ข่าวในประเทศ - บิ๊กสรรพสามิตยิ้มรับยอดรถงานโมเตอร์โชว์พุ่ง 4 หมื่นคัน คาดจัดเก็บภาษีรถยนต์เพิ่มมากกว่า 4 พันล้านบาท ส่งผลต่อเนื่องภาษีน้ำมันได้รับอานิสงส์ด้วย แม้รถรุ่นใหม่ใช้น้ำมัน E85 ที่มูลค่าการจัดเก็บต่ำ
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2014 ที่ผ่านมา มียอดจองซื้อรถยนต์สูงกว่า 4 หมื่นคันถือเป็นสัญญาณที่ดีในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ของกรมสรรพสามิต โดยเมื่อหากประเมินตัวเลขการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต จากการจองรถในครั้งนี้จะสามารถจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ได้มากกว่า 4 พันล้านบาท โดยเฉพาะหากรถยนต์หรูมียอดขายที่สูงการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย
แต่ทั้งนี้กรมสรรพสามิตต้องพิจารณาประกอบด้วยว่าจากยองจองซื้อรถดังกล่าวมีการส่งมอบรถเมื่อไร ในระยะ 3 – 5 เดือน หรือยาวนานกว่านั้นก็จะส่งผลต่อการจัดเก็บภาษีด้วยเช่นกัน ซึ่งถือว่าการจัดงานงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2014 ในครั้งนี้เป็นการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศที่ซบเซาจากสถานการณ์ทางการเมืองได้เป็นอย่างดี นอกจากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสินค้าชนิดอื่นๆ
“โดยหลักๆ แล้วกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้จากฐานการบริโภคของประชาชนในประเทศ หากความเชื่อมั่นของครัวเรือนได้รับผลกระทบมีว่าจะจากปัจจัยใดก็ตามก็ส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยและส่งผลต่อเนื่องกับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตด้วยเช่นกัน การจัดงานงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2014 ช่วยกระตุ้นการซื้อรถยนต์ได้มากหลังจากสิ้นสุดโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาที่กำลังซื้อรถยนต์ของประชาชนหดตัวลง” นายสมชายกล่าว
นายสมชายกล่าวว่า ขณะเดียวกันเมื่อมียอดขายรถยนต์ที่สูงขึ้นจะส่งผลดีต่อการจัดเก็บภาษีน้ำมันตามมาด้วยเช่นกัน แม้ว่าในระยะหลังผู้ประกอบการรถยนต์แต่ละค่ายจะผลิตรถยนต์ที่สามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 และอี 85 ออกมามาก แต่อัตราการบริโภคก็เพิ่มสูงตามขึ้นไปด้วย แม้จะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทางกรมสรรพสามิตได้รายงานไปยังกระทรวงการคลังในประเด็นนี้ไปแล้ว
“หากสถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้นก็น่าจะส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลเพราะประชาชนเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น มีการจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นก็จะทำให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย” นายสมชายกล่าว.
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2014 ที่ผ่านมา มียอดจองซื้อรถยนต์สูงกว่า 4 หมื่นคันถือเป็นสัญญาณที่ดีในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ของกรมสรรพสามิต โดยเมื่อหากประเมินตัวเลขการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต จากการจองรถในครั้งนี้จะสามารถจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ได้มากกว่า 4 พันล้านบาท โดยเฉพาะหากรถยนต์หรูมียอดขายที่สูงการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย
แต่ทั้งนี้กรมสรรพสามิตต้องพิจารณาประกอบด้วยว่าจากยองจองซื้อรถดังกล่าวมีการส่งมอบรถเมื่อไร ในระยะ 3 – 5 เดือน หรือยาวนานกว่านั้นก็จะส่งผลต่อการจัดเก็บภาษีด้วยเช่นกัน ซึ่งถือว่าการจัดงานงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2014 ในครั้งนี้เป็นการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศที่ซบเซาจากสถานการณ์ทางการเมืองได้เป็นอย่างดี นอกจากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสินค้าชนิดอื่นๆ
“โดยหลักๆ แล้วกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้จากฐานการบริโภคของประชาชนในประเทศ หากความเชื่อมั่นของครัวเรือนได้รับผลกระทบมีว่าจะจากปัจจัยใดก็ตามก็ส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยและส่งผลต่อเนื่องกับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตด้วยเช่นกัน การจัดงานงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2014 ช่วยกระตุ้นการซื้อรถยนต์ได้มากหลังจากสิ้นสุดโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาที่กำลังซื้อรถยนต์ของประชาชนหดตัวลง” นายสมชายกล่าว
นายสมชายกล่าวว่า ขณะเดียวกันเมื่อมียอดขายรถยนต์ที่สูงขึ้นจะส่งผลดีต่อการจัดเก็บภาษีน้ำมันตามมาด้วยเช่นกัน แม้ว่าในระยะหลังผู้ประกอบการรถยนต์แต่ละค่ายจะผลิตรถยนต์ที่สามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 และอี 85 ออกมามาก แต่อัตราการบริโภคก็เพิ่มสูงตามขึ้นไปด้วย แม้จะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทางกรมสรรพสามิตได้รายงานไปยังกระทรวงการคลังในประเด็นนี้ไปแล้ว
“หากสถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้นก็น่าจะส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลเพราะประชาชนเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น มีการจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นก็จะทำให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย” นายสมชายกล่าว.