ข่าวในประเทศ - “โตโยต้า” ห่วงสถานการณ์การเมืองยืดเยื้อ-รุนแรง กระทบการลงทุนเพิ่มใหม่ๆ แม้ไทยจะสำคัญอันดับหนึ่งในภูมิภาค แต่หากประเทศอื่นพร้อมและโอกาสดีกว่า อาจจะดึงการลงทุนไปแทน เผยหวังเพิ่มการผลิตทะลุล้านคัน ใน 3-4 ปีข้างหน้า ต้องลงทุนเพิ่ม 1.5-2.0 หมื่นล้านบาท ขณะที่ตลาดรถรวมไทยปีนี้ คาดจะวูบ 14% เหลือ 1.15 ล้านคัน
นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยปีที่ผ่านมา มีจำนวนอยู่ที่ 1,330,668 คัน ปรับลดลงจากปีก่อนหน้า 7.4% และคาดว่าในปี 2557 นี้ ตลาดรถยนต์ไทยจะอยู่ที่ประมาณ 1,150,000 คัน ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 13.6% จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และผลกระทบจากโครงการรถคันแรก ที่ดึงกำลังซื้อไปก่อนหน้านี้
“ตลาดรถยนต์ไทยที่ลดลง ประเมินเพียงผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจเท่านั้น ยังไม่รวมปัจจัยลบทางการเมือง ซึ่งหากสถานการณ์ยืดเยื้อยาวนาน หรือรุนแรง ย่อมส่งผลต่อตลาดรถให้ลดลงไปอีก รวมถึงความไม่มั่นใจต่อนักลงทุนต่างชาติ แม้โตโยต้าจะยืนยันไทยมีความสำคัญอันดับหนึ่งของภูมิภาค แต่หากการเมืองยังไม่คลี่คลาย อาจทำให้ไม่มีการลงทุนเพิ่ม หรือบริษัทแม่อาจตัดสินใจไปลงทุนประเทศอื่นๆ ที่มีความพร้อมเหมาะสมและโอกาสดีกว่า”
ทั้งนี้โตโยต้ามีความคาดหวังจะเพิ่มการผลิตในไทย เพิ่มเป็น 1,000,000 คัน ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตทั้งหมด 850,000 คัน แน่นอนหากจะเพิ่มกำลังการผลิตตามเป้าหมาย จะต้องมีการลงทุนเพิ่มอีก 15,000 - 20,000 ล้านบาท ดังนั้นโตโยต้าจึงอยากให้สถานการณ์การเมืองไทยคลี่คลายโดยเร็ว และดำเนินการให้ความเชื่อมั่นกับบริษัทแม่ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงนักลงทุนต่างชาติอื่นๆ เพื่อที่จะดึงการลงทุนเพิ่มในไทยต่อไป
นายทานาดะเปิดเผยว่า ส่วนเป้าหมายการขายของรถยนต์โตโยต้าในไทยปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 คัน หรือลดลง 10.2% ซึ่งจากปีที่แล้วขายไปทั้งหมด 445,464 คัน โดยปีนี้แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง 184,000 คัน ลดลง 3.2% รถเพื่อการพาณิชย์(รวมกระบ 1 ตัน) 216,000 คัน ลดลง 15.4% หรือแยกเฉพาะกระบะ 1 ตัน(รวมกระบะดัดแปลง) 199,000 คัน ลดลง 15.9% และหากไม่รวมกระบะดัดแปลง คาดยอดขายกระบะ 176,000 คัน ลดลง 14.9%
“แผนงานปีนี้ในตลาดรถยนต์นั่ง โตโยต้าพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่น มีการออกแบบล้ำสมัย และมีสมรรถนะการขับขี่ที่ดี ตลอดจนแผนการตลาดที่เน้นการเข้าถึงลูกค้าผ่านกิจกกรรมที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ในด้านต่างๆ เช่น ดนตรีและกีฬา สำหรับแนวทางการตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ จะเน้นเรื่องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าผ่านกิจกรรมการตลาดในพื้นที่”
นอกจากนี้เพื่อสร้างความมั่นใจในการบริการลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ปีนี้โตโยต้ามีแผนเพิ่มจำนวนโชว์รูมจากปัจจุบัน 390 แห่ง เป็น 450 แห่ง รวมถึงโตโยต้า ชัวร์ จากจำนวน 100 แห่ง เพิ่มเป็น 120 แห่ง และโตโยต้ายังมุ่งมั่นส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อการอยู่ร่วมกับสังคมไทยอย่างมีความสุข ซึ่งด้วยแผนงานทั้งหมดนี้ โตโยต้ามั่นใจว่าจะกลับมาเป็นที่ 1 ในทุกตลาดอย่างแน่นอน หลังจากในปีที่ผ่านมาสูญเสียตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์นั่งให้กับฮอนด้า
สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 445,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 198,000 ล้านบาท และการส่งออกชิ้นส่วนมูลค่า 65,600 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้นประมาณ 263,600 ล้านบาท ขณะที่ปีที่ผ่านมามีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 251,453 ล้านบาท หรือมียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 430,929 คัน
นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยปีที่ผ่านมา มีจำนวนอยู่ที่ 1,330,668 คัน ปรับลดลงจากปีก่อนหน้า 7.4% และคาดว่าในปี 2557 นี้ ตลาดรถยนต์ไทยจะอยู่ที่ประมาณ 1,150,000 คัน ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 13.6% จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และผลกระทบจากโครงการรถคันแรก ที่ดึงกำลังซื้อไปก่อนหน้านี้
“ตลาดรถยนต์ไทยที่ลดลง ประเมินเพียงผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจเท่านั้น ยังไม่รวมปัจจัยลบทางการเมือง ซึ่งหากสถานการณ์ยืดเยื้อยาวนาน หรือรุนแรง ย่อมส่งผลต่อตลาดรถให้ลดลงไปอีก รวมถึงความไม่มั่นใจต่อนักลงทุนต่างชาติ แม้โตโยต้าจะยืนยันไทยมีความสำคัญอันดับหนึ่งของภูมิภาค แต่หากการเมืองยังไม่คลี่คลาย อาจทำให้ไม่มีการลงทุนเพิ่ม หรือบริษัทแม่อาจตัดสินใจไปลงทุนประเทศอื่นๆ ที่มีความพร้อมเหมาะสมและโอกาสดีกว่า”
ทั้งนี้โตโยต้ามีความคาดหวังจะเพิ่มการผลิตในไทย เพิ่มเป็น 1,000,000 คัน ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตทั้งหมด 850,000 คัน แน่นอนหากจะเพิ่มกำลังการผลิตตามเป้าหมาย จะต้องมีการลงทุนเพิ่มอีก 15,000 - 20,000 ล้านบาท ดังนั้นโตโยต้าจึงอยากให้สถานการณ์การเมืองไทยคลี่คลายโดยเร็ว และดำเนินการให้ความเชื่อมั่นกับบริษัทแม่ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงนักลงทุนต่างชาติอื่นๆ เพื่อที่จะดึงการลงทุนเพิ่มในไทยต่อไป
นายทานาดะเปิดเผยว่า ส่วนเป้าหมายการขายของรถยนต์โตโยต้าในไทยปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 คัน หรือลดลง 10.2% ซึ่งจากปีที่แล้วขายไปทั้งหมด 445,464 คัน โดยปีนี้แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง 184,000 คัน ลดลง 3.2% รถเพื่อการพาณิชย์(รวมกระบ 1 ตัน) 216,000 คัน ลดลง 15.4% หรือแยกเฉพาะกระบะ 1 ตัน(รวมกระบะดัดแปลง) 199,000 คัน ลดลง 15.9% และหากไม่รวมกระบะดัดแปลง คาดยอดขายกระบะ 176,000 คัน ลดลง 14.9%
“แผนงานปีนี้ในตลาดรถยนต์นั่ง โตโยต้าพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่น มีการออกแบบล้ำสมัย และมีสมรรถนะการขับขี่ที่ดี ตลอดจนแผนการตลาดที่เน้นการเข้าถึงลูกค้าผ่านกิจกกรรมที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ในด้านต่างๆ เช่น ดนตรีและกีฬา สำหรับแนวทางการตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ จะเน้นเรื่องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าผ่านกิจกรรมการตลาดในพื้นที่”
นอกจากนี้เพื่อสร้างความมั่นใจในการบริการลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ปีนี้โตโยต้ามีแผนเพิ่มจำนวนโชว์รูมจากปัจจุบัน 390 แห่ง เป็น 450 แห่ง รวมถึงโตโยต้า ชัวร์ จากจำนวน 100 แห่ง เพิ่มเป็น 120 แห่ง และโตโยต้ายังมุ่งมั่นส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อการอยู่ร่วมกับสังคมไทยอย่างมีความสุข ซึ่งด้วยแผนงานทั้งหมดนี้ โตโยต้ามั่นใจว่าจะกลับมาเป็นที่ 1 ในทุกตลาดอย่างแน่นอน หลังจากในปีที่ผ่านมาสูญเสียตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์นั่งให้กับฮอนด้า
สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 445,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 198,000 ล้านบาท และการส่งออกชิ้นส่วนมูลค่า 65,600 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้นประมาณ 263,600 ล้านบาท ขณะที่ปีที่ผ่านมามีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 251,453 ล้านบาท หรือมียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 430,929 คัน