ข่าวในประเทศ - เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประกาศเปิดตัว “ซี-คลาส ใหม่” และเอสยูวีน้องใหม่“จีแอลเอ-คลาส” พร้อมระดมรถหรูอีกร่วม 30 คัน ลุยงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2014 ปลายเดือนนี้
ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ไฮไลท์พิเศษของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ปีนี้ คือ การนำเสนอยนตรกรรมใหม่ล่าสุดถึง 2 รุ่น เป็นครั้งแรกในอาเซียน โดยเริ่มที่การเปิดตัว The new C-Class โฉมใหม่ ถัดมาเป็นรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็ค SUV พรีเมี่ยมใหม่ล่าสุดอย่าง The new GLA-Class
สำหรับ The new C-Class รหัสตัวถัง W 205 เป็นยนตรกรรมใหม่ในกลุ่มพรีเมี่ยมของรถยนต์ขนาดกลางที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จครั้งใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น และดูปราดเปรียวในทุกมิติ มีให้เลือก 2 รุ่น คือ C 250 AMG Dynamic และ C 180 Exclusive ราคา 3.19 ล้านบาท และ 2.79 ล้านบาท ตามลำดับ
โดยกระจังหน้าในรุ่น C 250 AMG Dynamic เป็นแบบสปอร์ต มีสัญลักษณ์โลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลางบนลาย 2 แถบ และไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ที่มาพร้อมกับระบบไฟส่องสว่างอัจฉริยะ พร้อมด้วยชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG ซึ่งประกอบไปด้วย กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้างดีไซน์สปอร์ต ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ สำหรับรุ่น C 180 Exclusive กระจังหน้าแบบคลาสสิกที่มาพร้อมกับโลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์บนฝากระโปรงลาย 3 แถบเสริมโครเมียม พร้อมฟังก์ชั่น AIRPANEL ซึ่งสามารถเปิด-ปิดได้อัตโนมัติ เพื่อให้ความลู่ลมที่ดียิ่งขึ้น และไฟหน้าแบบ LED High Performance
โครงสร้างตัวถังของ The new C-Class นับเป็นนวัตกรรมของโครงสร้างน้ำหนักเบาที่ผสานทั้งความแข็งแกร่ง ลดการสั่นสะเทือน โดยใช้วัสดุแบบอะลูมิเนียมไฮบริดน้ำหนักเบา ทำให้น้ำหนักของตัวรถเบาลงกว่าเดิมถึง 100 กิโลกรัม แต่มิติของตัวรถยังมีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่ารุ่นเดิม เริ่มจากความยาวที่ 4,686 มม. ยาวกว่ารุ่นเดิม 95 มม. ความกว้างที่ 1,810 มม. กว้างขึ้นถึง 40 มม. และฐานล้อที่ 2,840 มม. ยาวขึ้นกว่าเดิม 80 มม.
ในรุ่น C 250 AMG Dynamic วางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 1,991 ซีซี เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย 17.9-18.9 กม./ลิตร
ขณะที่รุ่น C 180 Exclusive Dynamic วางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 1,595 ซีซี เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 223 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย 17.2-18.5 กม./ลิตร
ทั้งสองรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ แบบ 7G-TRONIC PLUS พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering-wheel Gearshift Paddles)
ส่วน The new GLA-Class รหัสตัวถัง X 156 เป็นสมาชิกลำดับที่ 5 ในกลุ่มรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตระกูล SUV (Sport Utility Vehicle) ที่เข้ามาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ให้ดูหลากหลาย และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
โดยรุ่นที่เปิดตัวในประเทศไทยเป็นรุ่น GLA 200 Urban ที่มาพร้อมกับการตกแต่งแบบ Urban คือ กระจังหน้าสีเงินแบบโครเมียมลาย 2 แถบ พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง กันชนด้านหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยโครเมียม ขอบหน้าต่างแบบโครเมียม และปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม
เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ความจุกระบอกสูบ 1,595 ซีซี กำลังสูงสุดที่ 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,250-4,000 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 215 กม./ชม. และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 17 กม./ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 7G-DCT สนนราคา 2.44 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังเปิดตัว G-Class รถยนต์ตรวจการณ์ที่เต็มไปด้วยสมรรถนะและขุมพลังพร้อมความแข็งแกร่งแบบฉบับออฟโรด รวมถึง S 300 BlueTEC HYBRID Exclusive และ S 300 BlueTEC HYBRID AMG Premium ยนตรกรรมหรูที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ดีเซลไฮบริด
สำหรับงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 รอบประชาชนทั่วไปเริ่มวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายนนี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี
ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ไฮไลท์พิเศษของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ปีนี้ คือ การนำเสนอยนตรกรรมใหม่ล่าสุดถึง 2 รุ่น เป็นครั้งแรกในอาเซียน โดยเริ่มที่การเปิดตัว The new C-Class โฉมใหม่ ถัดมาเป็นรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็ค SUV พรีเมี่ยมใหม่ล่าสุดอย่าง The new GLA-Class
สำหรับ The new C-Class รหัสตัวถัง W 205 เป็นยนตรกรรมใหม่ในกลุ่มพรีเมี่ยมของรถยนต์ขนาดกลางที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จครั้งใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น และดูปราดเปรียวในทุกมิติ มีให้เลือก 2 รุ่น คือ C 250 AMG Dynamic และ C 180 Exclusive ราคา 3.19 ล้านบาท และ 2.79 ล้านบาท ตามลำดับ
โดยกระจังหน้าในรุ่น C 250 AMG Dynamic เป็นแบบสปอร์ต มีสัญลักษณ์โลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลางบนลาย 2 แถบ และไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ที่มาพร้อมกับระบบไฟส่องสว่างอัจฉริยะ พร้อมด้วยชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG ซึ่งประกอบไปด้วย กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้างดีไซน์สปอร์ต ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ สำหรับรุ่น C 180 Exclusive กระจังหน้าแบบคลาสสิกที่มาพร้อมกับโลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์บนฝากระโปรงลาย 3 แถบเสริมโครเมียม พร้อมฟังก์ชั่น AIRPANEL ซึ่งสามารถเปิด-ปิดได้อัตโนมัติ เพื่อให้ความลู่ลมที่ดียิ่งขึ้น และไฟหน้าแบบ LED High Performance
โครงสร้างตัวถังของ The new C-Class นับเป็นนวัตกรรมของโครงสร้างน้ำหนักเบาที่ผสานทั้งความแข็งแกร่ง ลดการสั่นสะเทือน โดยใช้วัสดุแบบอะลูมิเนียมไฮบริดน้ำหนักเบา ทำให้น้ำหนักของตัวรถเบาลงกว่าเดิมถึง 100 กิโลกรัม แต่มิติของตัวรถยังมีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่ารุ่นเดิม เริ่มจากความยาวที่ 4,686 มม. ยาวกว่ารุ่นเดิม 95 มม. ความกว้างที่ 1,810 มม. กว้างขึ้นถึง 40 มม. และฐานล้อที่ 2,840 มม. ยาวขึ้นกว่าเดิม 80 มม.
ในรุ่น C 250 AMG Dynamic วางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 1,991 ซีซี เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย 17.9-18.9 กม./ลิตร
ขณะที่รุ่น C 180 Exclusive Dynamic วางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 1,595 ซีซี เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 223 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย 17.2-18.5 กม./ลิตร
ทั้งสองรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ แบบ 7G-TRONIC PLUS พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering-wheel Gearshift Paddles)
ส่วน The new GLA-Class รหัสตัวถัง X 156 เป็นสมาชิกลำดับที่ 5 ในกลุ่มรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตระกูล SUV (Sport Utility Vehicle) ที่เข้ามาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ให้ดูหลากหลาย และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
โดยรุ่นที่เปิดตัวในประเทศไทยเป็นรุ่น GLA 200 Urban ที่มาพร้อมกับการตกแต่งแบบ Urban คือ กระจังหน้าสีเงินแบบโครเมียมลาย 2 แถบ พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง กันชนด้านหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยโครเมียม ขอบหน้าต่างแบบโครเมียม และปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม
เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ความจุกระบอกสูบ 1,595 ซีซี กำลังสูงสุดที่ 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,250-4,000 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 215 กม./ชม. และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 17 กม./ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 7G-DCT สนนราคา 2.44 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังเปิดตัว G-Class รถยนต์ตรวจการณ์ที่เต็มไปด้วยสมรรถนะและขุมพลังพร้อมความแข็งแกร่งแบบฉบับออฟโรด รวมถึง S 300 BlueTEC HYBRID Exclusive และ S 300 BlueTEC HYBRID AMG Premium ยนตรกรรมหรูที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ดีเซลไฮบริด
สำหรับงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 รอบประชาชนทั่วไปเริ่มวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายนนี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี
