xs
xsm
sm
md
lg

สัมผัสสมรรถนะ “บลูเอิร์ธ-เอส” ยางที่โลกหลงรัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โยโกฮามาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ บลูเอิร์ธ-เอส พร้อมให้สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะ
สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท โยโกฮามา ไทร์เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุด “BluEarth-A (บลูเอิร์ธ-เอส)” ชูจุดเด่นเป็นยางรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง ให้สมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มนวล ยึดเกาะถนนได้ดีแม้บนสภาพพื้นเปียก พร้อมให้สื่อมวลชนได้ร่วมสัมผัสและพิสูจน์คุณสมบัติดังกล่าว ภายในบริเวณอุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่
รถทดสอบมีทั้งหมด 4 คัน ได้แก่ ฮอนด้า ซีวิค 1.8 และโตโยต้า อัลติส 1.8 รุ่นละ 2 คัน โดยรถรุ่นเดียวกันจะใส่ยางต่างกันคือ บลูเอิร์ธ-เอส และ Earth-1 เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างยางรุ่นใหม่กับรุ่นเก่า
โดยการทดสอบสมรรถนะแบ่งออกเป็น 3 สถานี สถานีแรกเป็นการขับใช้งานจริงบนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร บริเวณลานจอดรถอุทยานหลวงฯ ซึ่งทีมงานของโยโกฮามาได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ทดสอบสมรรถนะในด้านต่างๆ พร้อมนำยางรุ่นก่อนหน้าหรือ Earth-1 มาเปรียบเทียบเพื่อพิสูจน์ความแตกต่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ผ่านรูปแบบการขับขี่ที่เหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่สภาพพื้นผิวของถนนจะมีทั้งแบบเปียก (Wet) และแบบแห้ง (Dry)

สำหรับผลที่ออกมาแม้ว่าในด้านความนุ่มเงียบจะใกล้เคียงกัน แต่ในด้านสมรรถนะการยึดเกาะถนน “บลูเอิร์ธ-เอส” ทำได้ดีกว่า โดยเฉพาะบนพื้นถนนเปียกจะให้ระยะเบรกที่สั้นกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตัวเลขที่ผู้ร่วมทดสอบทุกคนทำได้จากการเบรกหรือหยุดรถอย่างกะทันหัน ด้วยความเร็วประมาณ 65 กม./ชม. ระยะเบรกดีกว่าเดิมอยู่ที่ 2.2-2.5 เมตร
“บลูเอิร์ธ-เอส” เจาะตลาดเก๋งเล็กถึงขนาดกลาง มีให้เลือกตั้งแต่ขอบ 14-17 นิ้ว หน้ากว้าง 175-245 และซีรี่ส์มีให้เลือกตั้งแต่ 40-65 รวม 30 ขนาด สนนราคา 2,125-6,500 บาท
สอดคล้องกับข้อมูลที่บอสใหญ่ “ซาโตชิ ฟูจิตสึ” กรรมการผู้จัดการ โยโกฮามา ไทร์เซลส์ ได้กล่าวถึงผลการทดสอบเปรียบเทียบระหว่างยางทั้งสองรุ่นจากสถานการณ์เดียวกัน ด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. จนลดลงเหลือ 0 กม./ชม. ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจะให้ระยะเบรกที่สั้นกว่าประมาณ 20%

ขณะที่สถานีที่สองเป็นการทดสอบบนสภาพถนนที่ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ด้วยพื้นที่การทดสอบอยู่บริเวณชายเขาต่อเนื่องจากดอยสุเทพ ระยะทางรวมกว่า 20 กิโลเมตร สมรรถนะด้านการยึดเกาะและความนุ่มของแก้มยางขณะขับขี่ผ่านข้อต่อของถนนยังทำได้ดี เพราะเป็นผลมาจากการพัฒนาบล็อกดอกยางให้มีระยะของบล็อกที่มีขนาดเล็กลง โดยมีความละเอียดมากถึง 84 บล็อก นอกจากจะช่วยให้ผู้ขับขี่บังคับควบคุมรถได้แม่นยำแล้ว ยังจะช่วยลดเสียงและป้องกันการสึกหรอแบบไม่เรียบได้ด้วย


ส่วนสถานีที่สามเพื่อสะท้อนถึงแนวคิดด้านการวิจัยและพัฒนายางรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม ทีมงานโยโกฮามาจึงพาคณะทดสอบร่วมเดินทางท่องเที่ยว ด้วยการนั่งรถรางพร้อมสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ และพักผ่อนผ่านสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงามภายในอุทยานหลวงราชพฤกษ์
 
และดูจะเป็นกิจกรรมปิดท้ายที่เหมาะสมกับการพิสูจน์สมรรถนะ “บลูเอิร์ธ-เอส” ตามสโลแกน “Extreme Grip with environmental performance” หรือน่าจะใช้คำนิยามที่เข้าใจง่ายว่า

ยางที่โลกและคนใช้รถยนต์หลงรัก ทั้งในด้านสมรรถนะและการดูแลสิ่งแวดล้อม


กำลังโหลดความคิดเห็น