เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการจัดระเบียบโครงสร้างตัวถังรุ่นรถยนต์กันใหม่ที่มีความชัดเจน และตรงข้ามกับออดี้ โดยหลังจากที่เปิดตัวซีรีส์ 6 และซีรีส์ 4 ที่เป็นตัวแทนของความสปอร์ตคูเป้ และเปิดประทุนไซส์ใหญ่และกลางไปแล้ว คราวนี้มาถึงคิวของน้องเล็กกันบ้าง ซึ่งทางบีเอ็มดับเบิลยูเปิดตัวและเผยโฉมรหัส 2 ออกมาแล้ว และก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ตามที่คาดกัน
นั่นเป็นเพราะซีรีส์ 2 คือ การนำเอาซีรีส์ 1 คูเป้ ในอดีตมาเปลี่ยนชื่อรุ่นในการทำตลาด โดยงานนี้เป็นโฉมใหม่ที่เปลี่ยนตามอายุตลาด เพียงแต่ไม่ได้ขายชื่อซีรีส์ 1 คูเป้เท่านั้นเอง แต่แยกเป็นสายพันธุ์ใหม่ โดยจะมีทำตลาดทั้งรุ่นคูเป้ และเปิดประทุน ขณะที่หน้าที่ของซีรีส์ 1 จะเป็นการทำตลาดด้วยรุ่นแฮทช์แบ็ก
รุ่นใหม่มาพร้อมกับหน้าตาที่สดใสขึ้นและอิงสไตล์การออกแบบเหมือนกับซีรีส์ 4 เน้นความโฉบเฉี่ยวของเส้นสายบนตัวถัง เช่นเดียวกับมิติตัวถังที่ใหญ่ขึ้นจากรุ่นเดิม โดยมีความยาว 4,432 มิลลิเมตร เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 72 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น 30 มิลลิเมตรเป็น 2,690 มิลลิเมตร พร้อมความปราดเปรียวด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.29
ทางเลือกของเครื่องยนต์มีความหลากหลายทั้งเบนซินและดีเซลโดยอ้างอิงอยู่กับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง เทอร์โบตามแนวคิด TwinPower Turbo Technology สำหรับรุ่นธรรมดา แต่ถ้าแปะรหัส M จะใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ โดยทางเลือกเริ่มกับรุ่น 220i เครื่องยนต์ 2,000 ซีซี เทอร์โบ 184 แรงม้า ที่ 5,000-6,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. ที่ 1,250-4,500 รอบ/นาที ใช้เวลา 7 วินาที สำหรับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และความเร็วสูงสุด 235 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่เหลือเป็นรุ่นเทอร์โบดีเซล 218d 220d และ 225d บล็อกเดียวกัน ต่างกันที่แรงม้า โดยอ้างอิงพื้นฐาน 2,000 ซีซี เทอร์โบแบบมีครีบแปรผัน มีกำลังอยู่ที่ 143, 184 และ 218 แรงม้าตามลำดับ
แต่ถ้าชอบความเร้าใจของเครื่องยนต์เบนซินและมีคำว่า M แปะหน้ารุ่น บีเอ็มดับเบิลยูก็มีทางเลือกของรุ่น M235i ที่ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3,000 ซีซี เทอร์โบคู่คู่บุญของตัวเองมาวางประจำการอยู่ใต้ฝากระโปรง มีกำลังสูงสุด 326 แรงม้า ที่ 5,800-6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 45.8 กก.-ม. ที่ 1,300-4,500 รอบ/นาที เมื่อจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะจะใช้เวลาเพียง 5 วินาที สำหรับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ถ้าใช้ระบบช่วยออกตัว หรือ Launch Control เวลาจะดีขึ้น ลดลงมาอยู่ที่ 4.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 242 กิโลเมตร/ชั่วโมง
เปิดตัวออกมาแล้ว และพร้อมทำตลาดในช่วงต้นปีหน้า ส่วนบ้านเรา น่าจะมีโอกาส แต่ราคาก็คงไม่ธรรมดา เหมือนกับซีรีส์ 1 คูเป้รุ่นที่แล้ว ถ้าใจไม่รักจริง คงยากที่จะยอมควักเงินเป็นเจ้าของ