มิชลิน ในฐานะผู้สนับสนุนยางอย่างเป็นทางการในการแข่งขันเอฟไอเอ ฟอร์มูล่าอี แชมป์เปี้ยนชิพ (FIA Formula E Championship) เผยโฉมยางที่จะใช้ในการแข่งขันที่ติดตั้งกับรถสปาร์ค-เรโนต์ เอสอาร์ที_01 อี รถแข่งพลังงานไฟฟ้าประเภทที่นั่งเดี่ยว ที่มาวิ่งแสดงในงาน Consumer Electronics Show (CES) 2014 ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา โดยเป็นยางที่ได้รับการออกแบบให้สามารถ“สื่อสารข้อมูลการใช้งานได้” ด้วยการติดตั้งชิพ RFID (Radio Frequency Identification Device) ฝังในตัวยาง ซึ่งจะทำให้สามารถระบุการใช้งานยางแต่ละชุดได้ ผู้เข้าแข่งขันทุกทีมจะใช้ยางรุ่นใหม่นี้ในการแข่งขันตลอดสองฤดูกาลแรก โดยกำหนดจะเริ่มการแข่งขันครั้งแรกในเดือนกันยายน 2557 นี้
เซิร์จ กริเซน ผู้จัดการโครงการมิชลินมอร์เตอร์สปอร์ตสี่ล้อ เปิดเผยว่า ชิพ RFID จะถูกฝังลงในแก้มยางแต่ละเส้น เพื่อทำให้สามารถระบุเส้นยางได้ชัดเจน ตั้งแต่ออกจากโรงงานผลิตจนกระทั่งเข้าสู่สนามการแข่งขันและกลับมายังโรงงานใหม่อีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ข้อมูลของยางที่ใช้ในการแข่งขันเหล่านี้จะถูกเก็บโดยเครื่องอ่านบาร์โค้ด แต่การใช้ชิพอิเล็กทรอนิกส์จะทำให้สามารถจดจำและบันทึกรายละเอียดต่างๆ ได้ทั้งหมด เช่น ข้อมูลของสภาพการใช้งานในอุณหภูมิและแรงอัดที่แตกต่างกันจากเซ็นเซอร์ที่บันทึกไว้ นอกจากนี้ การฝังชิพ RFID ลงในยางแข่งขันนั้น ยังช่วยให้ทีมการจัดการแข่งขันสามารถควบคุมจำนวนยางที่กำหนดให้ทุกทีมใช้ได้อย่างสะดวกและแม่นยำ
มิชลิน เป็นผู้ริเริ่มเทคโนโลยีดังกล่าวมาก่อนหน้านี้โดยใช้กับยางรถยนต์และรถบรรทุก และกลางปี 2556 มิชลินได้ยกเลิกการจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อสร้างมาตรฐานและการขยายการใช้งานของชิพ RFID ในยางให้มากขึ้น โดยในแง่ของยางรถแข่งนั้น ชิพ RFID ถือเป็นการสร้างโอกาสให้แก่นักวิจัยของ มิชลินในการค้นหานวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย
ทั้งนี้ เพื่อทำให้การถ่ายทอดเทคโนโลยีและประสิทธิภาพของยางสำหรับใช้ในสนามแข่ง สามารถนำมาใช้งานกับรถที่วิ่งบนถนนปกติทั่วไปได้อย่างดีเยี่ยมและไม่สูญเสียสมรรถนะได้นั้น ยางที่ได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับการแข่งขันครั้งใหม่นี้จึงมีวงล้อขนาด 18 นิ้ว ซึ่งทำให้การแข่งขันเอฟไอเอ ฟอร์มูล่าอี แชมป์เปี้ยนชิพ เป็นการแข่งขันรถยนต์นานาชาติประเภทที่นั่งเดี่ยวที่ใช้ยางขนาด 18 นิ้ว เป็นครั้งแรกของโลก และเพื่อให้ยางสำหรับใช้ในสนามแข่งนี้สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันได้จริงต่อไปในอนาคต ดอกยางที่ออกแบบมาจึงเน้นที่ความอเนกประสงค์ ให้สมรรถนะความปลอดภัยในการขับขี่ทั้งในสภาวะถนนเปียกและถนนแห้ง
ทั้งนี้ ยางที่จะนำมาใช้ในการแข่งขันเอฟไอเอ ฟอร์มูล่าอี แชมป์เปี้ยนชิพ จะยังได้รับการพัฒนาไปจนกระทั่งถึงการแข่งขันรอบแรกในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในวันที่ 13 กันยายน 2557
เซิร์จ กริเซน ผู้จัดการโครงการมิชลินมอร์เตอร์สปอร์ตสี่ล้อ เปิดเผยว่า ชิพ RFID จะถูกฝังลงในแก้มยางแต่ละเส้น เพื่อทำให้สามารถระบุเส้นยางได้ชัดเจน ตั้งแต่ออกจากโรงงานผลิตจนกระทั่งเข้าสู่สนามการแข่งขันและกลับมายังโรงงานใหม่อีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ข้อมูลของยางที่ใช้ในการแข่งขันเหล่านี้จะถูกเก็บโดยเครื่องอ่านบาร์โค้ด แต่การใช้ชิพอิเล็กทรอนิกส์จะทำให้สามารถจดจำและบันทึกรายละเอียดต่างๆ ได้ทั้งหมด เช่น ข้อมูลของสภาพการใช้งานในอุณหภูมิและแรงอัดที่แตกต่างกันจากเซ็นเซอร์ที่บันทึกไว้ นอกจากนี้ การฝังชิพ RFID ลงในยางแข่งขันนั้น ยังช่วยให้ทีมการจัดการแข่งขันสามารถควบคุมจำนวนยางที่กำหนดให้ทุกทีมใช้ได้อย่างสะดวกและแม่นยำ
มิชลิน เป็นผู้ริเริ่มเทคโนโลยีดังกล่าวมาก่อนหน้านี้โดยใช้กับยางรถยนต์และรถบรรทุก และกลางปี 2556 มิชลินได้ยกเลิกการจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อสร้างมาตรฐานและการขยายการใช้งานของชิพ RFID ในยางให้มากขึ้น โดยในแง่ของยางรถแข่งนั้น ชิพ RFID ถือเป็นการสร้างโอกาสให้แก่นักวิจัยของ มิชลินในการค้นหานวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย
ทั้งนี้ เพื่อทำให้การถ่ายทอดเทคโนโลยีและประสิทธิภาพของยางสำหรับใช้ในสนามแข่ง สามารถนำมาใช้งานกับรถที่วิ่งบนถนนปกติทั่วไปได้อย่างดีเยี่ยมและไม่สูญเสียสมรรถนะได้นั้น ยางที่ได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับการแข่งขันครั้งใหม่นี้จึงมีวงล้อขนาด 18 นิ้ว ซึ่งทำให้การแข่งขันเอฟไอเอ ฟอร์มูล่าอี แชมป์เปี้ยนชิพ เป็นการแข่งขันรถยนต์นานาชาติประเภทที่นั่งเดี่ยวที่ใช้ยางขนาด 18 นิ้ว เป็นครั้งแรกของโลก และเพื่อให้ยางสำหรับใช้ในสนามแข่งนี้สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันได้จริงต่อไปในอนาคต ดอกยางที่ออกแบบมาจึงเน้นที่ความอเนกประสงค์ ให้สมรรถนะความปลอดภัยในการขับขี่ทั้งในสภาวะถนนเปียกและถนนแห้ง
ทั้งนี้ ยางที่จะนำมาใช้ในการแข่งขันเอฟไอเอ ฟอร์มูล่าอี แชมป์เปี้ยนชิพ จะยังได้รับการพัฒนาไปจนกระทั่งถึงการแข่งขันรอบแรกในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในวันที่ 13 กันยายน 2557