ตลาดรถหรูนับว่ามีการเติบโตอย่างมาก ขณะเดียวกันการแข่งขันก็รุนแรง ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ระหว่างยี่ห้อเท่านั้น แม้แต่ตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์นั้นๆ ที่ไม่เพียงจะถูกบริษัทแม่เร่งให้ปรับตัว ดีลเลอร์เองยังต้องเร่งสร้างจุดขายให้เกิดความแตกต่าง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า เช่นเดียว “สตาร์แฟลก” ดีลเลอร์ใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์” ที่มาแบบบิ๊กโปรเจคต์ ส่วนจะระดับไหน? “ชยุส ยังพิชิต” นักแข่งและนักธุรกิจหนุ่มคนรุ่นใหม่ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด จะมาเล่าให้ฟัง…
ทำไมขอเป็นดีลเลอร์เมอร์เซเดส-เบนซ์
เรามีธุรกิจรถเช่าภายใต้แบรนด์ “ไทยเรนต์อะคาร์” (THAI RENT A CAR) เมื่อตัดสินจะขยายธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ จึงตัดสินใจขอกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เพราะเห็นว่าเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และเป็นที่รู้จัก มีความแข็งแกร่งในแบรนด์ และเมอร์เซเดส-เบนซ์ปัจจุบันยังมีการปรับตัว เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ อย่างการมีรถรุ่นใหม่ๆ สู่ตลาดใน 1-2 ปีนี้ ที่จะสามารถขยายสู่ตลาดกว้างขึ้น และได้ปรับราคาใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
สตาร์แฟลกพิเศษกว่าโชว์รูมทั่วไป
โชว์รูมและศูนย์บริการของสตาร์แฟลก ลงทุนมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท ตั้งอยู่ริมถนนวิภาวดีบนพื้นที่ 2 ไร่ รวมพื้นที่ใช้สอยกว่า 10,000 ตรม. กำหนดเปิดอย่างเป็นทางการปลายปีนี้ ถือเป็นโชว์รูมรูปแบบใหม่แห่งแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในไทย โดยเป็นตึกสูง 5 ชั้น ซึ่งชั้นที่ 1-2 เป็นโชว์รูมที่มีความทันสมัย รวมถึงมีมุมอุปกรณ์และชุดตกแต่ง AMG โดยเฉพาะ และส่วนเซอร์วิสจะอยู่ชั้น 3-4 ซึ่งจะมีช่องซ่อมมากถึง 50 ช่อง จากปกติทั่วไปจะอยู่ที่ 15-20 ช่องซ่อมเท่านั้น ในส่วนของสำนักงานอยู่ชั้น 5 และจะติดตั้งโลโก้ดาวหมุนบนตึกเป็นแห่งแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในไทยด้วย
นโยบายดำเนินธุรกิจของสตาร์แฟลก
เรามุ่งหวังที่จะตอบสนองลูกค้าให้ได้มากกว่าที่ลูกค้าต้องการ โดยเฉพาะเรื่องเซอร์วิสที่เน้น 4 ข้อ ได้แก่ 1.คุณภาพบุคลากรที่ต้องถูกฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆ ครบครัน 3.มีโปรแกรมตอบสนองความต้องการลูกค้าอย่างเหนือระดับ เช่น มีรถไปที่บ้านลูกค้า นำรถลูกค้าที่มาใช้บริการส่งถึงบ้าน มีรถทดสอบระหว่างรอรับบริการ และอีกหลากหลายกิจกรรมที่ไม่มีใครทำมาก่อน และ 4.การดูแลลูกค้าเป็นพิเศษเหนือกว่าทั่วไป
ความโดดเด่นและจุดแตกต่างจากที่อื่นๆ
สตาร์แฟลกต้องการสร้างประสบการณ์การขาย ให้กับลูกค้าที่ไม่เหมือนกับรายอื่นๆ เราไม่ได้แค่ขายรถ เพราะลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือรถหรูอื่นๆ สิ่งสำคัญการตัดสินใจซื้อรถจะเป็นความสะดวกสบาย และเซอร์วิสหลังการขาย ซึ่งสตาร์แฟลกจะดูแลลูกค้าประหนึ่งเหมือนคุณเป็นลูกค้าอยู่ที่เยอรมนี
นอกจากขายรถแล้ว ยังจะมีการจัดกิจกรรมให้ลูกค้าสัมผัสรถจริงๆ เพื่อให้เรียนรู้การขับและเทคโนโลยีทันสมัย ที่มีในรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ว่ามันสามารถใช้อะไรได้บ้าง ตรงนี้จะทำให้เข้าถึงว่าเขาซื้อรถแพงๆ แล้วได้อะไรบ้าง และจะเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ผ่านกิจกรรมต่างๆ ภายในโชว์รูม
ที่สำคัญสตาร์แฟลกจะเน้นในเรื่องของบริการหลังการขาย เราเชื่อว่าลูกค้าที่ซื้อรถดีๆ ย่อมต้องการเซอร์วิสที่ดีที่สุด ยิ่งปัจจุบันเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น อย่างพวกรถไฮบริด หรือดีเซลไฮบริด ซึ่งรถยุโรปจะมีความซับซ้อนทางเทคโนโลยีมากกว่ารถญี่ปุ่น ตรงนี้จึงจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์หรือช่องซ่อมพิเศษ ตลอดจนผู้ที่มีประสบความการณ์และความชำนาญ โดยสตาร์แฟลกได้จ้างทีมงานชาวเยอรมัน ที่เป็นคนของเมอร์เซเดส เอจี มาดูแลตรงนี้โดยตรง รวมถึงการนำแนวคิดใหม่ๆ มาใช้ในงานบริการหลังการขาย หรือเซอร์วิส
เป้าหมายธุรกิจในอนาคตสตาร์แฟลก
คาดว่าภายในระยะเวลา 5 ปี สตาร์แฟลกจะเป็นดีลเลอร์ในระดับ TOP 5 ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทย โดยปัจจุบันแม้กำลังสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการทางการอยู่ แต่ได้เปิดขายและให้บริการเซอร์วิสชั่วคราว ในอาคารด้านหลังมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา มียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 30 คัน หรือจนถึงปัจจุบันเกือบ 300 คันแล้ว คาดว่าในปีต่อไปที่จะเปิดขายอย่างเป็นทางการ จะมียอดขายไม่ต่ำกว่าเดือนละ 400 คัน ไม่รวมรถฟลีตหรือรถขายล็อตใหญ่ให้กับบริษัท หรือองค์กรต่างๆ อีกประมาณ 150-200 คันต่อปี