xs
xsm
sm
md
lg

ฐิติกร…รุกเช่าซื้อจักรยานยนต์ในอาเซียนปีนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ธุรกิจต่างๆ สั่นสะเทือนไปด้วย รวมถึงตลาดรถจักรยานยนต์ และแน่นอนย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจเกี่ยวเนื่อง อย่างธุรกิจสินค้าเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และยิ่งในอีกไม่กี่ปีอาเซียนจะเปิด AEC จึงน่าสนใจจะมีการปรับตัวและดำเนินการอย่างไร?... “ประพล พรประภา” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือทีเค (TK) ผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่จะให้คำตอบ…
ประพล พรประภา
อนาคตรถจักรยานยนต์ไทย

ในไทยส่วนใหญ่จะเป็นรถจักรยานยนต์ขนาด 110-125 ซีซี. เป็นการคมนาคมที่ถูกสุด น้ำมันถังหนึ่ง 5 ลิตร ไปได้ระยะทางไกลพอสมควร ซึ่งยังไงรถจักรยานยนต์ต้องอยู่คู่กับสังคมไทยไปอีกนาน แม้ในกรุงเทพฯ จะที่มีระบบขนส่งหลากหลาย แต่การวางผังเมืองยังไม่ดี เวลาเดินทางไปถึงแค่จุดหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ถึงจุดหมายทีเดียว มันยังมีซอกซอยอีกเยอะ จึงเห็นมีวินมอเตอร์ไซค์ปากซอย และยังมีโครงการรถคันแรกมาทำให้รถติดเยอะเข้าไปอีก การใช้รถจักรยานยนต์จึงยังมีอยู่ หรือต่างจังหวัดอนาคตอาจจะมีรถไฟความเร็วสูง แต่มันผ่านเพียงเฉพาะบางจุดเท่านั้น

ดังนั้นรถจักรยานยนต์ในอีก 5 ปีข้างหน้า ยังคาดว่าจะโตไปได้ดีอยู่ แต่จำนวนประชากรจะเริ่มขยายไม่มาก ประกอบกับรายได้ของคนรุ่นใหม่ๆ สูงมากขึ้น จึงอาจหันไปซื้อรถยนต์แทน คงทำให้หลังจากนั้นตลาดรถจักรยานยนต์เริ่มชะลอตัวและเข้าสู่จุดอิ่มตัว นี่จึงสอดรับกับแผนของทีเคที่จะขยายเข้าไปอาเซียน และเราต้องไปปักธงก่อนเปิดเออีซีในปี 2015 แต่จริงๆ เราไม่ได้ไปเพราะการเกิดเออีซี อย่างที่บอกทีเคได้มองภาพรวมดังกล่าวไว้ จึงได้มีการไปสำรวจมาก่อน แต่จังหวะเหมาะกับตรงนี้พอดี

จะขยายสู่อาเซียนเมื่อไหร่

ตอนนี้ทีเคได้ส่งทีมงานเข้าไปศึกษาในหลายประเทศ และกำลังขอใบอนุญาตดำเนินธุรกิจอยู่ ปีนี้เชื่อว่าอย่างน้อยต้องสามารถเปิดดำเนินงานได้สักแห่งใน 1 ประเทศ หรืออาจจะเป็น 2 ประเทศก็ได้ แต่ เปิดได้ประเทศหนึ่งแน่ๆ ปีนี้ เบื้องต้นจะเข้าไปเปิดดำเนินธุรกิจเองไม่ได้ร่วมกับใคร เพราะแต่ละประเทศมีวัฒนธรรมของตนเองอาจจะเป็นปัญหาได้ แน่นอนเมื่อสามารถอยู่ได้อย่างแข็งแกร่ง เฟสต่อไปคงจะต้องมาพิจารณาเรื่องการเข้าไปซื้อกิจการ หรือร่วมทุนด้วย

ข้อดีของการเข้าไปในเออีซี

ถ้าไปได้ย่อมทำให้ฐานลูกค้าเปิดกว้างมาก อาเซียนมีประชากร 600 ล้านคน จากปัจจุบันที่ในไทยมีประชากรเพียงแค่ 65 ล้านคน แต่ทีเคคงไม่ได้ไปทุกประเทศ อย่างประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์นี่ไม่ใช่เป้าหมาย ที่ไปคงเป็นอินโดนีเซีย และเวียดนาม หรือประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ นี่แหละ

ธุรกิจเช่าซื้อในประเทศต่างๆ

บางประเทศใกล้เคียงกับไทย แต่บางประเทศก็ต่างกัน อย่างอินโดนีเซียเรื่องเงินผ่อนทำมานาน และตลาดเขาใหญ่กว่าไทย 4-5 ตัว พม่าเพิ่งเปิดประเทศย่อมระบบเช่าซื้อยังใหม่อยู่ และเวียดนามเพิ่งเริ่มไม่นานเท่าไหร่ ส่วนประเทศลาวน่าจะง่ายในเรื่องภาษา โดยทีเคได้ศึกษาหลายๆ ประเทศ ซึ่งลาวก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ทุกประเทศต้องศึกษาเรื่องกฎหมายและการบังคับใช้ให้ดี อย่างที่ทราบๆ กัน บางทีกฎหมายเขียนไว้ชัด แต่พอทำจริงๆ กลับเป็นอีกเรื่อง

เรื่องของเงินลงทุนในเบื้องต้น

การไปอาเซียนไม่จำเป็นต้องระดมทุน เพราะฐานทุนหรือส่วนของผู้ถือหุ้นมีมากกว่า 4 พันล้านบาท (กำไรสะสมบวกกับทุนจดทะเบียน) ปกติไฟแนนซ์เขากู้ 8-9 เท่าของฐานทุน แต่ของทีเคแค่ 1.5 เท่านั้นเอง ยกเว้นจะซื้อกิจการที่ใหญ่มากๆ ถึงจะต้องมีการกู้เพิ่ม และทีเคยังมีวงเงินของการลงทุนอีกเยอะ ซึ่งในเบื้องต้นจะใช้เงินลงทุนประมาณหลักร้อยล้านบาทในแต่ละประเทศ และค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อไป จึงไม่มีความจำเป็นในเรื่องของการระดมทุน หรือกู้เงินเพิ่ม

เป้าหมายและผลประกอบการ

ในไทยยังคงจะเติบโตดี เพราะจะมีการขยายสาขาฐิติกรไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น และต่อไปโอกาสยังเปิดกว้างให้กับบริษัทเช่าซื้อรายใหญ่ เนื่องจากปัจจุบันร้านค้าย่อย หรือดีลเลอร์ ที่เริ่มจะเป็นคนรุ่นลูกเข้ามาบริหารไม่ค่อยจะทำเช่าซื้อเอง มันค่อนข้างยุ่งยากและต้องวางระบบลงทุนเยอะ จึงเป็นโอกาสของไฟแนนซ์ หรือลิสซิ่งรายใหญ่ ซึ่งทีเคถือเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ยังมีแชร์เพียงแค่เกือบ 10% ดังนั้นคาดว่าปีนี้จะมีรายได้รวมประมาณ 4 พันล้านบาท จากปีที่ผ่านมากว่า 3.6 พันล้านบาท และเมื่อทีเคก้าวเข้าสู่อาเซียน คาดว่าภายใน 5 ปี จะทำให้ผลประกอบการมีสัดส่วนเป็นครึ่งหนึ่งของรายได้รวมทั้งหมด


กำลังโหลดความคิดเห็น