เดี่ยวนี้รถยนต์ต้นแบบไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ที่คาดเดาได้ยากว่าจะขึ้นสายการผลิตจริงหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ ผลิตขึ้นมาเพื่อโชว์เทคโนโลยีไม่ว่าจะในเชิงวิศวกรรมหรืองานออกแบบ ต่างจากปัจจุบันที่จะดูเหมือนว่าจะเน้นในเรื่องของ การกระตุ้นความสนใจของลูกค้า หรือไม่ก็เป็นกระแสกระตุกยอดขายของคู่แข่ง
ดังนั้นต้นแบบในปัจจุบัน (ส่วนใหญ่) จึงเหมือนกับการนำรถยนต์ที่พร้อมขึ้นไลน์ผลิต (หรือดีไม่ดีขึ้นไลน์ผลิตไปแล้ว) มาแต่งนิดโน่นหน่อยให้ดูล้ำขึ้นอีกนิด แล้วจับใส่คำว่า Concept ต่อท้ายชื่อรุ่น จากนั้นก็นำขึ้นแท่นโชว์ตามงานมอเตอร์โชว์
และเราก็เชื่อว่า S-Class Coupe ของค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ก็คงไม่หนีจากตรงนี้สักเท่าไร เพราะเดาได้จาก หนึ่ง - หน้าตาของตัวรถที่ดูเหมือนกับรถยนต์ในสายการผลิต เช่นเดียวกับภายในห้องโดยสารที่ไม่ได้ล้ำจินตนาการ สอง - CL-Class หรือ S-Class Coupe รุ่นที่ทำตลาดอยู่ในตอนนี้ จะต้องถึงเวลาเปลี่ยนโฉมตามอายุตลาดแล้ว (หากเบนซ์คิดจะยังลุยตลาด Coupe ยักษ์ต่อไป) และ สาม - เดี่ยวนี้ต้นแบบของเบนซ์ถูกจับมาขึ้นไลน์ผลิตกันเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะพวกที่ถูกเปิดตัวในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา
และก็เชื่อแน่ (อีกเช่นกัน) ว่า S-Class Coupe Concept คันนี้ก็คงเป็นตัวแทนของ CL-Class เพียงแต่ว่าเมื่อถึงเวลาขาย จริงแล้ว จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า เพราะชื่อของ CL-Class เพิ่งเอามาใช้ได้เพียง 3 รุ่นเท่านั้น แต่ช่วงที่ผ่านมาเบนซ์จัดการยกเครื่องไลน์อัพของผลิตภัณฑ์ตัวเองใหม่ เลยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร S-Class Coupe มาพร้อมกับแนวทางการออกแบบที่ยึดเอา Language Design ยุคปัจจุบันของค่ายดาว 3 แฉกมาแบบเต็มๆ โดยเฉพาะกระจังหน้าทรงยื่นๆ และการดันเบ้าไฟหน้าให้บุ๋มลึกลงไป เหมือนกับที่พบเห็นได้ใน CLS และ SLK
ในแง่ของความใหญ่โตคงไม่ต้องพูดถึง เพราะว่าตัวรถใช้พื้นฐานเดียวกับ S-Class ซีดาน โดยมีความยาวมากถึง 5,050 มิลลิเมตร กว้าง 1,958 มิลลิเมตร สูง 1,490 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,945 มิลลิเมตร เพิ่มความสปอร์ตด้วยล้อแม็กวงโต ไซส์ 21 นิ้วจับคู่กับยางขนาด 265/35R21 ที่ล้อหน้า และ 295/35R21 ที่ล้อหลัง
เช่นเดียวกับรุ่นซีดาน ใน S-Class Coupe อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เท่าที่รุ่นซีดานมี โดยเฉพาะไฟหน้าสุดล้ำสมัย และการนำหลอด LED มาใช้ตามจุดต่างๆ ของตัวรถ รวมถึงระบบความปลอดภัย เช่น ROAD Surface Scan ในรุ่นต้นแบบมากับเครื่องยนต์วี8 แบบเทอรต์โบคู่ รีดกำลังออกมาได้ 455 แรงม้า ซึ่งรุ่นจำหน่ายจริงก็คง ไม่มีอะไรต่าง มีขายทั้งรุ่นวี8 และวี12 เช่นเดียวกับตัวแรง AMG ก็คงมีทั้งรหัส 63AMG สำหรับวี8 และ 65AMG สำหรับวี12
แม้ยังไม่คอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการ แต่ดูยังไงก็คงจะมีผลิตจริง คราวนี้ก็ต้องดูว่าจะยังใช้ชื่อ CL เหมือนเดิม หรือจะเปลี่ยนใหม่เหมือนอย่างที่เกิดขั้นกับ CLK
