ASTVผู้จัดการรายวัน-หอการค้าไทยเผยวันวาเลนไทน์และมาฆบูชาปีนี้กร่อยสุดๆ หลังเศรษฐกิจแย่ การเมืองป่วน ทำคนซื้อของน้อยลง เผยคนไทยอยากมอบดอกกุหลาบให้ "สุเทพ" เบอร์หนึ่ง ร้านสังฆภัณฑ์โอดยอดขายตก คนทำบุญน้อยลง ส่วนมิสลิลลี่ ร้านดอกไม้ชื่อดัง บ่นอุบยอดขายต่ำสุดรอบ 10 ปี
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนช่วงวันวาเลนไทน์และมาฆบูชา ปี 2557 จากประชาชน 1,200 ตัวอย่างว่า ปีนี้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงวันวาเลนไทน์และวันมาฆบูชา จะมีเงินใช้จ่ายรวม 6,251 ล้านบาท คึกคักน้อยกว่าปีก่อน เนื่องจากประชาชนกังวลเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ สินค้าแพง รวมถึงได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ทำให้ไม่มีความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย
ทั้งนี้ การใช้จ่ายดังกล่าว แยกเป็นการใช้จ่ายเฉพาะวันวาเลนไทน์ 3,361 ล้านบาท เติบโต 4.7% ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 8 ปี โดยปีนี้คนไทยให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์มากขึ้นอยู่ที่ 41.9% แต่ซื้อสินค้าต่อชิ้นน้อยลง และเลือกฉลองวันแห่งความรักแบบประหยัด ทำให้สินค้าหรือร้านอาหารราคาแพงอาจได้รับความนิยมน้อยกว่าปีก่อน มีค่าใช้จ่ายในการซื้อของขวัญให้กับคู่รักเฉลี่ยอยู่ที่ 996 บาท โดยกลุ่มวัยรุ่นเป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจมากสุด สำหรับกิจกรรมที่นิยมในวันวาเลนไทน์ ได้แก่ ซื้อดอกไม้ ไปกินข้าวนอกบ้าน เดินห้าง ซื้อช็อกโกแลต ไปบ้านแฟน ไปดูหนัง
ส่วนวันมาฆบูชาใช้จ่ายรวม 2,890 ล้านบาท เติบโต 4.4% ต่ำสุดในรอบ 4 ปี มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 2,318 บาท โดยกิจกรรมนิยมไปทำบุญ ตักบาตร ซื้อสังฆภัณฑ์ ปล่อยนกปล่อยปลา ไปเวียนเทียน และพบว่าคนหันมาทำบุญเพิ่มกับคู่รัก ครอบครัวมากขึ้น เนื่องจากตรงกับวันแห่งความรัก และบางส่วนยังใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี การเมืองกับสังคมมีปัญหาวุ่นวาย รวมทั้งยังพบว่า คนยังเริ่มนำเงินออมมาใช้ในการทำบุญเพิ่ม เนื่องจากรายได้ ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย
นายธนวรรธน์กล่าวว่า สำหรับบุคคลที่กลุ่มตัวอย่างต้องการมอบดอกกุหลาบให้ในวันวาเลนไทน์มากที่สุด ในกลุ่มนักการเมือง อันดับ 1 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. 10.1% รองลงมาเป็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 9.1% นายบรรหาร ศิลปอาชา 6% นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 5.8% และนายองอาจ คร้ามไพบูลย์ ส่วนกลุ่มนักแสดงอันดับ 1 เจมส์ จิ 3.4% เคน ธีรเดช 3% หมาก-ปริญ 2.8% ญาญ่า 2.2% เจมส์ มาร์ 2.2% ขณะที่นักร้องอันดับ 1 ใบเตย อาร์สยาม 5.9% ตูน บอดี้สแลม 4.4% โตโน่ 3.6% กระแต 3.6% กัน เดอะสตาร์ 3.4%
ส่วนพฤติกรรมการฉลองวาเลนไทน์ พบว่าคนไทยเปิดกว้างยอมรับรสนิยมชาวตะวันตกเพิ่มขึ้น ทั้งการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน หรือยอมรับสามีและภรรยาที่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน และยังพบว่ากลุ่มวัยทำงานที่ยังโสดน่าจะมีการฉลองสูงสุด รองลงมาเป็นกลุ่มนักศึกษา นักเรียน และคู่สมรส สำหรับสถานที่ที่มีการฉลองมีเพศสัมพันธ์ กลุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปี นิยมเลือกในบ้านที่ไม่มีใครอยู่ ส่วนกลุ่มวัยรุ่นอายุ 19 ปีขึ้นไป จนถึงวัยทำงานนิยมใช้ห้องพักรายวัน
นายสกล แสงมาลี ประธานกรรมการ บริษัท สังฆภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า ยอดขายสินค้าทำบุญในวันมาฆบูชาปีนี้ไม่คึกคัก เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหากำลังซื้อที่ชะลอตัวลง และยังได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองในขณะนี้ที่ทำให้คนชะลอการใช้จ่าย ทำให้การซื้อของทำบุญลดน้อยลง แต่คนกลับหันเข้าวัดทำบุญมากขึ้น เพราะปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง
นายเรวัต จินดาพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิสลิลลี่ จำกัด ผู้ให้บริการจัดดอกไม้ กล่าวว่า ภาพรวมการซื้อดอกไม้ในวันวาเลนไทน์ปีนี้ เงียบเหงามากที่สุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากต้องเจอกับวิกฤติศรษฐกิจและการเมือง ทำให้ลูกค้าระดับกลางลงไปมีกำลังซื้อน้อยลง ส่งผลให้ลูกค้ากลุ่มนี้ลดลงจากเดิมถึง 50% ขณะที่สภาพอากาศในปีนี้ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ดอกกุหลาบจากประเทศจีนขาดตลาด จึงต้องนำเข้าดอกไม้จากทวีปยุโรปมาแทน ซึ่งมีราคาสูงว่าดอกไม้ทั่วไปถึง 3 เท่า จึงคาดว่ายอดขายในช่วงวาเลนไทน์ปีนี้จะเงียบเหงา จากที่ปกติจะขายช่อดอกไม้ได้ประมาณ 1,000 ช่อในช่วงวาเลนไทน์ แต่ปีนี้คาดว่าจะขายได้เพียง 600-700 ช่อเท่านั้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนช่วงวันวาเลนไทน์และมาฆบูชา ปี 2557 จากประชาชน 1,200 ตัวอย่างว่า ปีนี้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงวันวาเลนไทน์และวันมาฆบูชา จะมีเงินใช้จ่ายรวม 6,251 ล้านบาท คึกคักน้อยกว่าปีก่อน เนื่องจากประชาชนกังวลเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ สินค้าแพง รวมถึงได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ทำให้ไม่มีความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย
ทั้งนี้ การใช้จ่ายดังกล่าว แยกเป็นการใช้จ่ายเฉพาะวันวาเลนไทน์ 3,361 ล้านบาท เติบโต 4.7% ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 8 ปี โดยปีนี้คนไทยให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์มากขึ้นอยู่ที่ 41.9% แต่ซื้อสินค้าต่อชิ้นน้อยลง และเลือกฉลองวันแห่งความรักแบบประหยัด ทำให้สินค้าหรือร้านอาหารราคาแพงอาจได้รับความนิยมน้อยกว่าปีก่อน มีค่าใช้จ่ายในการซื้อของขวัญให้กับคู่รักเฉลี่ยอยู่ที่ 996 บาท โดยกลุ่มวัยรุ่นเป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจมากสุด สำหรับกิจกรรมที่นิยมในวันวาเลนไทน์ ได้แก่ ซื้อดอกไม้ ไปกินข้าวนอกบ้าน เดินห้าง ซื้อช็อกโกแลต ไปบ้านแฟน ไปดูหนัง
ส่วนวันมาฆบูชาใช้จ่ายรวม 2,890 ล้านบาท เติบโต 4.4% ต่ำสุดในรอบ 4 ปี มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 2,318 บาท โดยกิจกรรมนิยมไปทำบุญ ตักบาตร ซื้อสังฆภัณฑ์ ปล่อยนกปล่อยปลา ไปเวียนเทียน และพบว่าคนหันมาทำบุญเพิ่มกับคู่รัก ครอบครัวมากขึ้น เนื่องจากตรงกับวันแห่งความรัก และบางส่วนยังใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี การเมืองกับสังคมมีปัญหาวุ่นวาย รวมทั้งยังพบว่า คนยังเริ่มนำเงินออมมาใช้ในการทำบุญเพิ่ม เนื่องจากรายได้ ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย
นายธนวรรธน์กล่าวว่า สำหรับบุคคลที่กลุ่มตัวอย่างต้องการมอบดอกกุหลาบให้ในวันวาเลนไทน์มากที่สุด ในกลุ่มนักการเมือง อันดับ 1 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. 10.1% รองลงมาเป็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 9.1% นายบรรหาร ศิลปอาชา 6% นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 5.8% และนายองอาจ คร้ามไพบูลย์ ส่วนกลุ่มนักแสดงอันดับ 1 เจมส์ จิ 3.4% เคน ธีรเดช 3% หมาก-ปริญ 2.8% ญาญ่า 2.2% เจมส์ มาร์ 2.2% ขณะที่นักร้องอันดับ 1 ใบเตย อาร์สยาม 5.9% ตูน บอดี้สแลม 4.4% โตโน่ 3.6% กระแต 3.6% กัน เดอะสตาร์ 3.4%
ส่วนพฤติกรรมการฉลองวาเลนไทน์ พบว่าคนไทยเปิดกว้างยอมรับรสนิยมชาวตะวันตกเพิ่มขึ้น ทั้งการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน หรือยอมรับสามีและภรรยาที่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน และยังพบว่ากลุ่มวัยทำงานที่ยังโสดน่าจะมีการฉลองสูงสุด รองลงมาเป็นกลุ่มนักศึกษา นักเรียน และคู่สมรส สำหรับสถานที่ที่มีการฉลองมีเพศสัมพันธ์ กลุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปี นิยมเลือกในบ้านที่ไม่มีใครอยู่ ส่วนกลุ่มวัยรุ่นอายุ 19 ปีขึ้นไป จนถึงวัยทำงานนิยมใช้ห้องพักรายวัน
นายสกล แสงมาลี ประธานกรรมการ บริษัท สังฆภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า ยอดขายสินค้าทำบุญในวันมาฆบูชาปีนี้ไม่คึกคัก เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหากำลังซื้อที่ชะลอตัวลง และยังได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองในขณะนี้ที่ทำให้คนชะลอการใช้จ่าย ทำให้การซื้อของทำบุญลดน้อยลง แต่คนกลับหันเข้าวัดทำบุญมากขึ้น เพราะปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง
นายเรวัต จินดาพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิสลิลลี่ จำกัด ผู้ให้บริการจัดดอกไม้ กล่าวว่า ภาพรวมการซื้อดอกไม้ในวันวาเลนไทน์ปีนี้ เงียบเหงามากที่สุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากต้องเจอกับวิกฤติศรษฐกิจและการเมือง ทำให้ลูกค้าระดับกลางลงไปมีกำลังซื้อน้อยลง ส่งผลให้ลูกค้ากลุ่มนี้ลดลงจากเดิมถึง 50% ขณะที่สภาพอากาศในปีนี้ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ดอกกุหลาบจากประเทศจีนขาดตลาด จึงต้องนำเข้าดอกไม้จากทวีปยุโรปมาแทน ซึ่งมีราคาสูงว่าดอกไม้ทั่วไปถึง 3 เท่า จึงคาดว่ายอดขายในช่วงวาเลนไทน์ปีนี้จะเงียบเหงา จากที่ปกติจะขายช่อดอกไม้ได้ประมาณ 1,000 ช่อในช่วงวาเลนไทน์ แต่ปีนี้คาดว่าจะขายได้เพียง 600-700 ช่อเท่านั้น