xs
xsm
sm
md
lg

นิชคาร์เสริมทัพแมคราเลน-ทุ่ม800ล้านผุดโชว์รูมมัลติแบรนด์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในภาวะเศรษฐกิจ-การเมืองอึมครึม กำลังเผชิญกับช่วงเวลาอันยากลำบาก ทว่าสภาพการซื้อ-ขายรถยนต์ระดับหรูหรา หรือบรรดาซูเปอร์คาร์ที่ตลาดอยู่เหนือภาวะเศรษฐกิจ แทบจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเงื่อนไขการขายมักขึ้นอยู่กับจังหวะการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ และระยะเวลาส่งมอบให้ทันกับความต้องการของลูกค้าเสียมากกว่า
วิทวัส ชินบารมี
ค่าย “นิชคาร์” ผู้แทนจำหน่ายรถสปอร์ตและซูเปอร์คาร์ชั้นนำ ทั้ง ลัมบอร์กินี โลตัส ปากานี โคนิกเซกก์ ล่าสุดในงาน Super Car & Import Car Show ที่กำลังจัดระหว่าง 10 -18 พฤษภาคมนี้ ที่เอ็กซิบิชันฮอลล์ 7-8 อิมแพค เมืองทองธานี ยังประกาศเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “แมคราเลน” (Mclaren)เข้ามาเสริมทัพอย่างเป็นทางการ

โดย“แมคราเลน”เป็นแบรนด์ดังระดับตำนานของอังกฤษ ที่เข้ามาอยู่ในสังกัดของ“นิชคาร์” ที่นำโดย “วิทวัส ชินบารมี” ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง พร้อมประเดิมนำเข้ารุ่น 650S มีให้เลือกทั้งตัวถังแบบหลังคาแข็ง และเปิดหลังคา (Spider)

สำหรับ Mclaren 650S เป็นซูเปอร์คาร์ที่พัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นพี่ MP4-12C โดยเครื่องยนต์วางกลางแบบ วี8 ขนาด 3.8 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด650 แรงม้า ที่ 7,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 678นิวตัน-เมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ดูอัลคลัทช์ 7 สปีด สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ 3.0 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด 333 กม./ชม. ซึ่งรุ่นหลังคาแข็งติดป้ายขายไว้ 26 ล้านบาท และรุ่นเปิดหลังคา 27.5 ล้านบาท

“เราภูมิใจมากหลังใช้เวลากว่า 4 ปี ในการแสดงความตั้งใจในการร่วมธุรกิจ และพูดคุยกับบริษัทแม่ McLaren Automotive จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพราะแมคราเลนเป็นแบรนด์ดังระดับโลก สร้างชื่อในการแข่งรถยนต์สูตรหนึ่ง (F1) มากว่า 50 ปี หรือนับเป็นคู่ต่อสู้โดยตรงกับเฟอรารี่นั่นเอง ซึ่งเราเชื่อว่าจะได้การตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างดี” วิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ จำกัด กล่าวและว่า
Mclaren 650S

ถึงวันนี้มีลูกค้าจอง Mclaren 650S มาแล้ว 6 คัน แบ่งเป็นรุ่นสไปเดอร์ 5 คัน และหลังคาแข็ง 1 คัน ส่วนตัวแรงรุ่นใหญ่ P1 วางเครื่องยนต์ วี8 ขนาด 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรง ให้กำลังระดับ 916 แรงม้า ที่ผลิตจำนวนจำกัดทั่วโลก 375 คัน ปัจจุบันมีการสั่งจองผ่านบริษัทเข้ามา 1 คันแล้ว

ในอนาคตหรือประมาณปีกว่าๆ แมคราเลนเตรียมผลิตซูเปอร์คาร์ระดับที่เล็กกว่า P1 และ 650S ออกมาทำตลาด ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีทางเลือกหลากลาย ทั้งนี้บริษัทยังคาดหวังกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบรถสมรรถนะสูงจะเปลี่ยนจากแบรนด์อื่นมาสนใจแมคราเลนเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับ “ลัมบอร์กินี” ที่มีลูกค้าหน้าใหม่ๆให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ

นายวิทวัส ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงแบรนด์ลัมบอร์กินีว่า รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Huracan LP610-4 พร้อมนำเข้ามาส่งมอบให้ลูกค้าที่สั่งจองได้ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ โดยบริษัทได้โควต้าล็อตแรกมา 20 คัน และถึงสิ้นปี 2557 น่าจะส่งมอบได้จำนวน 17-18 คันเป็นอย่างต่ำ

สำหรับ “ฮูราคัน” เป็นซูเปอร์คาร์ขนาดกลางที่เปิดตัวในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2014 เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในฐานะตัวแทนของ “กัลญาร์โด้” พกเครื่องยนต์วี10 ขนาด 5.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 610 แรงม้า (ตามชื่อรุ่น) ที่ 8,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 57 กก.-ม. ที่ 6,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ดูอัลคลัทช์ 7 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.ได้ในเวลา 3.2 วินาที
Lamborghini Huracan LP610-4

อย่างไรก็ตามเพื่อรองรับกับการเจริญเติบโตของธุรกิจ “นิชคาร์” ยังเตรียมเปิดโชว์รูม-ศูนย์บริการแห่งใหม่ บนพื้นที่ 15,000 ตรม.ริมถนนมอเตอร์เวย์ ขาเข้าถนนพระราม9 พร้อมรวบรวมรถในสังกัดอย่าง แมคราเลน ลัมบอร์กินี โลตัส ปากานี โคนิกเซกก์ ไว้ในที่แห่งเดียว

“เราลงทุนไปกว่า 800 ล้านบาท สร้างโชว์รูม-ศูนย์บริการซูเปอร์คาร์ที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย โดยเฟสแรกจะเป็นตึก 4 ชั้น หน้ากว้าง 200 เมตร แบ่งโซนของรถยนต์ทุกยี่ห้อในสัดส่วนเท่าๆกัน แต่ออกแบบตามข้อกำหนดและสไตล์ของแบรนด์นั้นๆตามมาตรฐานของบริษัทแม่ พร้อมรองรับการขาย บริการหลังการขายด้วยเครื่องมือทันสมัย มีช่องซ่อม มีไดโนเทส และห้องทำสีครบวงจร”

“ขณะเดียวกันยังมีร้านอาหาร มุมสังสรรค์ จุดบริการน้ำมัน ซึ่งเราเตรียมขายน้ำมันเบนซินออกเทน 98 รองรับบรรดาซูเปอร์คาร์โดยเฉพาะ ซึ่งโชว์รูมดังกล่าวกำลังอยู่ขั้นตอนสุดท้ายของการเก็บงาน คาดว่า อีก 2-3 เดือนจะเสร็จเรียบร้อย สามารถเปิดให้บริการได้ทันที พร้อมรองรับรถทุกแบรนด์ที่เราถืออยู่ในปัจจุบัน รวมถึงแบรนด์ใหม่ที่กำลังเจรจาเป็นตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเติม ที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้”นายวิทวัส กล่าวปิดท้าย
Mclaren P1


กำลังโหลดความคิดเห็น