ถึงเวลาเปิดฉากรูดม่านงาน “บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์” เวทีแสดงรถยนต์รายการแรกประจำแต่ละปี ถือเป็นอีกน้ำทิพย์หล่อเลี้ยงตลาดรถยนต์ปีม้าคะนอกศึกกันเลย หลังจากยอดขายตลอดช่วง 2 เดือนแรกตกลงอย่างหนัก เหตุนี้แต่ละค่ายจึงงัดทีเด็ดแคมเปญ และโดยเฉพาะรถใหม่ออกมาปั่นยอดขายในงานกันอย่างเต็มที่ ส่วนค่ายใดจะมีรถใหม่รุ่นไหนบ้างไปดูกัน...
อีโคคาร์ซูซูกิ-ซิตี้ พิสูจน์เก๋งเล็ก
เริ่มกันที่เก๋งขนาดเล็ก ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคึกคักเป็นอย่างมาก แต่เข้าสู่ปี 2557 นี้ กลับเป็นตลาดที่ร่วงอย่างแรง แต่ถึงอย่างนั้นยังเป็นตลาดสำคัญของค่ายรถ แม้จะเริ่มชะลอตัวแต่ยังมีรถใหม่เปิดตัวต่อเนื่อง และไฮไลต์ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2014 คงต้องจับตาเวทีของค่าย “ซูซูกิ” ซึ่งจะมีการเปิดตัวอีโคคาร์รุ่นที่ 2 หลังจากประสบความสำเร็จกับรุ่นแรก “ซูซูกิ สวิฟท์”
อีโคคาร์รุ่นที่ 2 ของซูซูกิ คนไทยได้มีโอกาสเห็นคันต้นแบบไปแล้ว ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2013 ภายใต้ชื่อ “A-Wind” จากนั้นได้มีการพัฒนาเป็นคันทำตลาดจริง และเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่ประเทศอินเดียเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กับเก๋งขนาดเล็ก “ซูซูกิ เซเลริโอ” (Suzuki Celerio) เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร ซึ่งจะถูกนำมาเผยโฉมให้คนไทยได้ชมและสัมผัสอย่างใกล้ชิด เพียงแต่ต้องมาลุ้นกันว่า...จะเปิดรับจองเลย หรือรอเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการในภายหลังทีเดียว?
ซูซูกิ เซเลริโอ ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้ต่ำกว่ารุ่นสวิฟท์ จึงมีขนาดตัวถังและเครื่องยนต์เล็กกว่า โดยข้อมูลที่เปิดเผยในอินเดีย เซเลริโอวางเครื่องบล็อก K10B ขนาด 1.0 ลิตร 68 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำสุด 23.1 กม./ลิตร ขณะที่ในงานนี้ซูซูกิยังเดินหน้าดันสวิฟท์อีโคคาร์รุ่นแรก ด้วยการแนะนำรุ่นพิเศษ Swift GLX Limited กับชุดแต่งสุดสปอร์ตเร้าใจมาเอาใจแฟนๆ ที่ชอบความแตกต่างด้วย
ขยับขึ้นมาหน่อยเป็นเก๋งซับคอมแพ็กต์ ซึ่งได้เปิดตัวขายมาเกือบ 2 เดือนแล้ว กับ “ฮอนด้า ซิตี้” เจนเนอรชั่นที่ 4 ด้วยรูปลักษณ์ใหม่หมด แม้ขุมพลังยังเป็นบล็อกเดิม i-VTEC 1.5 ลิตร 117 แรงม้า แต่การทำงานผสานกับระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ขยายอัตราทดเกียร์ให้กว้างขึ้น พร้อมระบบ G-Design Shift จึงช่วยให้อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมอัตราเร่งที่ตอบสนองได้เร็วยิ่งขึ้น และยังรองรับการใช้พลังงานทางเลือก E85 ได้อีกด้วย เคาะราคาที่ 550,000-749,000 บาท
ส่วนคู่แข่งในตลาดมีเพียงอัดแคมเปญ หรือทำเวอร์ชั่นพิเศษมาสู้เท่านั้น แม้แต่ยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” เพิ่งปล่อยทีเด็ดโฉมใหม่ไปหมดเมื่อปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า ยาริส และวีออส จะมีเพียง “ฟอร์ด เฟียสต้า” รุ่นไมเนอร์เชนจ์ของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ซึ่งรูปลักษณ์คงเห็นกันแล้ว จากการเปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์อีโคบูสต์เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
เก๋งคอมแพ็กต์แลกหมัดสนั่นเวที
ตลาดเก๋งที่แข่งขันกันดุเดือด! ในเวทีบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2014 เห็นจะเป็นกลุ่มเก๋งคอมแพ็กต์ เพราะมีการเปิดตัวรถใหม่หลายรุ่น เริ่มตั้งแต่ “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส” โฉมใหม่ อาจจะไม่ใหม่สดๆ ซิงๆ เพราะเปิดตัวมาร่วม 2 เดือนแล้ว แต่ยังถือเป็นรถใหม่ของตลาดนี้อยู่ และล่าสุดเพิ่งเสริมทัพกับรุ่นย่อยใหม่ “โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต” (Corolla Altis ESport) เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ด้วยการปรับแต่งหน้าตาดุดัน เปลี่ยนเบาะนั่งให้รับสรีระ และปรับช่วงล่างใหม่ สนนราคา 8.99 แสนบาท
ส่วนที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ เห็นจะเป็น “มาสด้า3” โฉมใหม่ ทั้งเวอร์ชั่นซีดานและแฮทช์แบ็ก ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคันโมเดลที่ 2 ต่อจากครอสโอเวอร์รุ่น “มาสด้า ซีเอ็กซ์-5” นับเป็นการสร้างความฮือฮาให้กับตลาดอย่างมาก เพราะนอกจากรูปลักษณ์การออกแบบ ภายใต้แนวคิดโคโดะดีไซน์ที่ได้รับเสียงชื่นชมแล้ว ยังเป็นการจะเปิดตัวในไทยอย่างรวดเร็ว ตามหลังต่างประเทศไม่ถึงปี จากเดิมจะต้องรอนานมากกว่าปีขึ้นไป
จุดเด่นของมาสด้า3 ย่อมอยู่ที่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ประกอบไปด้วยระบบช่วงล่าง ตัวถัง ความปลอดภัย ระบบส่งกำลัง และเครื่องยนต์ ซึ่งขุมกำลังที่เปิดตัวทำตลาดมีเพียงรุ่นเดียว Skyactiv G ขนาด 2.0 ลิตร 165 แรงม้า รองรับน้ำมัน E85 ได้ด้วย ซึ่งว่ากันว่าประหยัดน้ำมันกว่าเดิม แต่สมรรถนะแรงขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นราคายังน่าสนใจ เริ่มต้นที่ 8.33 แสนบาท ต่ำกว่าโฉมเดิมรุ่นแฮทช์แบ็ก 1.6 ลิตรเสียอีก งานนี้มาสด้าหวังผงาดขึ้นมาแถวหน้าตลาดเก๋งคอมแพ็กต์กันเลย
ขณะที่คู่แข่งสำคัญในตลาดไม่ยอมเช่นกัน เห็นได้จากค่ายฮอนด้าได้มีการแนะนำ “ฮอนด้า ซีวิค ใหม่” หรือเวอร์ชั่นปี 2014 ที่เพิ่ม 2 รุ่นใหม่ และเติมความโดดเด่นด้วยสเกิร์ตดีไซน์สปอร์ตรอบคัน และสัญลักษณ์ Sport บนฝากระโปรงท้าย อีกทั้งภายในห้องโดยสารยังเพิ่มความหรูหรา ล้ำสมัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก พร้อมระบบความปลอดภัย ราคาเริ่ม 7.80 แสนบาท - 1.145 ล้านบาท
เช่นเดียวกับนิสสันที่ได้มีการเพิ่มทางเลือกกับตัวแรง “พัลซาร์ DIG Turbo” นับเป็นครั้งแรกนิสสันในไทย วางเครื่องยนต์เทอร์โบ เบนซินไดเร็คอินเจ็คชั่น ขนาด 1.6 ลิตร รหัส MR16DDT ผสานกับการทำงานของระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า หรือเทียบเท่ารุ่น 2.5 ลิตร แต่ประหยัดน้ำมันกว่า
อย่างไรก็ตาม เก๋งคอมแพ็กต์จากแดนปลาดิบ ต้องเจอน้องใหม่ “เอ็มจี” (MG) รถยนต์สัญชาติผู้ดีอังกฤษที่ไปอยู่ในดินแดนหลังม่านไม้ไผ่ประเทศจีน และได้เข้ามารุกตลาดไทยจากการร่วมทุนของ เซียงไฮ้ ออโตโมทีฟ และกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี(CP) ของไทย โดยในงานนี้จะมีการเผยโฉม “เอ็มจี” (MG6) รถโมเดลแรกที่จะทำตลาดกลุ่มเก๋งคอมแพ็กต์ ตามรายงานข่าวอาจจะมีการรับจองคิวภายในงาน แต่เปิดตัวจริงขายอย่างเป็นทางการช่วงกลางปีนี้
รถอเนกประสงค์กระแสยังไม่ตก
ส่วนตลาดกลุ่มรถอเนกประสงค์ที่มีการเติบโตต่อเนื่องเรื่อยๆ เห็นจากการมีรถรุ่นใหม่ๆ แนะนำสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นแบบเอสยูวี, ครอสโอเวอร์ หรือเอ็มพีวี-มินิเอ็มพีวี แม้ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2014 จะไม่มีรถใหม่แข่งดุเดือดมากนัก แต่ยังคงมีเปิดตัวต่อเนื่องในทุกๆ ครั้งของงานแสดงรถยนต์ และหนึ่งในนั้นคือการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต” (Ford EcoSport) หลังจากแนะนำสู่ตลาดแบบไม่เป็นทางการนานกว่า 4 เดือน...
แต่ไฮไลต์ในปีนี้คงอยู่ที่รถอเนกประสงค์โมเดลใหม่ “นิสสัน ลิวิน่า” (Nissan Livina) ซึ่งหลายคนเห็นเป็นคอมแพ็กต์เอ็มพีวี แต่นิสสันยืนยันว่ามีความเป็นเอสยูวี 5 ที่นั่ง เนื่องจากการออกแบบ และตัวถังค่อนข้างสูง ตอบสนองการใช้งานในหลากหลายเส้นทาง โดยวางเครื่องยนต์ HR16DE ขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบหัวฉีดคู่ (Dual Injector System) ผสานกับระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT เคาะราคา 6.72 -7.42 แสนบาท
สำหรับผู้ต้องการเอ็มพีวีขนาดใหญ่ “ฮุนได” ได้เปิดตัว Grand Starex VIP และ Premium ไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อมกระจังหน้าใหม่ ลายโครเมียมแบบเดียวกัน กันชนหน้าแบบหรูหรากึ่งสปอร์ต กันชนหลังดีไซน์ใหม่ และกาบข้างแบบสีโทนเดียวแบบสเกิร์ตในตัว พร้อมล้ออัลลอย 17 นิ้วลายใหม่ ขุมกำลังยังเป็นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผัน VGT 175 แรงม้า ขายในราคา 1,978,000 บาท และ 1,928,000 บาท ตามลำดับ
นอกจากนี้ยังมีคอมแพ็กต์เอสยูวี “ฮุนได ทูซอน” (Tucson 2.0D 4WD) ที่มาพร้อมไฟหน้าใหม่แบบ HID projector ไฟท้ายใหม่แบบ LED ระบบนำทาง GPS และเครื่องยนต์ใหม่ 2.0 ลิตร เทอร์โบดีเซล 184 แรงม้า สนนราคาอยู่ที่ 1,690,000 บาท
รถหรูคึก! เมอร์เซเดส-เบนซ์ลุย
ทางฝากกลุ่มรถหรูแข่งขันดุเดือดเช่นกัน โดยต่างนำรถใหม่เปิดตัวหลากรุ่นหลายประเภท ที่คึกคักสุดเห็นจะเป็นค่ายตราดาว “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ที่มีการนำรถใหม่มาให้เศรษฐีกระเป๋าหนักเลือกถอยถึง 4 รุ่น ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การเปิดตัวของ 2 รุ่นเป็นครั้งแรกในอาเซียน “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส” โฉมใหม่ และคอมแพ็กต์เอสยูวีระดับพรีเมียม “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ”
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส โฉมใหม่ หรือรหัสตัวถัง W 205 ถูกออกแบบให้สายเส้นโค้งเว้า โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากแนวคิดด้านสุนทรียศาสตร์สมัยใหม่ ผสานความพลิ้วไหวและองค์ประกอบต่างๆ เข้าด้วยกัน ทำให้ตัวรถดูสปอร์ต ทันสมัย และเร้าใจขณะขับขี่ มีให้เลือก 2 รุ่น เริ่มจากรุ่น C 250 AMG Dynamic วาวางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4สูบ เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 2.0 ลิตร 211 แรงม้า
ส่วนอีกรุ่น C 180 Exclusive เครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ 1.6 ลิตร 156 แรงม้า ซึ่งทั้งสองรุ่นส่งกำลังด้วยกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ แบบ 7G-TRONIC PLUS พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย เปิดราคาในฐานะเป็นนำเข้าสำเร็จรูป 3,190,000 บาท และ 2,790,000 บาท ตามลำดับ
ขณะที่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ” (Mercedes-Benz GLA) เป็นรถรุ่นล่าสุดที่ใช้พื้นฐานตัวถังใหม่ ร่วมกับรุ่น บี, เอ และซีแอลเอ-คลาส แต่มาในรูปแบบของรถคอมแพ็กต์เอสยูวีระดับพรีเมียม มีคู่แข่งสำคัญในไทยอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์1 การออกแบบตัวรถให้ดูทันสมัย คล่องแคล่ว ปราดเปรียว และปลอดภัย สามารถตอบสนองทุกความท้าทายของการขับขี่ รถที่นำเข้ามาทำตลาดมีเพียงรุ่นเดียว GLA 200 Urban เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 1,595ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 156 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7G-DCT พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ราคา 2,440,000 บาท
ส่วนอีก 2 รุ่น เป็นรถออฟโรด G 350 BlueTEC Sport เครื่องยนต์ดีเซล แบบ V6ขนาด 3.0 ลิตร 211 แรงม้า ราคา 7,490,000 บาท และเพิ่มทางเลือกให้กับรุ่นเอส-คลาส ด้วยรุ่นย่อย S 300 BlueTEC HYBRID Exclusive และ S 300 BlueTEC HYBRID AMG Premium ซึ่งวางเครื่องยนต์ดีเซล 2,143 ซีซี 204 แรงม้า
ด้านคู่แข่งอย่าง “บีเอ็มดับเบิลยู” ได้มีการเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ของ “ซีรี่ส์5” แล้ว ยังเขย่าตลาดด้วยการขึ้นไลน์ประกอบ “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์1” ในไทย โดยจะเปิดตัวในงานนี้ด้วยราคา 1.749 ล้านบาท ขณะที่รถหรูจากแดนปลาดิบ “เลกซัส” นำเข้ารถไฮบริด ES300h ใหม่ และ IS300h ยังมีรุ่นไมเนอร์เชนจ์ของ IS 250 มาให้เลือกหลากหลายตามความต้องการของลูกค้า
ฝากค่าย “วอลโว่” มากับเทคโนโลยีใหม่แห่งความแรง Drive-E Powertrain เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ T5 แบบ 4 สูบ 220 แรงม้า ที่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และยังประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิมประมาณ 10-30% โดยติดตั้งในรุ่น S60 T5 และ XC60 T5 เปิดจองในราคา 2,449,000 บาท และ 2,919,000 บาท ตามลำดับ
หากชื่นชอบความแรงแบบญี่ปุ่น ที่บูธ “ซูบารุ” ได้แนะนำ “ดับบลิวอาร์เอ็กซ์” (WRX) ใหม่ เครื่องยนต์เบนซินสูบนอน 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบอัดอากาศและระบบจ่ายน้ำมันตรง (DIT) ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา Symmetrical AWD มาเอาใจแฟนๆ ลูกค้าเก่า หลังจากหันไปบุกรถตลาดอย่างหนักกับครอสโอเวอร์รุ่น “เอ็กซ์วี” (XV)
สำหรับผู้ที่เป็นแฟนคลับของค่ายรถ “ปอร์เช่” ในเวทีไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะได้มีการเปิดตัวรถโมเดลใหม่ “MACAN” ซึ่งเป็นเอสยูวีเล็กกว่า CAYENNE โดยในต่างประเทศมีให้เลือก ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.0 ลิตร ทวิน เทอร์โบ 340 แรงม้า และรุ่นดีเซล V6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบ 258 แรงม้า
นี่เป็นเพียงบางส่วนของไฮไลต์รถใหม่ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่น มอเตอร์โชว์ 2014 ซึ่งสามารถไปพบคันจริง หรือรุ่นอื่นๆ รวมถึงแคมเปญพิเศษ และพริตตี้สวยๆ ได้ในงานตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม - 6 เมษายนนี้ ณ อาคารชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี...
***ผู้อ่านท่านใดสนใจเข้าชมงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นเเนล มอเตอร์โชว์ 2014” ณ อิมแพค ชานเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี วันที่ 26 มี.ค.-6 เม.ย. 2557 มารับบัตรได้คนละ 2 ใบ ณ บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. โทร 02-629-4488 มารับช่วงเวลาทำการ 8.00-18.00 น. บัตรมีจำนวนจำกัด***