xs
xsm
sm
md
lg

“โตโยต้า ยาริส ใหม่” ที่สุดอีโคคาร์…ทว่าอืดไปนิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผิดคาด พลาดแผน เปิดตัวช้าไปร่วม 3 เดือน สำหรับ “โตโยต้า ยาริส ใหม่” จากเดิมที่วางคิวทำตลาดไว้เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กลับต้องเนิ่นช้ามาถึงเดือนตุลาคม ด้วยปัญหาทางเทคนิค ต้องใช้เวลาปรับปรุงจนผ่านมาตรฐานโครงการอีโคคาร์ โดยเฉพาะเงื่อนไขประหยัดน้ำมัน ไม่น้อยกว่า 20 กม./ลิตร

อย่างที่ทราบกันว่า “ยาริส ใหม่” สวมเข้าโครงการรถเล็กประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลของรัฐบาล ซึ่งโตโยต้าเปิดตัวรถเป็นค่ายสุดท้ายในบรรดา 5 ค่าย ที่ขอส่งเสริมการลงทุนในโครงการดังกล่าว (นิสสัน ฮอนด้า มิตซูบิชิ ซูซูกิ และโตโยต้า)


...จะว่าไปมีกระแสข่าวมาก่อนหน้า 2-3 ปีแล้วละครับ ว่า โตโยต้าจะนำยาริส มาสวมเข้าโครงการอีโคคาร์ แต่ก็ไม่มีใครยืนยัน และนึกภาพไม่ออกว่าโตโยต้าจะมาไม้ไหน?

จนกระทั่งเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในงานเซี่ยงไฮ้ ออโต้โชว์ 2013 โตโยต้าเปิดตัว “ยาริส ใหม่” (ใช้ชื่อ ยาริส แอล) ซึ่งรถโมเดลนี้ใช้พื้นฐานเดียวกับ “วีออส ใหม่” (แพลตฟอร์ม ใหม่) เราจึงเห็นรูปลักษณ์ และความชัดเจนในการทำตลาดมากขึ้น

“ยาริส ใหม่” จึง (แทบ) ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ “ยาริส โฉมเก่า” ด้วยโครงสร้างทางวิศวกรรม ขุมพลัง และระบบขับส่งกำลัง โดยมิติตัวถังยาว 4,155 มม. (ยาวขึ้น 365 มม.) ระยะฐานล้อ 2,550 มม. (ยาวขึ้น 90 มม.) กว้าง 1,700 มม. (เพิ่มขึ้น 5 มม.) และสูง 1,475 มม. (ลดลง 45 มม.)

ด้านเครื่องยนต์ยก 1NZ-FE ขนาด 1.5 ลิตร 109 แรงม้าออกไป แล้วหันมาคบบล็อกใหม่ รหัส 3NR-FE ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i หรือวาล์วไอดี-ไอเสียแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 86 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT-i และไม่มีเกียร์ธรรมดาให้เลือก


….เห็นว่าไทยเป็นประเทศเดียวในโลก ที่ได้ใช้ยาริสเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร เพราะตัวที่ผลิตเพื่อส่งออกยังใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร (แต่เป็นบล็อกใหม่ รหัส NR-FE เหมือนกัน)

การพัฒนามีทั้งในส่วนโครงสร้างตัวถัง ช่วงล่าง เครื่องยนต์ และเกียร์ที่โตโยต้าเรียกว่า “ซูเปอร์ ซีวีที-ไอ” (Super CVT-i) ซึ่งมากับทอร์คคอนเวอร์เตอร์ และล็อกอัพคลัชต์ ช่วยให้การส่งกำลังมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้านระบบความปลอดภัย ถือว่าโตโยต้าจัดเต็มตั้งแต่รุ่นล่าง (เกรด J Eco ไปจนถึงเกรด G) ด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า (คนขับ-ผู้โดยสาร), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบเสริมแรงเบรก (BA) รวมถึงเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ และเบาะนั่งคู่หน้าแบบ WIL - Whiplash Injury Lessening ช่วยรองรับกระดูกต้นคอการชนจากด้านหลัง

สำหรับสมรรถนะการขับขี่ โตโยต้าจัดทริปทดสอบให้บรรดาผู้สื่อข่าวได้ลองยาริส รุ่นท็อป เกรด G เมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) โดยใช้เส้นทางจังหวัดภูเก็ต-พังงา-กระบี่ (ไม่ได้เข้าเขตตัวเมือง) ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร



โดยผู้เขียนเริ่มจากการนั่งเป็นผู้โดยสาร พร้อมพิจารณารายละเอียดต่างๆ ของตัวรถ ซึ่งภายในห้องโดยสารแนวเสาร์เอ-พิลลาร์ อย่างพวกแผงแดชบอร์ด พวงมาลัย มาตรวัด ชุดเครื่องเสียง แอร์อัตโนมัติ ก็ยกชุดของวีออสมาทั้งหมด พร้อมตกแต่งเน้นโทนสีดำตัดเมทาลิก ดูสปอร์ตเข้ม แถมวัสดุที่ใช้ประกอบดูดีเกินหน้าเกินตาอีโคคาร์รุ่นอื่นๆ ทั้งนี้ ตัวท็อปเกรด G จะมีระบบ Smart Entry ปุ่ม Push Start พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยมาให้ด้วย

ขณะที่เบาะผ้าสีดำ แม้จะดูฝุ่นๆ สกปรกไปนิดแต่ก็นั่งสบาย ในตำแหน่งผู้ขับปรับโยกด้วยมือ เลื่อนหน้าถอยหลัง และพนักพิง ส่วนตำแหน่งผู้โดยสารด้านหลัง ตั้งใจวางไว้ให้นั่ง 3 คน มีทั้งหมอนรองหัว และเข็มขัดนิรภัยสำหรับคนนั่งตรงกลางที่ติดห้อยประดักประเดิดอยู่ด้านหลังซ้ายมือของคนนั่ง

การลองนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลัง ผู้เขียนว่าองศาพนักพิงหลังชันไปนิด ส่วนหนึ่งเพราะต้องการให้มีพื้นที่ห่างระหว่างช่วงขาถึงเบาะหน้า (Leg room) เพิ่มขึ้น ขณะที่พื้นห้องโดยสารราบเรียบไม่มีอุโมงค์ให้เกะกะ ในภาพรวมหากเทียบกับยาริสรุ่นเดิม ผู้เขียนว่าพื้นที่ด้านหลังขยับขยายได้มากกว่าจริง และถ้าเทียบกับอีโคคาร์คู่แข่ง ต้องบอกว่า ยาริส กว้างขวางกว่า

การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารอยู่ในระดับรถซับคอมแพกต์ทั่วไป พวกเสียงการจราจรจากภายนอกมีแอบเข้ามาบ้าง เสียงลมปะทะมีน้อย เช่นเดียวกับเสียงเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างเงียบ (เว้นแต่จะเข่นคันเร่งแรงๆ)



ส่วนช่วงล่าง และการควบคุมผู้เขียนให้เป็นจุดเด่นของ “ยาริส ใหม่” ครับ โดยโครงสร้างการรองรับหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลง ในเกรด J จะประกบล้อกระทะขนาด 14 นิ้ว เกรด E ล้อกระทะ 15 นิ้ว (มีฝาครอบ) และเกรด G ถึงจะเป็นล้ออัลลอย 15 นิ้ว ประกบยางบริดจสโตน อีโคเปีย ขนาด 185/60 R15

โดยช่วงล่างของ “ยาริส ใหม่” น่าจะสปอร์ตกว่า วีออส นิดๆ กล่าวคือ รู้สึกถึงความแข็ง และการรองรับที่หนึบแน่น อย่างตลอดเส้นทางที่เป็นโค้งซ้าย-ขวา ขึ้น-ลง เนิน ใช้ความเร็ว 80-120 กม./ชม. ยังมั่นใจ ควบคุมพวงมาลัยได้สบายมือ

พวงมาลัยแบบแรคแอนด์พิเนียน ผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า มาแนวของวีออส ใหม่เลยครับ คือไม่เบาหวิวอีกต่อไป พร้อมให้การควบคุมที่กระชับ กำหนดทิศทางได้แน่วแน่ไม่ต้องแก้ไข ด้านเบรกหน้าดิสก์หลังครัม มีการปรับการทำงานของระบบต่างๆ และหม้อลมเบรก ซึ่งผู้เขียนว่า น้ำหนัก และความลึกของการกดแป้นเบรกตอบสนองดี ให้การชะลอหยุดนุ่มนวล และแม่นยำ

อย่างไรก็ตาม สมรรถนะการขับขี่จากเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร พร้อมระบบวาล์ว ไอดี-ไอเสียแปรผัน ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้าด้วยเกียร์ “ซูเปอร์ ซีวีที-ไอ” แม้โตโยต้าจะยืนยันว่า พยายามเซตให้สมบูรณ์ที่สุด แต่ส่วนตัวผู้เขียนว่า เรี่ยวแรงไม่ได้ตอบสนองทันใจนัก

ส่วนหนึ่งน่าจะอยู่ที่เกียร์ซีวีทีลูกนี้ละครับ แม้การออกตัวจะดูกระฉับกระเฉง (อัตราทดเฟืองท้ายระดับ 5.833) แต่ถ้าเลยย่านนี้ไป พละกำลังดูจะมาไม่ต่อเนื่อง เรี่ยวแรงขึ้นลงวูบวาบตามรอบเครื่องยนต์

ในทุกย่านความเร็ว 60-80-100-120 กม./ชม. หากต้องการอัตราเร่งแบบปัจจุบันทันด่วน ต้องเข่นคันเร่งลงลึกให้รอบขึ้นไปช้าๆ ระดับ 4,000-5,000 รอบ ในหลายจังหวะเกียร์ชิฟท์อัป รอบเครื่องยนต์ลดลง ความเร็วก็ไม่ได้พลุ่งพล่านตาม

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ผลิตม้าได้ 86 ตัว เมื่อมาเจอกับตัวถังยาวใหญ่ พร้อมน้ำหนักตัวถัง 1,040 กิโลกรัม (จริงๆ ก็ไม่ได้หนักมาก แต่ก็ยังมากกว่าอีโคคาร์คู่แข่งนิดหน่อย) คงต้องเลือกว่าจะให้ม้าลงสู่พื้นช่วงไหน แถมต้องคำนึงถึงอัตราบริโภคน้ำมัน และมาตรฐานไอเสียของโครงการอีโคคาร์ด้วย


ด้านอัตราบริโภคน้ำมันจากการขับขี่ในลักษณะดังกล่าว ที่มีเร่งแรงๆ ลองเพิ่มความเร็วสูงในหลายจังหวะตามสภาพถนนจะอำนวย ยาริสของผู้เขียนทำตัวเลขได้ 14-15 กิโลเมตรต่อลิตร

สำหรับยาริส ใหม่ แบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย ซอยออปชัน โดย 1.2J Eco ราคา 4.69 แสนบาท 1.2J ราคา 5.19 แสนบาท 1.2E ราคา 5.49 แสนบาท และตัวท็อป 1.2G ราคา 5.99 แสนบาท เห็นว่าหลังการเปิดตัว (22 ต.ค.) จนถึงวันนี้ มียอดจองเข้ามากว่า 8,000 คัน โดยรุ่นท็อป เกรด G ได้รับความนิยมสูงสุด หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ในบรรดาทุกรุ่น

รวบรัดตัดความ…โตโยต้าหวังใช้ “ยาริส ใหม่” กินรวบทั้ง ตลาดอีโคคาร์ และกลุ่มลูกค้ารถแฮทช์แบ็กระดับซับคอมแพกต์ ด้วยขนาดตัวถัง ออปชัน ความอเนกประสงค์ สมรรถนะการขับขี่ น่าจะได้คะแนนเฉลี่ยดีกว่าอีโคคาร์ทุกรุ่น แต่คุณก็ต้องยอมจ่ายในราคาที่แพงกว่าเมื่อเทียบรุ่นต่อรุ่น เหนืออื่นใด หากยกไปวัดกับรถซับคอมแพกต์ กับขนาดตัวถัง ออปชันสู้ได้ แม้ขับไม่เนียนเท่า แต่ราคาก็ถูกกว่าเช่นกัน

…เสียบตำแหน่งการทำตลาดตรงกลางแบบนี้ คงต้องถามใจว่าคนซื้อตั้งธงความต้องการด้านใดเป็นหลัก? ซึ่งยาริส เป็นอีโคคาร์ที่ให้ความคุ้มค่า เว้นแต่ว่าคุณจะรับกับสมรรถนะของเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร และเกียร์ CVT ชุดนี้ไหวไหม?





กำลังโหลดความคิดเห็น