ข่าวต่างประเทศ-ปอร์เช่ เผยสถิติใหม่ของการวิ่งทดสอบ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) อย่างเป็นทางการ ด้วยการทำเวลารอบสนามแข่ง Nürburgring Nordschleife ที่มีความยาวถึง 20.6 กิโลเมตร ได้ในเวลาเพียง 6.57 นาที หรือน้อยกว่าเดิมถึง 14 วินาที
Wolfgang Hatz สมาชิกบอร์ดบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาของปอร์เช่ ได้กล่าวถึงความสำเร็จนี้ไว้ว่า “พวกเราให้คำมั่นสัญญาว่าพวกเราจะผลิตรถ 918 สไปเดอร์ ออกมาให้ดีเยี่ยมสมบูรณ์แบบ ทำให้กลายเป็นรถที่จะสร้างความสุนทรีย์ในการขับขี่ได้อย่างเต็มพิกัด ประหยัดน้ำมันพร้อมเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และในวันนี้พวกเราสามารถทำได้สำเร็จแล้ว”
สำหรับ 918 สไปเดอร์ ถือได้ว่าเป็นรถแห่งอนาคตเจเนอเรชั่นล่าสุดของสายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ต ออกมาให้ยลโฉมกันอย่างเป็นทางการอีกครั้งในงานมหกรรมยานยนต์ International Motor Show (IAA) รถรุ่นนี้คือตัวแทนของการผสมผสานประสิทธิภาพความคล่องตัวในการขับขี่สูงสุดเข้าไว้กับการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยเวลารอบสนามแข่ง Nürburgring ที่ยอดเยี่ยมนี้ถือได้ว่าเป็นการสาธิตให้เห็นถึงศักยภาพที่มากมายของรถที่มาจากแนวคิดเครื่องยนต์ plug-in ไฮบริดจากปอร์เช่ และถือได้ว่าเป็นรุ่นยอดเยี่ยมที่สุดจากปอร์เช่สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดด้วยเช่นกัน
Dr. Frank Walliser ผู้ดูแลโครงการ 918 สไปเดอร์ กล่าวไว้ว่า “ด้วยพื้นฐานเครื่องยนต์ไฮบริดของ 918 สไปเดอร์ ที่เหนือชั้นนี้สามารถทำเวลารอบสนาม Nordschleife ได้อย่างยอดเยี่ยม ที่ 6.57 นาที คือข้อพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นที่สุดของนวัตกรรมยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ต พวกเราทำเวลานี้ได้สำเร็จเพราะความร่วมมือร่วมใจของทีมงานพัฒนารวมไปถึงพนักงานปอร์เช่ทุกคน ซึ่งเราภาคภูมิใจในความสำเร็จนี้เป็นอย่างยิ่ง”
เวลารอบสนามที่ดีที่สุดเดิมได้ถูกทำไว้เมื่อสี่ปีที่แล้ว แต่ถูกทำลายสถิติด้วยการทดสอบรถรุ่นนี้เมื่อวันที่ 4 กันยายน โดยมี Walter Röhrl ผู้ชนะการแข่งขัน European Rally Champion, Timo Kluck และ Marc Lieb ผู้ทดสอบการขับขี่จากปอร์เช่ เป็นผู้ขับขี่ในการทดสอบครั้งนี้ ทำเวลาได้น้อยกว่า 7 นาที
สำหรับผู้ที่ทำเวลา 6.57 นาที ได้คือ Marc Lieb ซึ่งใช้ความเร็วโดยเฉลี่ยที่ 179.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเก็บเวลาโดย Wige Solutions และ Marcus Schurig บรรณาธิการบริหารนิตยสาร "sport auto" ที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การทดสอบในครั้งนี้ รถสปอร์ตรุ่นนี้มีพละกำลังถึง 887 แรงม้า (652 กิโลวัตต์) อีกทั้ง 2 คันนี้ยังตกแต่งด้วยอุปกรณ์ตกแต่ง "Weissach package" ที่เพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ให้มากขึ้น และเสริมแต่งด้วย ยางมิชลินที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับ 918 สไปเดอร์ อีกด้วย
ขณะเดียวกัน อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงของ 918 สไปเดอร์ แบบผสมผสานอยู่ที่ 3.3-3.0 ลิตร/100 กิโลเมตร, ผสมผสานพลังงานไฟฟ้า 12.5-13.0 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง/100 กิโลเมตร และมีอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 79-70 กรัม/กิโลเมตร
Wolfgang Hatz สมาชิกบอร์ดบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาของปอร์เช่ ได้กล่าวถึงความสำเร็จนี้ไว้ว่า “พวกเราให้คำมั่นสัญญาว่าพวกเราจะผลิตรถ 918 สไปเดอร์ ออกมาให้ดีเยี่ยมสมบูรณ์แบบ ทำให้กลายเป็นรถที่จะสร้างความสุนทรีย์ในการขับขี่ได้อย่างเต็มพิกัด ประหยัดน้ำมันพร้อมเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และในวันนี้พวกเราสามารถทำได้สำเร็จแล้ว”
สำหรับ 918 สไปเดอร์ ถือได้ว่าเป็นรถแห่งอนาคตเจเนอเรชั่นล่าสุดของสายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ต ออกมาให้ยลโฉมกันอย่างเป็นทางการอีกครั้งในงานมหกรรมยานยนต์ International Motor Show (IAA) รถรุ่นนี้คือตัวแทนของการผสมผสานประสิทธิภาพความคล่องตัวในการขับขี่สูงสุดเข้าไว้กับการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยเวลารอบสนามแข่ง Nürburgring ที่ยอดเยี่ยมนี้ถือได้ว่าเป็นการสาธิตให้เห็นถึงศักยภาพที่มากมายของรถที่มาจากแนวคิดเครื่องยนต์ plug-in ไฮบริดจากปอร์เช่ และถือได้ว่าเป็นรุ่นยอดเยี่ยมที่สุดจากปอร์เช่สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดด้วยเช่นกัน
Dr. Frank Walliser ผู้ดูแลโครงการ 918 สไปเดอร์ กล่าวไว้ว่า “ด้วยพื้นฐานเครื่องยนต์ไฮบริดของ 918 สไปเดอร์ ที่เหนือชั้นนี้สามารถทำเวลารอบสนาม Nordschleife ได้อย่างยอดเยี่ยม ที่ 6.57 นาที คือข้อพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นที่สุดของนวัตกรรมยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ต พวกเราทำเวลานี้ได้สำเร็จเพราะความร่วมมือร่วมใจของทีมงานพัฒนารวมไปถึงพนักงานปอร์เช่ทุกคน ซึ่งเราภาคภูมิใจในความสำเร็จนี้เป็นอย่างยิ่ง”
เวลารอบสนามที่ดีที่สุดเดิมได้ถูกทำไว้เมื่อสี่ปีที่แล้ว แต่ถูกทำลายสถิติด้วยการทดสอบรถรุ่นนี้เมื่อวันที่ 4 กันยายน โดยมี Walter Röhrl ผู้ชนะการแข่งขัน European Rally Champion, Timo Kluck และ Marc Lieb ผู้ทดสอบการขับขี่จากปอร์เช่ เป็นผู้ขับขี่ในการทดสอบครั้งนี้ ทำเวลาได้น้อยกว่า 7 นาที
สำหรับผู้ที่ทำเวลา 6.57 นาที ได้คือ Marc Lieb ซึ่งใช้ความเร็วโดยเฉลี่ยที่ 179.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเก็บเวลาโดย Wige Solutions และ Marcus Schurig บรรณาธิการบริหารนิตยสาร "sport auto" ที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การทดสอบในครั้งนี้ รถสปอร์ตรุ่นนี้มีพละกำลังถึง 887 แรงม้า (652 กิโลวัตต์) อีกทั้ง 2 คันนี้ยังตกแต่งด้วยอุปกรณ์ตกแต่ง "Weissach package" ที่เพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ให้มากขึ้น และเสริมแต่งด้วย ยางมิชลินที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับ 918 สไปเดอร์ อีกด้วย
ขณะเดียวกัน อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงของ 918 สไปเดอร์ แบบผสมผสานอยู่ที่ 3.3-3.0 ลิตร/100 กิโลเมตร, ผสมผสานพลังงานไฟฟ้า 12.5-13.0 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง/100 กิโลเมตร และมีอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 79-70 กรัม/กิโลเมตร
