงสุดในตลาดขณะนั้น โดยแต่งตั้ง “ตูน บอดี้สแลม” หรือ “อาทิตวราห์ คงมาลัย” นักร้องชั้นนำของเมืองไทย มาร่วมถ่ายทอดความแข็งแกร่งของรถในฐานะพรีเซ็นเตอร์คนที่สองของรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน ต่อมาในปี 2555 มิตซูบิชิ ไทรทัน มีการปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'เชื่อในพลัง มั่นในสไตล์' และล่าสุดได้มีการพัฒนาแบบเต็มขั้น ซึ่งเกิดจากการศึกษาและพัฒนา โดยอาศัยข้อมูลพื้นฐานของความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก มีการเพิ่ม เนวิเกเตอร์ เครื่องเสียง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “รถคุ้มค่า” มาพร้อมทั้งสมรรถนะและช่วงล่างที่แข็งแกร่งเช่นเคย รวมถึงความปลอดภัยขั้นสูง จากภายในห้องโดยสารด้วยถุงลมนิรภัย SRS ซึ่งทำงานร่วมกับระบบเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ พร้อมกับระบบเบรกที่แม่นยำด้วยระบบ EBD ซึ่งทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS แบบ 4 แชนแนล 4 เซ็นเซอร์ สามารถควบคุมทิศทางในการหักหลบได้ทันที ด้านโครงสร้างภายนอก ยังปลอดภัยเป็นสองเท่ากับตัวถังนิรภัยเหล็กกล้า Rise Body ซึ่งถูกดีไซน์ขึ้นเพื่อลดการยุบตัวของห้องโดยสาร เพื่อให้เกิดการเสียหายน้อยที่สุด
ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา กับความสำเร็จที่ได้รับการตอบรับของลูกค้า นาย มาซะฮิโกะ อูเอะกิ กล่าวว่า "มิตซูบิชิทุ่มเทอย่างหนักในการพัฒนาคุณภาพรถยนต์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างสูงสุด ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการศึกษาวิจัย ทดสอบ และวิเคราะห์ ในด้านเทคโนโลยียานยนต์เฉพาะทาง เพื่อให้ได้เทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยการพัฒนาแบบไม่หยุดยั้ง ทำให้มิตซูบิชิสามารถครองใจลูกค้าที่มีความหลากหลายทั่วโลก ทำให้ยอดขายมิตซูบิชิ ไทรทันสูงกว่า 1,148,000 คัน นับเป็นอีกหนึ่งผลงานที่สร้างสรรค์ และพัฒนาโดย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม โดยได้รับการตอบรับการสนับสนุนจากลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมไปถึงรางวัลอีก 18 รางวัล
“ผมขอบคุณลูกค้ามิตซูบิชิทุกๆคนที่ไว้วางใจในรถยนต์มิตซูบิชิ เราสัญญาว่าเราจะไม่หยุดยั้งการพัฒนา เราจะมุ่งมั่นและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างสรรค์ยนตรกรรมให้ตรงความต้องการของลูกค้า โดยการสร้างสินค้าที่มีความแข็งแกร่งมาตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน การใช้งานในเชิงพาณิชย์” มาซะฮิโกะ อูเอะกิ กล่าวตบท้าย