xs
xsm
sm
md
lg

“กู๊ดเยียร์” เผยยอดขายยางไตรมาสแรกทั่วโลก 40 ล้านเส้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวต่างประเทศ-กู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ สหรัฐอเมริกา (หรือชื่อย่อในตลาดหุ้นแนสแด็ก GT) แถลงผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2557 มีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น โดยมียอดขายยางรถยนต์จำนวนทั้งสิ้น 40 ล้านเส้น เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ริชาร์ด เจ. เครเมอร์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด สหรัฐอเมริกา เผยว่า “รายได้จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นของบริษัทสะท้อนให้เห็นว่า กลยุทธ์การดำเนินงานของเราใช้ได้ผล ทำให้บริษัทยังคงมีผลการดำเนินงานที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสที่ผ่านมา แม้ว่าบริษัทต้องชำระค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินเวเนซุเอลา แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง และตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมกันนี้ บริษัทได้ประกาศยืนยันเป้าทางการเงินสำหรับปี 2557
ถึง 2559”

“กู๊ดเยียร์มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในตลาดกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิภาคอเมริกาเหนือที่มีกำไรเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 23 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะมีการเติบโตในตลาดอเมริกาเหนือและยุโรป แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทในตลาดเกิดใหม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกทางด้านความแปรปรวนของอัตราแลกเปลี่ยนและปัญหาเศรษฐกิจ”

สำหรับไตรมาสแรกของปี 2557 กู๊ดเยียร์มียอดขาย 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มียอดขาย 4,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเกิดจากยอดขายในกลุ่มธุรกิจประเภทยาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจการจำหน่ายเคมีภัณฑ์ที่ผลิตโดยบริษัทคู่ค้าในภูมิภาคอเมริกาเหนือที่มีมูลค่าลดลง 202 ล้านเหรียญสหรัฐ ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนคิดเป็นมูลค่า 126 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงกลยุทธ์ราคาและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ลดลง 98 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นผลจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ขณะที่ปริมาณการขายยางรถยนต์เพิ่มขึ้น 44 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยปริมาณยางรถยนต์ที่จำหน่ายได้ทั้งหมดในไตรมาส 1 ของปี 2557 มีจำนวนทั้งสิ้น 40 ล้านเส้น เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ร้อยละ 1 ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์กู๊ดเยียร์ในตลาดยางติดรถ (Original Equipment: OE) ลดลงร้อยละ 2 แต่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ในตลาดยางรถยนต์ทดแทน (Replacement) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3

“กู๊ดเยียร์เชื่อมั่นว่า ผลประกอบการตลอดทั้งปี 2557 จะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 2 - 3 แม้ว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบจากสภาวะอากาศหนาวจัดอย่างรุนแรงในภูมิภาคอเมริกาเหนือ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา รวมทั้งประสบปัญหาแรงงานและเศรษฐกิจในเวเนซุเอลาในไตรมาสนี้” เครเมอร์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 1/2557 นี้ บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิที่ส่งผลต่อผู้ถือหุ้นคิดเป็นมูลค่า 58 ล้านเหรียญสหรัฐ (23 เซ็นต์ต่อหุ้น) ซึ่งเป็นผลจากการจ่ายค่าธรรมเนียมจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินเวเนซุเอลาหลังหักภาษีคิดเป็นมูลค่า 132 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้กู๊ดเยียร์มีกำไรสุทธิสำหรับจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญคิดเป็นมูลค่า 26 ล้านเหรียญสหรัฐ (10 เซ็นต์ต่อหุ้น) โดยมูลค่าต่อหุ้นคิดตามหลักการบัญชีแบบปรับลด

สำหรับรายได้จากการดำเนินงานในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ของไตรมาส 1/2557 มีมูลค่า 373 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2556 ซึ่งเป็นผลจากการประหยัดต้นทุนได้ถึง 111 ล้านเหรียญสหรัฐ มีค่าใช้จ่ายต่อหัวลดลง 48 ล้านเหรียญสหรัฐ อันเนื่องมาจากบริษัทมีระดับการผลิตเพิ่มขึ้น และมีกลยุทธ์ราคาและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ไม่รวมวัตถุดิบที่สร้างรายได้เพิ่มขึ้น 17 ล้านเหรียญสหรัฐ (ไม่รวมถึงการลดต้นทุนด้านวัตถุดิบ) อย่างไรก็ตาม บริษัทประสบภาวะเงินเฟ้อ 75 ล้านเหรียญสหรัฐ มีค่าใช้จ่ายด้านการขาย การบริหารและทั่วไป (SAG) เพิ่มขึ้น 22 ล้านเหรียญสหรัฐ และได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนคิดเป็นมูลค่า 16 ล้านเหรียญสหรัฐ

ขณะที่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กู๊ดเยียร์มียอดขายคิดเป็นมูลค่า 492 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 13 จากปีที่ผ่านมา โดยมีปริมาณการขายยางรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 แต่มีการใช้กลยุทธ์ราคาและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ไม่รวมวัตถุดิบที่สร้างรายได้ลดลง ทั้งยังได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนคิดเป็น 41 ล้านเหรียญสหรัฐ และยอดขายในกลุ่มธุรกิจประเภทยางลดลง 6 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์กู๊ดเยียร์ในตลาดยางติดรถ (Original Equipment: OE) อยู่ในระดับทรงตัว แต่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ในตลาดยางรถยนต์ทดแทน (Replacement) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3

กำไรจากการดำเนินงานรวมทั้งสิ้นคิดเป็น 65 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 23 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีต้นทุนในการเริ่มกิจการโรงงานลดลง 11 ล้านเหรียญสหรัฐและมีการชำระค่าสินไหมทดแทนลดลง 7 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่บริษัทก็ยังได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนคิดเป็น 8 ล้านเหรียญสหรัฐ มีค่าใช้จ่ายด้านการขาย การบริหารและทั่วไป (SAG) ที่เพิ่มขึ้นอีก 7 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการใช้กลยุทธ์ราคา/ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ไม่รวมวัตถุดิบที่สร้างรายได้ลดลง 2 ล้านเหรียญสหรัฐ

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring

กำลังโหลดความคิดเห็น